ขณะที่ค่าครองชีพพุ่งขึ้นสูงลิ่ว ชาวอังกฤษกำลังตั้งคำถามเกี่ยวกับ ‘พิธีราชาภิเษก’ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง
สหราชอาณาจักรต่อสู้กับวิกฤตค่าครองชีพและการประท้วงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับค่าแรง ชาวอังกฤษบางคนสงสัยว่าเหตุใดผู้เสียภาษีจึงต้องจ่ายเงินสำหรับพิธีราชาภิเษกที่ฟุ่มเฟือยของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ในวันเสาร์นี้ (6 พ.ค.)
ขณะที่ค่าใช้จ่ายของพิธีราชาภิเษกถูกปกปิดไว้เป็นความลับ และไม่น่าจะมีการเปิดเผยยอดรวมทั้งหมดจนกว่าจะมีการจัดงานในวันเสาร์ ตามการประมาณการบางอย่าง ค่าใช้จ่ายจะอยู่ระหว่าง 50 - 100 ล้านปอนด์ (2 – 4 พันล้านบาท) นอกเหนือจากราคาของการดำเนินการรักษาความปลอดภัยขนาดใหญ่
“วันนี้ผมใช้เงิน 26 เพนนี (ไม่ถึงบาท) สำหรับมื้อกลางวัน” กอร์ดอนบอก AFP พร้อมโชว์ขนมปังที่เขาเพิ่งซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตทางตอนเหนือของลอนดอน ขณะที่อีเดน เอวิท ชาวลอนดอนอีกคนกล่าวว่า เขาลดค่าใช้จ่ายโดยการทำอาหารกินเอง 2 วันต่อสัปดาห์ และกินแซนวิชในช่วงวันที่เหลือ
“เราไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเดิม ผู้คนต่างดิ้นรน.. บางคนก็ไม่มีกินเลย ซึ่งมันยากมาก” เอวิทกล่าว
ขณะที่องค์กรอื่นๆ หันไปหาองค์กรการกุศล เช่น The Trussell Trust ซึ่งมีเครือข่ายธนาคารอาหารขนาดใหญ่ทั่วประเทศ
ด้านองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวว่า ได้จัดเตรียมอาหารฉุกเฉินเกือบ 3 ล้านห่อให้กับผู้คนที่ยากลำบากระหว่างเดือนเมษายนถึงมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
การสำรวจความคิดเห็นของ YouGov ในเดือนเมษายน ระบุว่า 51% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าพิธีสวมมงกุฎกษัตริย์ชาร์ลส์และสมเด็จพระราชินีคามิลลาไม่ควรได้เงินจากรัฐบาล
ขณะที่พระราชวังบักกิงแฮมได้กล่าวว่า ‘ตัวเลขที่แท้จริง’ สำหรับพิธีบรมราชาภิเษกจะถูกเปิดเผยในเวลาอันควร แต่โฆษกคนหนึ่งกล่าวว่า โอกาสระดับชาติเช่นนี้ จะดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกได้มากเกินกว่าจะคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่าย
สมาคมเบียร์และผับของอังกฤษประเมินว่าพิธีบรมราชาภิเษกจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก 120 ล้านปอนด์ หรือราว 5 พันล้านบาท สำหรับผับทั่วประเทศ โดยอุตสาหกรรมการบริการก็คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างมากเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ โอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีของอังกฤษ ยืนยันว่า รัฐบาลและกษัตริย์ใส่ใจในการดูแลผู้เสียภาษีและจะไม่มีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือเกินตัว
เมื่อเทียบกับพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คนในปี 1953 ขณะที่พิธีสำหรับกษัตริย์ชาร์ลส์จะถูกลดให้เหลือเพียง 2,300 คนเท่านั้น
แต่สำหรับนักเคลื่อนไหว เกรแฮม สมิธ หัวหน้ากลุ่ม Republic ต่อต้านระบอบกษัตริย์ บอกว่าค่าใช้จ่ายของพิธีบรมราชาภิเษกถือเป็นการ ‘ตบหน้า’ ผู้คนนับล้านที่ดิ้นรนกับวิกฤตค่าครองชีพ
“พิธีราชาภิเษกเป็นการเฉลิมฉลองอำนาจและสิทธิพิเศษทางกรรมพันธุ์ ซึ่งไม่มีให้เห็นในสังคมสมัยใหม่” สมิธกล่าว
สหราชอาณาจักรต่อสู้กับวิกฤตค่าครองชีพและการประท้วงอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับค่าแรง ชาวอังกฤษบางคนสงสัยว่าเหตุใดผู้เสียภาษีจึงต้องจ่ายเงินสำหรับพิธีราชาภิเษกที่ฟุ่มเฟือยของกษัตริย์ชาร์ลส์ที่ 3 ในวันเสาร์นี้ (6 พ.ค.)
ขณะที่ค่าใช้จ่ายของพิธีราชาภิเษกถูกปกปิดไว้เป็นความลับ และไม่น่าจะมีการเปิดเผยยอดรวมทั้งหมดจนกว่าจะมีการจัดงานในวันเสาร์ ตามการประมาณการบางอย่าง ค่าใช้จ่ายจะอยู่ระหว่าง 50 - 100 ล้านปอนด์ (2 – 4 พันล้านบาท) นอกเหนือจากราคาของการดำเนินการรักษาความปลอดภัยขนาดใหญ่
“วันนี้ผมใช้เงิน 26 เพนนี (ไม่ถึงบาท) สำหรับมื้อกลางวัน” กอร์ดอนบอก AFP พร้อมโชว์ขนมปังที่เขาเพิ่งซื้อในซูเปอร์มาร์เก็ตทางตอนเหนือของลอนดอน ขณะที่อีเดน เอวิท ชาวลอนดอนอีกคนกล่าวว่า เขาลดค่าใช้จ่ายโดยการทำอาหารกินเอง 2 วันต่อสัปดาห์ และกินแซนวิชในช่วงวันที่เหลือ
“เราไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเดิม ผู้คนต่างดิ้นรน.. บางคนก็ไม่มีกินเลย ซึ่งมันยากมาก” เอวิทกล่าว
ขณะที่องค์กรอื่นๆ หันไปหาองค์กรการกุศล เช่น The Trussell Trust ซึ่งมีเครือข่ายธนาคารอาหารขนาดใหญ่ทั่วประเทศ
ด้านองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวว่า ได้จัดเตรียมอาหารฉุกเฉินเกือบ 3 ล้านห่อให้กับผู้คนที่ยากลำบากระหว่างเดือนเมษายนถึงมีนาคมปีที่แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้น 37% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว
ตบหน้าประชาชน
ในเดือนธันวาคม กษัตริย์ชาร์ลส์ทรงบริจาคเงินก้อนหนึ่งโดยไม่เปิดเผย โดยบริจาคเพื่อระลึกถึงพระมารดาผู้ล่วงลับ ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เพื่อการกุศลช่วยเหลือผู้คนที่ไม่สามารถจ่ายค่าน้ำมันได้ และบริจาคเงินส่วนพระองค์อีก 1 ล้านปอนด์ (42 ล้านบาท) ให้กับธนาคารอาหาร อย่างไรก็ตาม จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้พบว่าคนอังกฤษจำนวนมากไม่ต้องการให้เงินภาษีของพวกเขา ถูกใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกการสำรวจความคิดเห็นของ YouGov ในเดือนเมษายน ระบุว่า 51% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าพิธีสวมมงกุฎกษัตริย์ชาร์ลส์และสมเด็จพระราชินีคามิลลาไม่ควรได้เงินจากรัฐบาล
ขณะที่พระราชวังบักกิงแฮมได้กล่าวว่า ‘ตัวเลขที่แท้จริง’ สำหรับพิธีบรมราชาภิเษกจะถูกเปิดเผยในเวลาอันควร แต่โฆษกคนหนึ่งกล่าวว่า โอกาสระดับชาติเช่นนี้ จะดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกได้มากเกินกว่าจะคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่าย
สมาคมเบียร์และผับของอังกฤษประเมินว่าพิธีบรมราชาภิเษกจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีก 120 ล้านปอนด์ หรือราว 5 พันล้านบาท สำหรับผับทั่วประเทศ โดยอุตสาหกรรมการบริการก็คาดว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างมากเช่นกัน
ก่อนหน้านี้ โอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีของอังกฤษ ยืนยันว่า รัฐบาลและกษัตริย์ใส่ใจในการดูแลผู้เสียภาษีและจะไม่มีการใช้จ่ายที่ฟุ่มเฟือยหรือเกินตัว
เมื่อเทียบกับพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ที่มีผู้เข้าร่วมกว่า 8,000 คนในปี 1953 ขณะที่พิธีสำหรับกษัตริย์ชาร์ลส์จะถูกลดให้เหลือเพียง 2,300 คนเท่านั้น
แต่สำหรับนักเคลื่อนไหว เกรแฮม สมิธ หัวหน้ากลุ่ม Republic ต่อต้านระบอบกษัตริย์ บอกว่าค่าใช้จ่ายของพิธีบรมราชาภิเษกถือเป็นการ ‘ตบหน้า’ ผู้คนนับล้านที่ดิ้นรนกับวิกฤตค่าครองชีพ
“พิธีราชาภิเษกเป็นการเฉลิมฉลองอำนาจและสิทธิพิเศษทางกรรมพันธุ์ ซึ่งไม่มีให้เห็นในสังคมสมัยใหม่” สมิธกล่าว
