เมื่อจีนเปิดประเทศอีกครั้ง แล้วนักท่องเที่ยวต่างชาติจะไปเที่ยวจีนได้ไหม?
หลังจากเกือบ 3 ปีที่ต้องถูกตัดขาดจากโลกภายนอก ทางการจีนได้ประกาศยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าเมืองที่สำคัญหลายข้อซึ่งมีผลในวันที่ 8 มกราคมที่ผ่านมาในบรรดามาตราการเหล่านี้ จีนได้ยกเลิกข้อกำหนดการกักกันสำหรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศทั้งหมด ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวครั้งสำคัญที่สุดในช่วงที่ประเทศกำลังถอยห่างจากนโยบายปลอดโควิดที่เข้มงวด แล้วใครกันที่สามารถมาเยือนได้?
ชาวต่างชาติสามารถเดินทางไปประเทศจีนเพื่อการท่องเที่ยวพักผ่อนได้หรือไม่?
อย่างที่ทราบกันดี ถึงแม้ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการและเปิดประเทศแล้ว ก็ไม่ได้หมายความว่าจีนจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศได้ง่ายๆ ซึ่งพรมแดนส่วนใหญ่ ณ ตอนนี้ก็ยังคงปิดไม่ให้ชาวต่างชาติเข้ามา เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเข้ามาติดต่อธุรกิจหรือเยี่ยมเยียนครอบครัว อย่างไรก็ดี แม้ว่ารัฐบาลจะส่งสัญญาณว่ากำลังหาทางผ่อนปรนข้อจำกัดในพื้นที่เหล่านี้ด้วยเช่นกัน แต่ก็ยังไม่มีการประกาศไทม์ไลน์ออกมาแต่อย่างใดตามประกาศของรัฐบาล พบว่า ขณะนี้จีนมีแผนที่จะมุ่งเน้นไปที่การอำนวยความสะดวกในการยื่นขอวีซ่าสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางมาในประเทศเพื่อทำธุรกิจ ทำงาน ศึกษาต่อ เยี่ยมเยียนครอบครัว และพบปะสังสรรค์
จอร์จ เชา ซีอีโอของ Dragon Trail International ซึ่งเป็นบริษัทด้านการตลาดและการวิจัยที่มุ่งเน้นไปที่จีน กล่าวกับ CNN Travel ทางอีเมลว่า “มีหลายสิ่งที่จำเป็นต้องเกิดขึ้นก่อนที่ประเทศจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนอีกครั้งหลังจากยกเลิกมาตรการการกักตัว”
“ขั้นตอนต่อไป คือ การที่จีนจะเริ่มออกวีซ่าเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการท่องเที่ยวอีกครั้ง แม้ว่านี่จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการในการเปิดประเทศใหม่ แต่เรายังไม่กำหนดวันอย่างเป็นทางการ”
“การเพิ่มตารางเที่ยวบินระหว่างประเทศก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะจะทำให้การเดินทางไปจีนง่ายขึ้น และยังช่วยลดราคาเที่ยวบิน ซึ่งยังคงสูงกว่าระดับก่อนเกิดโรคระบาดอีกด้วย อย่างไรก็ดี การดำเนินการเหล่านี้ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วในบางจุดหมายปลายทาง เช่น เที่ยวบินระหว่างจีนกับเกาหลีใต้ และจีนกับสิงคโปร์ แต่สำหรับปลายทางหรือเส้นทางอื่นๆ นั้นยังไม่ชัดเจนว่าจะรวดเร็วเพียงใด” จอร์จ กล่าวเสริม
กฎใหม่คืออะไร?
ตามที่ทางการระบุไว้ ไม่จำเป็นต้องมีการกักตัวอีกต่อไปนับตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม (ก่อนวันดังกล่าวผู้เดินทางเข้าประเทศจะต้องถูกกักตัวที่โรงแรมเป็นเวลา 5 วัน และกักตัวที่บ้านเป็นเวลา 3 วันเมื่อเดินทางมาถึง)
ผู้เดินทางที่มุ่งหน้าสู่ประเทศจีนในขณะนี้จำเป็นต้องทำการทดสอบสารพันธุกรรมแบบ nucleic acid test หรือการตรวจแบบ RT PCR เป็นเวลา 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางเท่านั้น โดยผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบไม่จำเป็นต้องขอรหัสสุขภาพสีเขียวจากสถานทูตและสถานกงสุลจีนในต่างประเทศอีกต่อไปก่อนเข้าจีน
แต่ทั้งนี้ พวกเขาจำเป็นต้องกรอกผลตรวจในแบบฟอร์มคัดกรองโรคของศุลกากร หากผลตรวจออกมาเป็นบวก พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประเทศจีนจนกว่าผลตรวจออกมาเป็นลบ
แม้ว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะยังไม่สามารถมาเยือนประเทศจีนได้ แต่มาตรการใหม่นี้ก็ช่วยเอื้ออำนวยให้ชาวจีนที่กำลังศึกษาหรือทำงานต่างประเทศ ผู้ที่ไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินราคาสูงลิบลิ่วและต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลานานจนไม่สามารถกลับบ้านได้เป็นเวลาเกือบ 3 ปีด้วย
ทางการได้ยกเลิกการทดสอบจำนวนมาก การปิดเมือง และอนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกกักตัวอยู่ที่บ้านได้ ส่วนรหัส QR สุขภาพในโทรศัพท์มือถือยังคงมีอยู่ แต่ไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างกว้างขวางอีกต่อไปสำหรับผู้ที่เข้าสู่พื้นที่สาธารณะหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ
ในทางเทคนิคแล้ว แม้จะไม่มีคำสั่งของรัฐบาลเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ผู้ที่เข้าไปในพื้นที่สาธารณะในร่มหรือขึ้นรถโดยสารมักจะถูกขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด
ผู้เดินทางที่มุ่งหน้าสู่ประเทศจีนในขณะนี้จำเป็นต้องทำการทดสอบสารพันธุกรรมแบบ nucleic acid test หรือการตรวจแบบ RT PCR เป็นเวลา 48 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางเท่านั้น โดยผู้ที่มีผลตรวจเป็นลบไม่จำเป็นต้องขอรหัสสุขภาพสีเขียวจากสถานทูตและสถานกงสุลจีนในต่างประเทศอีกต่อไปก่อนเข้าจีน
แต่ทั้งนี้ พวกเขาจำเป็นต้องกรอกผลตรวจในแบบฟอร์มคัดกรองโรคของศุลกากร หากผลตรวจออกมาเป็นบวก พวกเขาจะไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประเทศจีนจนกว่าผลตรวจออกมาเป็นลบ
แม้ว่านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะยังไม่สามารถมาเยือนประเทศจีนได้ แต่มาตรการใหม่นี้ก็ช่วยเอื้ออำนวยให้ชาวจีนที่กำลังศึกษาหรือทำงานต่างประเทศ ผู้ที่ไม่สามารถซื้อตั๋วเครื่องบินราคาสูงลิบลิ่วและต้องกักตัวในโรงแรมเป็นเวลานานจนไม่สามารถกลับบ้านได้เป็นเวลาเกือบ 3 ปีด้วย
ข้อจำกัดของโควิดจีนในปัจจุบันมีอะไรบ้าง?
จีนยกเลิกนโยบายปลอดโควิดที่ดำเนินการมายาวนานอย่างกระทันหันเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา (2022) หลังจากเกิดเหตุประท้วงทั่วประเทศเกี่ยวกับผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างหนักทางการได้ยกเลิกการทดสอบจำนวนมาก การปิดเมือง และอนุญาตให้ผู้ป่วยที่มีผลตรวจเป็นบวกกักตัวอยู่ที่บ้านได้ ส่วนรหัส QR สุขภาพในโทรศัพท์มือถือยังคงมีอยู่ แต่ไม่ได้มีการบังคับใช้อย่างกว้างขวางอีกต่อไปสำหรับผู้ที่เข้าสู่พื้นที่สาธารณะหรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ
ในทางเทคนิคแล้ว แม้จะไม่มีคำสั่งของรัฐบาลเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัย และการเว้นระยะห่างทางสังคม แต่ผู้ที่เข้าไปในพื้นที่สาธารณะในร่มหรือขึ้นรถโดยสารมักจะถูกขอให้สวมหน้ากากอนามัยตลอด
ข้อจำกัดของโควิดในฮ่องกงมีอะไรบ้าง?
มาตรการในจีนแผ่นดินใหญ่กับฮ่องกงนั้นมีความแตกต่างกัน เนื่องจากฮ่องกงนั้นเป็นเขตปกครองพิเศษ ซึ่งเปิดให้นักเดินทางต่างชาติเข้าได้อย่างเต็มที่และได้ยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าประเทศเกือบทั้งหมดแล้ว
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022 ทางการฮ่องกงได้ยกเลิกข้อกำหนดสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามา ซึ่งจะต้องทำการทดสอบ PCR โควิด-19 เมื่อมาถึง แต่ทั้งนี้ ผู้เดินทางไปยังฮ่องกงยังคงต้องมีผลตรวจเป็นลบจากการทดสอบ PCR ภายใน 48 ชั่วโมงหรือการทดสอบแอนติเจนอย่างรวดเร็ว (RAT) ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนบินไปฮ่องกง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ยกเลิกบัตรผ่านวัคซีน ซึ่งประชาชนจำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสถานที่สาธารณะส่วนใหญ่ และไม่มีการจำกัดการชุมนุมอีกต่อไป แต่ทุกคนยังจะต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะทั้งหมด รวมถึงกลางแจ้งด้วย
ในส่วนของผู้เดินทางเข้าเมืองมาก็จะต้องทำการทดสอบแอนติเจนอย่างรวดเร็ว (RAT) เป็นเวลา 5 วันนับตั้งแต่เดินทางมาถึง
อย่างไรก็ดี เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2022 ฮ่องกงได้หยุดติดตามผู้ติดเชื้อ ซึ่งในวันที่ 8 มกราคม 2023 ที่ผ่านมารัฐบาลจีนก็ได้เปิดพรมแดนที่ติดกับฮ่องกงอีกครั้ง โดยจากรายงานพบว่า มีชาวฮ่องกงมากถึง 60,000 คนที่สามารถข้ามพรมแดนเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ได้ทุกวัน ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางเรือ
นับตั้งแต่มีการประกาศเปิดประเทศมา พบว่า มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ติด 1 ใน 10 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของเว็บไซต์ที่มีปริมาณการค้นหามากที่สุด
“ลำดับความสำคัญของวีซ่านั้นจะให้ครอบครัว ธุรกิจ และนักเรียนก่อน…นักท่องเที่ยวที่มาจีนน่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลัง” อัลเบิร์ต เอ็นจี ผู้ร่วมก่อตั้ง WildChina บริษัทท่องเที่ยวสุดหรูในกรุงปักกิ่งกล่าว
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนนั้นชี้ให้เห็นถึงการเปิดประเทศใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ยังไม่มีการกล่าวถึงการท่องเที่ยวขาเข้าหรือการออกวีซ่านักท่องเที่ยวที่สถานกงสุลทั่วโลกของจีน แม้ว่าคุณจะเป็นคนอเมริกันที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวในจีนเป็นเวลา 10 ปีและยังไม่หมดอายุ วีซ่าดังกล่าวก็จะไม่สามารถใช้ได้จนกว่าจะมีประกาศของรัฐบาลออกมาใหม่
นอกจากนี้ ยังมีคาดการณ์ว่าจีนอาจอนุญาตเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในตอนแรก เช่นเดียวกับญี่ปุ่น และตัวเลือกดังกล่าวนั้นก็มีจำกัดด้วย
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2022 ทางการฮ่องกงได้ยกเลิกข้อกำหนดสำหรับผู้ที่เดินทางเข้ามา ซึ่งจะต้องทำการทดสอบ PCR โควิด-19 เมื่อมาถึง แต่ทั้งนี้ ผู้เดินทางไปยังฮ่องกงยังคงต้องมีผลตรวจเป็นลบจากการทดสอบ PCR ภายใน 48 ชั่วโมงหรือการทดสอบแอนติเจนอย่างรวดเร็ว (RAT) ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนบินไปฮ่องกง
นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้ยกเลิกบัตรผ่านวัคซีน ซึ่งประชาชนจำเป็นต้องใช้เป็นหลักฐานการฉีดวัคซีนเพื่อเข้าสถานที่สาธารณะส่วนใหญ่ และไม่มีการจำกัดการชุมนุมอีกต่อไป แต่ทุกคนยังจะต้องสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะทั้งหมด รวมถึงกลางแจ้งด้วย
ในส่วนของผู้เดินทางเข้าเมืองมาก็จะต้องทำการทดสอบแอนติเจนอย่างรวดเร็ว (RAT) เป็นเวลา 5 วันนับตั้งแต่เดินทางมาถึง
อย่างไรก็ดี เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2022 ฮ่องกงได้หยุดติดตามผู้ติดเชื้อ ซึ่งในวันที่ 8 มกราคม 2023 ที่ผ่านมารัฐบาลจีนก็ได้เปิดพรมแดนที่ติดกับฮ่องกงอีกครั้ง โดยจากรายงานพบว่า มีชาวฮ่องกงมากถึง 60,000 คนที่สามารถข้ามพรมแดนเข้าสู่แผ่นดินใหญ่ได้ทุกวัน ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางเรือ
แล้วความต้องการท่องเที่ยวต่างประเทศของชาวจีนนั้นสูงหรือไม่?
หลังจากปิดประเทศไปนาน ก็พบว่าพลเมืองจีนที่หายจากการเดินทางไปต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เดินทางไปต่างประเทศอย่างเสรีอีกครั้ง
ผู้ใช้เวยป๋อจำนวนมากต่างเฉลิมฉลองอิสรภาพสำหรับการเดินทางครั้งใหม่ด้วยการติดแฮชแท็ก ‘ปีหน้าไปเที่ยวต่างประเทศที่ไหนดี’ ซึ่งมีผู้เข้าชมเกือบ 80 ล้านครั้งในช่วงปลายเดือนธันวาคม
นับตั้งแต่มีการประกาศเปิดประเทศมา พบว่า มาเก๊า ฮ่องกง ญี่ปุ่น ไทย เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร ติด 1 ใน 10 จุดหมายปลายทางยอดนิยมของเว็บไซต์ที่มีปริมาณการค้นหามากที่สุด
เปิดประเทศรอบนี้ยังไม่ต้อนรับนักเดินทางทุกประเภทหรอกนะ
หากคุณเป็นนักเดินทางซึ่งกระตือรือร้นที่จะเป็นคนกลุ่มแรกๆ ในการเดินทางไปยังประเทศจีนหลังยุคโควิด คุณอาจจะต้องรอไปก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่มีการออกวีซ่าท่องเที่ยวและยังไม่มีกำหนดวันว่าจะเปลี่ยนแปลงเมื่อใด“ลำดับความสำคัญของวีซ่านั้นจะให้ครอบครัว ธุรกิจ และนักเรียนก่อน…นักท่องเที่ยวที่มาจีนน่าจะเป็นช่วงครึ่งปีหลัง” อัลเบิร์ต เอ็นจี ผู้ร่วมก่อตั้ง WildChina บริษัทท่องเที่ยวสุดหรูในกรุงปักกิ่งกล่าว
อย่างไรก็ดี แถลงการณ์อย่างเป็นทางการจากรัฐบาลจีนนั้นชี้ให้เห็นถึงการเปิดประเทศใหม่อย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็ยังไม่มีการกล่าวถึงการท่องเที่ยวขาเข้าหรือการออกวีซ่านักท่องเที่ยวที่สถานกงสุลทั่วโลกของจีน แม้ว่าคุณจะเป็นคนอเมริกันที่ถือวีซ่าท่องเที่ยวในจีนเป็นเวลา 10 ปีและยังไม่หมดอายุ วีซ่าดังกล่าวก็จะไม่สามารถใช้ได้จนกว่าจะมีประกาศของรัฐบาลออกมาใหม่
นอกจากนี้ ยังมีคาดการณ์ว่าจีนอาจอนุญาตเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวในตอนแรก เช่นเดียวกับญี่ปุ่น และตัวเลือกดังกล่าวนั้นก็มีจำกัดด้วย
