เปิด 7 ปลาวายร้ายเอเลียนสปีชีส์ที่เป็นตัวทำลายระบบนิเวศมากที่สุดในโลก

11 ก.ค. 2567 - 11:50

  • นอกจาก ‘ปลาหมอคางดำ’ ที่ทำลายระบบนิเวศทางน้ำในไทยอย่างรุนแรง จนต้องวางมาตรการกำจัดไม่ให้แพร่พันธุ์แล้ว ยังมีสายพันธุ์อื่นในโลกนี้ที่ร้ายกว่ามันซะอีก

  • SPACEBAR พาดู 7 สายพันธุ์ปลาวายร้ายที่รุกรานและสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศมากที่สุดในโลก

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Hero.jpg

จากกรณีที่ประเทศไทยพบการแพร่กระจายของ ‘ปลาหมอคางดํา’ ปลาเอเลียนสปีชีส์ (หรือสัตว์น้ำต่างถิ่น) ในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นตัวทำลายระบบนิเวศทางน้ำอย่างรุนแรง จนสร้างความเดือดร้อนให้เกษตรกรถึงขนาดที่บางจังหวัดประกาศว่าจะกำจัดไม่ให้มีการแพร่พันธุ์กันเลยทีเดียว 

นอกจากปลาหมอคางดำตัวร้ายแล้ว SPACEBAR พาดู 7 สายพันธุ์ปลาวายร้ายที่รุกรานและสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศมากที่สุดในโลก

1. ปลาดุกด้าน

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo01.jpg

ปลาดุกด้าน (walking catfish) เป็นสายพันธุ์รุกรานในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สามารถ ‘เดิน’ บนพื้นดินแห้งได้โดยใช้ครีบและหางเพื่อดิ้นจากแหล่งน้ำหนึ่งไปยังอีกแหล่งน้ำหนึ่ง นอกจากนี้ยังสามารถหายใจในอากาศและสามารถดำรงชีวิตโดยที่ไม่ได้อยู่ในน้ำเป็นระยะเวลานาน 

ปลาสายพันธุ์นี้สามารถอพยพไปยังพื้นที่อื่นและตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ แถมพวกมันยังปรับตัวได้ดี และทนต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

หากอยู่ในบ่อเลี้ยงร่วมกับปลาชนิดอื่นๆ มันก็จะกินปลาที่เลี้ยงไว้ในบ่อด้วย เกษตรกรจึงจำเป็นต้องสร้างรั้วกั้นรอบบ่อเลี้ยงปลาเพื่อป้องกันไม่ให้ปลาดุกด้านกินปลาที่เลี้ยงไว้จนหมด 

2. ปลาคาร์ปธรรมดา

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo02.jpg

ปลาคาร์ปธรรมดา หรือปลาไน (Common Carp) เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ที่แม้จะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ในป่า แต่ก็เป็นสายพันธุ์ที่แพร่หลายและรุกรานมากที่สุดในโลกเช่นกัน  

ปลาชนิดนี้มีถิ่นกำเนิดในยุโรปและเอเชียตะวันออก พบได้ทุกที่ยกเว้นขั้วโลกเหนือ-ใต้ และเอเชียเหนือ โดยทั่วไปมันจะหาอาหารด้วยการคุ้ยตะกอนที่อยู่ใต้น้ำ ซึ่งพฤติกรรมนี้เป็นการทำลายพืชใต้น้ำและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์สายพันธุ์อื่น นอกจากนี้ ปลาคาร์ปยังกินไข่ปลาชนิดอื่นส่งผลให้ประชากรปลาท้องถิ่นลดลง

เอเลียนสปีชีส์ชนิดนี้แพร่หลายไปทั่ว และสร้างความเสียหายอย่างมากจนต้องกำจัดพวกมัน เช่น การนำปลาบลูกิลล์มากินไข่ปลาคาร์ป หรือจงใจทำให้ปลาคาร์ปสัมผัสกับเชื้อไวรัส ‘koi herpes virus’ ซึ่งเป็นอันตรายต่อปลาคาร์ป เป็นต้น 

3. ปลากระพงแม่น้ำไนล์

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo03.jpg

ปลากระพงแม่น้ำไนล์ (Nile Perch) เป็นปลาท้องถิ่นของเอธิโอเปีย และเป็นเอเลียนสปีชีส์ที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อระบบนิเวศในแอฟริกาตะวันออก 

ในทะเลสาบวิกตอเรีย ปลาชนิดนี้ทำให้ปลาท้องถิ่นกว่า 200 สายพันธุ์ต้องสูญพันธุ์ไป นอกจากนี้ มันยังกินทุกอย่างตั้งแต่สัตว์จำพวกกุ้ง หอย ไปจนถึงแมลงและปลาชนิดอื่นๆ  

ทั้งนี้พบว่า ปลาตัวเมียเพียงตัวเดียวสามารถวางไข่ได้ครั้งละ 15 ล้านฟอง ดังนั้นจึงไม่ต้องใช้เวลามากนักในการครอบครองพื้นที่ และนั่นทำให้ปลาวายร้ายชนิดนี้เป็นหนึ่งในเอเลียนสปีชีส์ที่รุกรานระบบนิเวศมากที่สุด 

4. ปลาเทราต์สายรุ้ง

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo04.jpg

ปลาเทราต์สายรุ้ง (rainbow trout) เป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมและเป็นปัญหาโดยเฉพาะในพื้นที่ที่ปลาชนิดนี้ถูกนำเข้ามา ปลาชนิดนี้เป็นปลาท้องถิ่นทางตะวันตกของสหรัฐฯ แต่ในปัจจุบันก็สามารถพบได้ทั่วโลก 

ปลาเทราต์สายรุ้งเป็นสัตว์นักล่าที่ปรับตัวได้และแย่งอาหารกับปลาสายพันธุ์อื่นๆ จนทำให้ปลาบางชนิด เช่น ปลาเทราต์ทองคำแคลิฟอร์เนียและปลาน้ำจืดหลังค่อมถึงขั้นสูญพันธุ์ นอกจากนี้ยังสามารถแพร่พันธุ์ในลำธารได้อย่างง่ายดาย ทำให้ประชากรสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังลดลง ส่งผลกระทบต่อสัตว์สายพันธุ์อื่นๆ ที่กินสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นอาหาร 

5. ปลากระพงปากกว้าง

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo05.jpg

ปลากระพงปากกว้าง (Largemouth Bass) เป็นปลาน้ำจืดมีถิ่นกำเนิดในอเมริกาเหนือ และยังพบได้ในยุโรป เอเชีย แอฟริกา และอเมริกาใต้ ปลาชนิดนี้ถือเป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่นักตกปลาชื่นชอบมากทีเดียว 

ความร้ายกาจของมันก็คือ มันชอบกินกุ้งแม่น้ำ แมลง กบ และปลากระพงปากกว้างตัวอื่นๆ เพราะความอยากอาหารสูงของมันและอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร จึงทำให้ปลาท้องถิ่นชนิดอื่นๆ ค่อยๆ สูญพันธุ์ไปในที่สุด

6. ปลาสิงโต

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo06.jpg

ปลาสิงโต (Lionfish) ถือเป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่รุกรานโลกมากที่สุดสายพันธุ์หนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในน่านน้ำของอินโด-แปซิฟิกและทะเลแดง 

ปลาชนิดนี้ขึ้นชื่อในเรื่องครีบยาวที่มีพิษและความอยากอาหารที่ไม่รู้จักพอ ด้วยเหตุผลนี้เองที่ทำให้ปลาสิงโตอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร มันเป็นภัยคุกคามต่อระบบแนวปะการังที่เปราะบางอยู่แล้ว รวมถึงสายพันธุ์ปลาที่มีความสำคัญทางการค้า เช่น พวกปลากะพงแดง ปลาเก๋า และปลากระพง 

นักพายเรือและนักดำน้ำในฟลอริดาจึงได้รับอนุญาตให้ล่าปลาสิงโตได้เพื่อที่จะควบคุมปริมาณปลานักล่าเหล่านี้ 

7. ปลาช่อนเหนือ

most-invasive-fish-in-the-world-SPACEBAR-Photo07.jpg

ปลาช่อนเหนือ (Northern Snakehead) มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน รัสเซีย และเกาหลี เป็นปลาที่แข็งแรงและบึกบึนอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ปลาชนิดนี้สามารถหายใจเหนือน้ำ และอาศัยอยู่โดยไม่ได้อยู่ในน้ำได้นานถึง 4 วันหากพวกมันตัวเปียกน้ำ 

ปลาช่อนถือเป็นเอเลียนสปีชีส์อีกชนิดหนึ่งที่รุกรานระบบนิเวศ เพราะมันกินทุกอย่างตั้งแต่ปลา กบ สัตว์จำพวกกุ้ง กั้ง ปู ไปจนถึงแมลงตัวเล็กๆ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์