เหลือเวลาอีกแค่วันเดียวเท่านั้น ลีกฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกและได้รับความนิยมมากที่สุดลีกหนึ่งในประเทศไทย ‘พรีเมียร์ลีก’ ของอังกฤษ ก็จะกลับมาเปิดฤดูกาล 2024/25 กันแล้ว หลังจากแฟนบอลหลายทีมเว้นวรรครอกันไปประมาณราวๆ สองเดือนก็เตรียมที่จะกลับมาเฝ้าหน้าจอรอเชียร์ทีมรักของตัวเองกันอีกครั้ง และก่อนที่จะไปบู๊กับซีซันใหม่ที่จะมาถึง วันนี้เราจะพาไปดูอีกหนึ่งเรื่องน่าสนใจที่หลายคนอาจจะไม่ได้คิดถึงกันมาก่อน นั่นก็คือเรื่องของ ‘ความยั่งยืน’ ที่ทั้งตัวลีกและสโมสรเตรียมจะผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจังมากขึ้นภายในฤดูกาลนี้ หลายทีมมีนโยบายที่น่าติดตามและน่าสนใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบนอกสนาม จะมีอะไรบ้าง ติดตามได้เลยครับ
การเติบโตเรื่องความยั่งยืนในโลกฟุตบอล
แน่นอนว่าฟุตบอลเป็นกีฬาที่มีความนิยมในระดับโลก และมีอิทธิพลต่อแฟนบอลหลายล้านคนทั่วโลก ซึ่งส่งผลถึงเรื่องความรับผิดชอบภายนอกสนามด้วย หลายสโมสรเริ่มตระหนักถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมในเชิงบวกมากขึ้น พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลที่คนรู้จักและเข้าถึงทั้งโลกก็กำลังจะพัฒนาให้ตัวเองเป็นผู้นำในด้านความยั่งยืนเช่นกัน โดยข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ Sport Positive Leagues เว็บที่ทำงานเรื่องความยั่งยืนเกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล เผยว่าปัจจุบันมีสามสโมสรที่ได้รับการรับรองเรื่องความพยายามในการรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน และมีห้าสโมสรลงนามใน UNFCCC (กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ) Sports for Climate Action ได้แก่ อาร์เซนอล, ลิเวอร์พูล, นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด, ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์, และวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส

สนามกีฬาสีเขียว และ การใช้พลังงานหมุนเวียน
สนามกีฬาเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของทีมฟุตบอล จากรายงานมีสโมสรมากถึงเก้าสโมสรที่มีระบบการนำน้ำฝนหรือน้ำใต้ดินกลับมาใช้ใหม่ ยกตัวอย่างเช่น สนามของ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ที่มีระบบเก็บกักน้ำฝน เลือกใช้แสงสว่างแบบประหยัดพลังงาน และโปรแกรมรีไซเคิลต่างๆ ที่ครอบคลุมเรื่องของสิ่งแวดล้อม เช่นเดียวกันกับสนามเอติฮัด สเตเดี้ยม ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีการลงทุนในเรื่องของแผงโซลาร์เซลล์ รวมไปถึงโรงงานความร้อนและไฟฟ้าร่วม (CHP) ที่ช่วยลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีอีกหกสโมสรที่ตั้งเป้าหมาย Net-zero มีการผลิตพลังงานสะอาดในสนามกีฬา อะคาเดมี หรือสนามฝึกซ้อม ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน 100% โดยอาร์เซนอลเป็นทีมแรกที่ริเริ่มเรื่องนี้ และมีอีกหลายสโมสร เช่น เชลซี, ลิเวอร์พูล, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, เวสต์แฮม, วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอร์เรอร์ส ฯลฯ

นโยบายการเดินทางที่ยั่งยืน ลดการปล่อยคาร์บอน
อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในกีฬาฟุตบอลคือเรื่องของ ‘การเดินทาง’ ที่จำเป็นทั้งตัวสโมสร และแฟนบอลที่ต้องออกเดินทางไปเยือนทีมอื่นๆ รวมถึงการเดินทางมาดูทีมรักในเกมเหย้า โดยมีถึงเจ็ดสโมสรที่เริ่มมีนโยบายการเดินทางที่ยั่งยืน และมีอีกกว่าแปดสโมสรที่ทำการสำรวจการเดินทางของแฟนบอลเพื่อนำมาพัฒนานโยบายเรื่องนี้ เพื่อเป็นการลดการปล่อยคาร์บอนเกินความจำเป็น ยกตัวอย่างเช่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มีการแนะนำแผนการเดินทางอย่างครอบคลุม มีการสนับสนุนให้แฟนบอลใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ปั่นจักรยาน และโดยสารรถร่วมกัน นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อระบบขนส่งสาธารณะไปยังสนามกีฬา ในขณะที่อีกหนึ่งทีมอย่าง ไบรท์ตัน ก็ได้ลงทุนซื้อรถบัสไฟฟ้าเพื่อรับส่งแฟนบอลทั้งขาไปและขากลับในวันแข่งขัน ซึ่งช่วยลดผลกระทบเรื่องของสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างมาก เป็นต้น

การจัดการขยะ และการแก้ไขปัญหาเรื่องพลาสติก
รายงานบอกว่ามีสโมสรมากถึง 16 จาก 20 ทีมที่มีการนำขยะไปฝังกลบ 100% และยังมีเป้าหมายการรีไซเคิลที่เข้มงวด แน่นอนว่าขยะพลาสติกเป็นหนึ่งในปัญหาระดับโลกที่ต้องเร่งแก้ไข สโมสรเหล่านี้ได้พยายามลดการใช้พลาสติกและส่งเสริมการรีไซเคิลมากขึ้น ตัวอย่างเช่น เอฟเวอร์ตัน มีการนำแก้วที่ใช้ซ้ำได้มาใช้ที่สนาม เป็นการช่วยลดขยะพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวได้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ทีมยังสนับสนุนให้แฟนบอลนำขวดที่ใช้ซ้ำได้มาเอง เพิ่มจุดรีไซเคิลขยะทั่วทั้งสนามกูดิสัน พาร์ค หรืออย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ที่ใช้มาตรการคล้ายๆ กัน และมีการห้ามใช้หลอดและช้อนส้อมพลาสติกในสนามเหย้าของพวกเขาด้วย
การมีส่วนร่วมกับชุมชน เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
ปิดท้ายด้วยเรื่องของความยั่งยืนที่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องทำเรื่องของสิ่งแวดล้อมเสมอไป เพราะการปลูกฝังหรือส่งเสริมเรื่องความตระหนักรู้ในการร่วมกันรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคมก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน สโมสรในพรีเมียร์ลีกกำลังพัฒนาเรื่องนี้เพื่อส่งเสริมความยั่งยืนและให้ความรู้แก่แฟนบอลเกี่ยวกับความสำคัญในการดูแลสิ่งแวดล้อม อย่าง เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ที่ทำโครงการการศึกษาในโรงเรียนในท้องถิ่น มีการสอนเด็กๆ เรื่องความยั่งยืน เพื่อแสดงให้เห็นถึงวิธีที่พวกเขาสามารถสร้างความแตกต่างในเรื่องเหล่านี้ให้เกิดขึ้นได้