ประกาศไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับรางวัลบัลลงดอร์ประจำปี 2023 ซึ่งก็ไม่มีอะไรผิดพลาดและพลิกโผ เมื่อทาง ลิโอเนล เมสซี่ สตาร์ทีมชาติอาร์เจนตินา ผงาดคว้ารางวัลลูกฟุตบอลทองคำสมัยที่ 8 ให้กับตัวเองได้สำเร็จ เอาชนะสองรุ่นน้องอย่าง เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ และ คิลิยัน เอ็มบัปเป้ ไปได้แบบไร้ข้อกังขา
เริ่มจากผลงานมาสเตอร์พีซที่เจ้าตัวพาทัพ ‘ฟ้าขาว’ ทีมชาติอาร์เจนตินา ผงาดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จในฐานะกัปตันทีม โดยที่เขาลงเล่นครบทุกเกมในทัวร์นาเมนต์ ยิงไปทั้งหมด 7 ประตู ซึ่งเป็น 2 ประตูในนัดชิงกับฝรั่งเศส พร้อมกับรับรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของการแข่งขันไปครองด้วย
ทางด้านผลงานในระดับสโมสร เมสซี่ ลงเล่นให้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง 41 นัดในทุกรายการ ยิงไปทั้งหมด 21 ประตู และทำอีก 20 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมดังแห่งเมืองน้ำหอมป้องกันแชม์ลีกได้สำเร็จ ก่อนจะบินข้ามทวีปมาเล่นในเมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ กับ อินเตอร์ ไมอามี่ สโมสรของ เดวิด เบ็คแฮม โดยเขาก็ยังรักษาฟอร์มไว้ได้เหมือนเดิม ลงเล่นในแผ่นดินอเมริกาไปแล้วทั้งหมด 14 นัด กดไปแล้ว 11 ประตู บวกกับแอสซิสต์อีก 5 ลูก

สำหรับฟุตบอลทองคำลูกที่ 8 ของเมสซี่ ทำให้เขากลายเป็นผู้คว้าบัลลงดอร์ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ แถมยังทิ้งห่างคู่ปรับตลอดกาลของเขาอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ยังหยุดอยู่ที่ 5 สมัยออกไปอีก นอกจากนี้อดีตกัปตันบาร์เซโลน่ายังสร้างสถิติเพิ่มอีกมากมายไม่ว่าจะเป็น นักเตะคนแรกที่ได้บัลลงดอร์นอกลีกยุโรป, คว้าบัลลงดอร์กับ 3 สโมสรแตกต่างกัน และ คว้าบัลลงดอร์ได้ในช่วง 3 ทศวรรษ (2000, 2010, 2020) นั่นก็ทำให้การคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในครั้งนี้ของเมสซี่ยิ่งตอกย้ำว่าเขาคือ ‘The GOAT’ (Greatest Of All Time) แห่งโลกลูกหนัง และเขาคือนักฟุตบอลที่เก่งที่สุดตลอดกาล
ส่วนผลรางวัลอื่นๆ เมื่อค่ำคืนที่ผ่านมาจะมีอะไรอีกบ้าง เรามีมาฝากกันครับ





นักฟุตบอลชายยอดเยี่ยม: ลิโอเนล เมสซี่ (ปารีส แซงต์ แชร์กแมง / อินเตอร์ ไมอามี่)
นักฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยม: ไอตาน่า บอนมาติ (บาร์เซโลน่า)
กองหน้ายอดเยี่ยม: เออร์ลิ่ง ฮาลันด์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม: เอมิเลียโน มาร์ติเนซ (แอสตัน วิลล่า)
นักฟุตบอลดาวรุ่งยอดเยี่ยม: จูด เบลลิงแฮม (เรอัล มาดริด)
นักฟุตบอลที่อุทิศตนเพื่อสังคม: วินิซิอุส จูเนียร์ (เรอัล มาดริด)
สโมสรฟุตบอลชายยอดเยี่ยม: แมนเชสเตอร์ ซิตี้
สโมสรฟุตบอลหญิงยอดเยี่ยม: บาร์เซโลน่า