ช้างศึก คว้า 3 แต้ม! แต่ยิงได้แค่ 1 ประตู ปัญหาจบสกอร์ที่ต้องแก้กันต่อ

26 มี.ค. 2568 - 11:00

  • ทีมชาติไทยคว้า 3 แต้มสำคัญในนัดเปิดสนามศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก ด้วยการชนะทีมชาติศรีลังกา 1-0

  • 3 คะแนนคือเรื่องที่ดีแต่ชนะแค่นี้มัน ‘น้อยไปไหม’ สิ่งที่ทีมชาติไทยต้องเร่งแก้ไขปัญหาที่สุดตอนนี้คือ ‘การจบสกอร์’

Thailand-National-Team-bad-attacking-SPACEBAR-Hero.jpg

จบไปแล้วเรียบร้อยสำหรับศึก ‘เอเชียน คัพ 2027’ รอบคัดเลือก นัดแรกของทัพ ‘ช้างศึก’ ทีมชาติไทย โดยเราเปิดสนามราชมังคลากีฬาสถานคว้าสามแต้มสำคัญไปได้สำเร็จด้วยการเอาชนะทีมชาติศรีลังกาไปด้วยสกอร์ 1-0 แน่นอนว่าการได้สามคะแนนในนัดเปิดสนามเป็นการเริ่มต้นที่ดีกับการเดินหน้าเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย แต่เรื่องที่แฟนบอลส่วนใหญ่พูดว่าเสียดายเป็นเสียงเดียวกันก็คือเราชนะเขา ‘น้อยไปไหม’ ด้วยระดับของศรีลังกาที่เป็นทีมจากโถ 4 เราควรยิงได้ขาดกว่านี้อย่างน้อยก็ 2 ประตูขึ้นไปหรือถ้าจะให้ดูฟอร์มหรูสุดๆ ก็สัก 4 ประตู

โดยก่อนเกมทางด้าน มาซาทาดะ  อิชิอิ เฮดโค้ชทีมชาติไทยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ชนะ 1-0 ก็เป็น 3 คะแนน และเกมเมื่อวานนี้ก็จบด้วยสกอร์ตามที่เขาบอกไว้จริงๆ  เหตุผลสำคัญอย่างแรกที่เราชนะแค่นี้เชื่อว่าแฟนๆ ทั้ง 17,000 คน ที่ราชมังฯ และอีกหลายคนที่ชมผ่านการถ่ายทอดสดน่าจะเห็นเหมือนกันคือ ‘การจบสกอร์’ เมื่อวานนี้ไทยเราทำได้ ‘ทื่อสุดๆ’ เราโยนโอกาสสำคัญทิ้งไปอย่างน่าเสียดายมากมาย ไล่ตั้งแต่ พาตริก กุสตาฟส์สัน ที่มีโอกาสบวกลูกที่สองได้จากการหลุดเดี่ยว แต่สุดท้ายก็ยิงหลุดเสาออกไป, สุภโชค สารชาติ ที่หวดด้วยขวาไปชนเสาเต็มๆ, ศุภณัฎฐ์ เหมือนตา ยิงแบบที่เห็นว่าจากฟอร์มใน ACL Elite ของเขายังไงลูกนี้ก็เข้าแน่ๆ แต่ดันไปติดผู้รักษาประตูเสียอย่างนั้น ปิดท้ายด้วยสองโอกาสสุดจะแจ้งของ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย โดยโอกาสแรกของเขายิงหลุดกรอบไปแบบน่าเสียดายสุดๆ ทั้งที่ผู้รักษาประตูเขาประมาทเปิดพื้นที่เสาแรกไว้เยอะมาก และโอกาสที่สองที่น่าเสียดายจัดเลยก็คือเขากระชากหนีผู้รักษาประตูได้แล้ว เหลือแค่หน้าประตูโล่งๆ กับกองหลังหนึ่งคนแต่เขายึกยักไม่ยิงจนสุดท้ายเสียจังหวะพลาดโอกาสไป

ต่อเนื่องจากการจบสกอร์ไม่เฉียบขาดพอจนทำให้ชนะแค่ประตูเดียว คนที่แฟนบอลรู้สึกเสียดายแทนสุดๆ คือ ‘เมสซี่เจ’ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กัปตันทีมที่ทำงานหนักมากที่สุดคนหนึ่งในเกมนี้ และสร้างโอกาสงามๆ ให้เพื่อนหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งถ้าเพื่อนร่วมทีมคมกันมากกว่านี้อย่างน้อยเขาน่าจะมีแน่ๆ 1-2 แอสซิสต์แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย โดยหลังจบเกมเมื่อวานนี้มีนักข่าวถามชนาธิปในห้องแถลงข่าวว่าอย่างน้อยเขาน่าจะได้ 2 แอสซิสต์เขาเสียดายไหม และเกมต่อไปจะเข้มข้นขึ้นแน่ๆ คิดว่ามันจะเป็นปัญหาไหม โดยเจตอบว่า “ไม่เสียดาย เพราะมองในแง่บวกคือเราสร้างโอกาสได้เยอะมาก แค่มันจบไม่ได้ แต่ถ้าไม่มีโอกาสเลยจะเสียดายมากกว่านี้ เกมหน้าก็จะแก้ไขเรื่องนี้ให้ดีขึ้น”

อีกเรื่องที่แฟนบอลพูดถึงกันพอสมควรก็คือทำไมอิชิอิถึงไม่ลองเปลี่ยนกองกลางอย่าง ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร และ วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ลงมาเล่นบ้าง เพราะสองคนนี้น่าจะช่วยเพิ่มมิติในเกมรุกให้ไทยได้มากขึ้น ซึ่งก็มีนักข่าวถามอิชิอิเหมือนกันว่าพอใจกับคู่กองกลางเมื่อวานนี้อย่าง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี และ วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ไหมและคิดจะถอดใครคนใดคนหนึ่งออกไหม เพราะเราเหลือโควตาเปลี่ยนตัวได้อีกคน ซึ่งอิชิอิก็ตอบว่า “สองคนนี้เมื่อวานทำงานได้ดี ทำตามวิธีการเล่นที่เขามอบหมายไปได้หมด ถ้าทั้งคู่ไม่กดดันก็ไม่อยากเปลี่ยน เพราะเกมนี้เราต้องการรักษาสกอร์เลยจำเป็นต้องเกมทั้งสองคนไว้” โดยจากคำตอบก็แสดงให้เห็นว่าเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของสองคนนี้และเป้าหมายหลักของเขาคือการรักษาผลการแข่งขัน ดังนั้นการเปลี่ยน ธนวัฒน์ หรือ วรชิต ลงมาอาจจะได้เกมรุกที่มิติดีขึ้นแต่เกมรับที่เอาอยู่ตลอดเกมก็จะหายไปด้วยซึ่งไม่ตรงกับเป้าหมายของเขาในนัดนี้

เกมเมื่อวานนี้การที่เราชนะแค่ 1 ประตู นอกจากปัญหาเกมรุกของเราก็คงต้องให้เครดิตกับทีมชาติศรีลังกาด้วยเพราะพวกเขาทำการบ้านเตรียมมาเล่นกับเราได้ดี มีการเข้าถึงตัวเร็วและหนักตลอด ทำให้แดนกลางของเราค่อนข้างอึดอัดและเล่นยากขึ้น นอกจากนี้การใช้ผู้เล่นต่างชาติก็ทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้น ไม่เหมือนนักเตะท้องถิ่นศรีลังกาแท้ๆ ที่ไม่เก่งเท่านี้ และต้องชื่นชมผู้รักษาประตูของเขาเช่นกันที่เซฟลูกยิงของทีมชาติไทยอยู่หลายต่อหลายหน

ท้ายที่สุดแล้วเมื่อวานนี้เราได้ 3 คะแนนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนัดแรกที่เป็นการเริ่มต้นที่ดีของการเล่นทัวร์นาเมนต์แบบนี้ หลังจากนี้ทางด้าน มาซาทาดะ อิชิอิ คงต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนักอีกครั้งเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องใหญ่ที่สุดของเราคือการจบสกอร์ เพราะตอนนี้เรื่องเกมรับไม่น่าจะต้องห่วงอะไรเท่าไหร่แล้ว สองเกมที่ผ่านมาเราเก็บคลีนชีตได้ทั้งหมด ทางด้านแผงมิดฟิลด์ก็ไม่มีปัญหาอะไรทั้งเรื่องเกมรับที่ก็เอาอยู่และช่วยแบ่งเบาภาระแดนหลังได้เป็นอย่างดี ส่วนเกมบุกก็เห็นกันชัดๆ ว่าป้อนจังหวะสำคัญให้แผงตัวรุกได้มากมายเหลือแค่ ‘ความเฉียบขาด’ อย่างเดียวจริงๆ นั่นแหละครับที่ต้องเร่งแก้ไข นัดต่อไปทัพ ‘ช้างศึก’ ต้องออกไปเยือนทีมชาติเติร์กเมนิสถาน ทีมจากโถ 2 ที่เป็นคู่แข่งหลักของเราในการแย่งชิงโควต้าเข้ารอบสุดท้าย อย่างน้อยๆ ต้องไม่แพ้ และถ้าชนะได้ก็จะยิ่งเพิ่มโอกาสให้สดใสมากขึ้น มารอดูกันว่าอิชิอิจะจัดการกับเรื่องนี้อย่างไร แน่นอนว่าแฟนบอลไทยคงไม่อยากรู้สึกอกหักเหมือนกับตอนฟุตบอลโลกที่ผ่านมาอีกรอบ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์