ฟุตบอลลีกหยุดพัก ถึงเวลาฟุตบอลทีมชาติ! แน่นอนว่าการแข่งขันฟุตบอลในแต่ละปี นอกจากศึกฟุตบอลลีกของแต่ละประเทศจะเดินหน้าทำการแข่งขันตามโปรแกรมที่วางเอาไว้แล้ว ในแต่ละช่วงก็จะมีการหยุดพักเบรก เพื่อหลีกทางให้กับโปรแกรมฟุตบอลทีมชาติ ไม่ว่าจะเป็นการอุ่นเครื่อง FIFA Day หรือการทำศึกรอบคัดเลือกรายการต่างๆ ซึ่งแต่ละชาติก็จะประกาศรายชื่อนักเตะกันออกมาก่อนเสมอ ซึ่งสำหรับทัพ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย ในเดือนนี้ก็เตรียมมีโปรแกรมบินไปอุ่นเครื่องกับทีมชาติจากยุโรปถึงสองชาติด้วยกัน ได้แก่ ทีมชาติจอร์เจีย ที่มี ควิชา ควารัตสเคเลีย ดาวดังจากนาโปลี ในกัลโช่ เซเรีย อา เป็นคนนำทัพ กับ ทีมชาติเอสโตเนีย ที่มี เฮนรี่ อนิเยียร์ อดีตนักเตะเมืองทองฯ กับบรรดานักเตะที่เล่นในลีกยุโรปติดทีมมากันครบครัน
แต่กับรายชื่อทีมชาติไทยที่ประกาศออกมาเพื่อเตรียมไปอุ่นเครื่องถึงมีหน้าใหม่เยอะมาก ในขณะที่บรรดาดาวดังที่คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดีก็หายเกลี้ยงกันไปเกือบหมดทีม ทั้งๆ ที่มีโอกาสได้ไปเยือนยุโรปทั้งที แถมยังเป็นการลองทีม 2 นัดสุดท้าย เพื่อเตรียมพร้อมในการแข่งฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกกับ ทีมชาติจีน ในช่วงปลายปี เรียกว่าแฟนบอลต่างงงกันเป็นไก่ตาแตกไปตามๆ กันว่า แล้วอย่างงี้จะพร้อมเหรอ ในเมื่อโค้ชไม่ได้ลองใช้ชุดที่ดีที่สุดของเขา จนกลายเป็นประเด็นดราม่าอยู่พักหนึ่ง ต้นสายปลายเหตุเป็นมาอย่างไร เราจะลองพาไปหาคำตอบดูครับ
ไม่เด็ดขาด ต้องขอสโมสรก่อน แล้วค่อยประกาศ
ประเด็นแรกเชื่อว่าใครที่ติดตามวงการฟุตบอลไทยมาอย่างยาวนานน่าจะพอเข้าใจ และก็คุ้นชินกับเรื่องนี้กันอยู่พอสมควร กับการทำงานแบบ ‘ไทยสไตล์’ ที่เอาความเกรงใจเป็นที่ตั้ง! ใช่ครับ ฟุตบอลไทยเป็นแบบนั้น อย่างการเรียกนักเตะมาติดทีมชาติ บ้านเราจะใช้วิธีส่งจดหมายไปขอสโมสรก่อนว่าคนนี้ได้ไหม ไม่เหมือนกับนานาประเทศที่ส่วนใหญ่เขาไม่ทำแบบนี้ เพราะเขาใช้วิธีประกาศรายชื่อออกหน้าสื่อออกมาก่อนเลยว่าจะเรียกใครบ้าง ซึ่งหลังจากนั้นก็ค่อยเป็นหน้าที่ของแต่ละสโมสรว่าใครมาได้ และมาไม่ได้ โดยถ้าไม่ได้ก็ต้องชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนว่าเพราะอะไร ถ้าเจ็บก็รายงานมา บางทีเขาถึงขั้นส่งแพทย์ไปตรวจถึงทีมเลยด้วยซ้ำว่าเจ็บจริงหรือเปล่า
มีเวลาเหลือเฟือ แต่ไม่รู้รออะไร
ประเด็นต่อมาคือเรารู้อยู่ก่อนแล้วว่า โปรแกรมทีมชาติจะเกิดขึ้นล่วงหน้า ถ้านับจริงๆ อย่างน้อยก็ต้องมีเวลาให้เตรียมตัวยาวนาน 2-3 เดือน แต่ไม่รู้ทำไมการทำงานถึงล่าช้ากันไปหมด มันไปติดคอขวดอยู่ที่ขั้นตอนไหน อย่างการเรียกตัวบางทีบอกว่าคนนั้นคนนี้ไม่ได้ เพราะเอกสารไม่พร้อม ยื่นทำวีซ่าไม่ทัน หลายคนก็งง เพราะไม่รู้ว่าตั้งแต่ที่ทราบโปรแกรมล่วงหน้า ทำไมถึงไม่เริ่มทำตั้งแต่เนิ่นๆ นี่ยังไม่นับการออกมาบอกว่าโปรแกรมเตะถี่ ถ้านักเตะไปอาจจะกลับมาแล้วไม่พร้อมกับการลงเล่นโปรแกรมต่างๆ ให้สโมสร ซึ่งเอาจริงๆ ก็มีเวลาที่จะสามารถจัดสรรรโปรแกรมให้กับทีมที่ปล่อยนักเตะไปรับใช้ชาติได้ สโมสรก็เลยเลือกที่จะไม่ปล่อย ทั้งๆ ที่นักเตะต่างชาติของแต่ละทีมที่ติดทีมชาติก็ต้องปล่อยเขากลับไปเล่นให้ประเทศเขาอยู่ดี แล้วทำไมเราถึงปล่อยคนไทยออกไปเล่นให้ทีมชาติไทยไม่ได้บ้าง?
จริงจังไปไหมกับ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก?
ประเด็นสุดท้ายที่มองแล้วเห็นภาพคือ เราจริงจังกับ เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก มากเกินไปหรือเปล่า โดยข้อนี้สังเกตได้ชัดเจนกับโปรแกรมไทยลีกระหว่าง เชียราย ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ ตราด เอฟซี โดนโยกมาเล่นเป็นคู่วันศุกร์ที่ 20 ตุลาคม เพื่อหลีกทางให้กับบอลถ้วยใหญ่เอเชีย ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่มีเวลาเตรียมทีมแน่นอนหากนักเตะไปเล่นให้ทีมชาติ เพราะกว่าจะมาถึงไทยก็วันที่ 19 ตุลาคม แต่คำถามคือ แล้วทำไมถึงลงเล่นในวันเสาร์ไม่ได้ ถ้าลองคิดคำตอบง่ายๆ ดูก็คงเป็นเรื่องของไม่มีเวลาเตรียมทีมให้พร้อมเล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ซึ่งถ้าเราสังเกตดีๆ ในยุโรปเขาก็มีโปรแกรมเหมือนเราทำไมเขาถึงยังทำได้ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ก็ โปรแกรมพรีเมียร์ลีกวันเสาร์ที่ 21 อาร์เซนอล จะต้องบุกไปเยือน เชลซี และหลังแข่งเสร็จทีมปืนใหญ่ ก็ต้องเตรียมเดินทางไปสเปนต่อ เพื่อเจอ เซบีย่า ในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก คืนวันอังคารที่ 24 เขาก็มีเวลาพักแค่ 2 วัน แต่ติ๊ต่างถ้า บีจีฯ เจอ ตราด วันที่ 21 พวกเขาก็จะเปิดบ้านเจอกับ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ต่อในวันที่ 24 เหมือนกัน แล้วยังไม่ต้องเดินทางไปไหนด้วย เลยเป็นสาเหตุที่ว่างั้นเราจะเลื่อนไปเล่นวันที่ 20 ตุลาคม ทำไมให้มันกระทบกับโปรแกรมทีมชาติ ทั้งๆ ที่มันเล่นวันเสาร์ก็ได้
นั่นก็คือเหตุผลคร่าวๆ ที่เราพอจะหามาบอกได้ว่าทำไมทีมชาติไทยถึงเรียกนักเตะมาติดทีมชาติได้เท่านี้ ถ้ามองในแง่บวกเราก็คงบอกได้ว่านี่คงเป็นโอกาสอันดีที่นักเตะใหม่ๆ จะได้โชว์ผลงานเพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาดีพอที่จะติดทีมชาติไทย ซึ่งเอาจริงๆ เราก็ไม่รู้ว่า มาโน่ โพลกิ้ง จะเลือกพวกเขาเหล่านี้มาติดชุดที่เจอจีนกันสักกี่คน แต่ถ้ามองตามความเป็นจริงก็ต้องบอกว่าตอนนี้การทำงานของสมาคมฯ หรือวงการฟุตบอลบ้านเรามันผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว!
