จาง เหวินหง ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อในเซี่ยงไฮ้ กล่าวว่า แนวทางของจีนจะสอดคล้องกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกเมื่อโควิด-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น
“จีนแผ่นดินใหญ่กำลังเข้าสู่ระลอกแรกของการแพร่ระบาดสูงสุดแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อมีทรัพยากรทางการแพทย์มากขึ้น เราก็จะเปลี่ยนไปสู่ระยะโรคเฉพาะถิ่นด้วย…มีแนวโน้มที่จะเป็นเหมือนไข้หวัดและเป็นโรคระบาดตามฤดูกาล”
“เรายังคงต้องรอดูว่าโควิด-19 จะกลายพันธุ์อย่างมีนัยสำคัญและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันหรือไม่ และนักวิทยาศาสตร์ควรติดตามการพัฒนาของไวรัสอย่างใกล้ชิด” นักระบาดวิทยาคนสำคัญกล่าวในที่ประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.) นอกจากนี้ จางยังเรียกร้องให้ท้องถิ่นเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน 2 เข็มให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีให้ได้มากกว่า 90%
จีนกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากเปลี่ยนนโยบายปลอดโควิดที่มีมาอย่างยาวนานเพื่ออยู่ร่วมกับไวรัส
ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด เนื่องจากทางการจีนไม่ได้รายงานผู้ป่วยโควิดรายวันตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมปีที่แล้ว (2022) โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนระบุว่า จะรายงานเฉพาะผู้ป่วยหนักและจำนวนผู้เสียชีวิตเพียงเดือนละครั้ง
มีการเปิดเผยตัวเลขครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยทางศูนย์รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 14 รายจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1-29 ธันวาคม โดยรวมแล้วมียอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจากไวรัสอยู่ที่ 5,247 รายนับตั้งแต่เริ่มระบาด
เจียว หย่าฮุย คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CCTV เมื่อวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) ที่ผ่านมา ว่า ประมาณร้อยละ 8 ของผู้ติดโควิด-19 ในประเทศจีนมีอาการปอดบวม “สัดส่วน … ยังค่อนข้างต่ำ แต่ไม่ว่าจะมีสัดส่วนต่ำเพียงใด ประเทศของเรายังมีฐานประชากรขนาดใหญ่ ดังนั้นหากคิดเป็นมูลค่าสัมบูรณ์ ก็จะไม่ใช่ตัวเลขเล็กๆ”
การที่จีนกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งและยกเลิกกฎการกักกันทั้งหมดหลังจากปิดประเทศเป็นเวลา 3 ปี หลายคนก็กังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งหลายเมืองในประเทศรายงานว่ามีสายพันธุ์โอมิครอนรวมทั้ง BF7 และ BA5.2 เป็นสายพันธุ์ที่พบเยอะสุดในประเทศจีน
ด้าน เฉิน เชา นักวิจัยจากศูนย์ควบคุมโรค กล่าวว่า “จีนตรวจพบผู้ป่วย 16 ราย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ XBB ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา โดยพบมากในสหรัฐฯ ยุโรป สิงคโปร์ และอินเดีย…คนส่วนใหญ่ติดเชื้อ BA5.2 หรือ BF7 และในไม่ช้าเราจะผลิตแอนติบอดีที่ป้องกันสายพันธุ์ XBB ได้”
ข้อมูลทางการล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ระบุว่า มีเพียง 86.6% ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนด้วยวัคซีน 2 เข็ม ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากในเดือนสิงหาคมที่ 85.6% และมีเพียง 69.8 % ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สามครั้ง โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 42.4% สำหรับผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป
“จีนแผ่นดินใหญ่กำลังเข้าสู่ระลอกแรกของการแพร่ระบาดสูงสุดแล้ว ขณะเดียวกันเมื่อมีทรัพยากรทางการแพทย์มากขึ้น เราก็จะเปลี่ยนไปสู่ระยะโรคเฉพาะถิ่นด้วย…มีแนวโน้มที่จะเป็นเหมือนไข้หวัดและเป็นโรคระบาดตามฤดูกาล”
“เรายังคงต้องรอดูว่าโควิด-19 จะกลายพันธุ์อย่างมีนัยสำคัญและหลบเลี่ยงภูมิคุ้มกันหรือไม่ และนักวิทยาศาสตร์ควรติดตามการพัฒนาของไวรัสอย่างใกล้ชิด” นักระบาดวิทยาคนสำคัญกล่าวในที่ประชุมเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ม.ค.) นอกจากนี้ จางยังเรียกร้องให้ท้องถิ่นเพิ่มอัตราการฉีดวัคซีน 2 เข็มให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีให้ได้มากกว่า 90%
จีนกำลังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน หลังจากเปลี่ยนนโยบายปลอดโควิดที่มีมาอย่างยาวนานเพื่ออยู่ร่วมกับไวรัส
ขณะเดียวกัน ก็ยังไม่ทราบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แน่ชัด เนื่องจากทางการจีนไม่ได้รายงานผู้ป่วยโควิดรายวันตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคมปีที่แล้ว (2022) โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของจีนระบุว่า จะรายงานเฉพาะผู้ป่วยหนักและจำนวนผู้เสียชีวิตเพียงเดือนละครั้ง
มีการเปิดเผยตัวเลขครั้งสุดท้ายในวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยทางศูนย์รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 14 รายจากโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1-29 ธันวาคม โดยรวมแล้วมียอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจากไวรัสอยู่ที่ 5,247 รายนับตั้งแต่เริ่มระบาด
เจียว หย่าฮุย คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ CCTV เมื่อวันอาทิตย์ (8 ม.ค.) ที่ผ่านมา ว่า ประมาณร้อยละ 8 ของผู้ติดโควิด-19 ในประเทศจีนมีอาการปอดบวม “สัดส่วน … ยังค่อนข้างต่ำ แต่ไม่ว่าจะมีสัดส่วนต่ำเพียงใด ประเทศของเรายังมีฐานประชากรขนาดใหญ่ ดังนั้นหากคิดเป็นมูลค่าสัมบูรณ์ ก็จะไม่ใช่ตัวเลขเล็กๆ”
การที่จีนกลับมาเปิดพรมแดนอีกครั้งและยกเลิกกฎการกักกันทั้งหมดหลังจากปิดประเทศเป็นเวลา 3 ปี หลายคนก็กังวลเกี่ยวกับสายพันธุ์ใหม่ที่อาจเข้ามาจากต่างประเทศ ซึ่งหลายเมืองในประเทศรายงานว่ามีสายพันธุ์โอมิครอนรวมทั้ง BF7 และ BA5.2 เป็นสายพันธุ์ที่พบเยอะสุดในประเทศจีน
ด้าน เฉิน เชา นักวิจัยจากศูนย์ควบคุมโรค กล่าวว่า “จีนตรวจพบผู้ป่วย 16 ราย ซึ่งเป็นสายพันธุ์ใหม่ XBB ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา โดยพบมากในสหรัฐฯ ยุโรป สิงคโปร์ และอินเดีย…คนส่วนใหญ่ติดเชื้อ BA5.2 หรือ BF7 และในไม่ช้าเราจะผลิตแอนติบอดีที่ป้องกันสายพันธุ์ XBB ได้”
ข้อมูลทางการล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ระบุว่า มีเพียง 86.6% ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนด้วยวัคซีน 2 เข็ม ซึ่งแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงจากในเดือนสิงหาคมที่ 85.6% และมีเพียง 69.8 % ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปเท่านั้นที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 สามครั้ง โดยตัวเลขดังกล่าวลดลงเหลือเพียง 42.4% สำหรับผู้ที่มีอายุ 80 ปีขึ้นไป