จากกรณีแผ่นดินไหวรุนแรงในตุรกี ที่มักจะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง พวกเราเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมถึงเกิดแผ่นดินไหวที่ตุรกีอยู่บ่อยๆ แล้วทำไมชาวกรีกโบราณจึงสร้างเมืองในเขตแผ่นดินไหว?
รอยเลื่อนทำให้เมืองต่างๆ ของกรีกมีน้ำ มีการป้องกัน และดินที่อุดมสมบูรณ์ แต่มันก็ให้สิ่งอื่นแก่พวกเขาเช่นกัน แหล่งน้ำพุ น้ำจืด หลายแห่งได้รับความร้อนตามบริเวณรอยเลื่อน ชาวกรีกจึงได้สร้างโรงอาบน้ำและวัดที่มีบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งบางแห่งก็ปล่อยก๊าซออกมา
ที่วิหาร อพอลโล (Apollo) อันโด่งดังที่ Delphi พบร่องรอยของเอทิลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากพืชช่วยควบคุมความแก่ของพืช และปล่อยก๊าซ ซึ่งควันเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ ‘ลมหายใจของอพอลโล’ และอาจช่วยให้นักบวชสื่อสารกับเทพเจ้าได้
ขณะที่เมืองและเขตรักษาพันธุ์อื่นๆ ถูกสร้างขึ้นตามความผิดพลาดที่ชาวกรีกเชื่อว่าเป็นทางเข้าสู่ยมโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างต่างๆ พวกเขามักจะสร้างใหม่ ทับจุดเดิมๆ ที่เคยเกิดเหตุถล่ม นอกจากว่ามันจะตัดทางน้ำของพวกเขา เนื่องจากแหล่งน้ำมีบทบาทสำคัญในการ ‘รักษา’ ตามพิธีกรรมของการตั้งถิ่นฐานในยุคแรก
แน่นอนว่าเรื่องเหล่านี้มันมี ‘เหตุผล’
กรีซและตุรกีอยู่ตามเขตรอยเลื่อนขนาดใหญ่ รอยเลื่อนเมื่อเคลื่อนที่ จะทำให้เกิดแผ่นดินไหว แนวรอยเลื่อนยังสร้างหน้าผาซึ่งเป็นแนวป้องกันตามธรรมชาติสำหรับเมือง และเขตรอยเลื่อนมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดการกดทับของพื้นผิวซึ่งดินสามารถสะสมตัวได้ ทำให้เหมาะสำหรับการเกษตรรอยเลื่อนทำให้เมืองต่างๆ ของกรีกมีน้ำ มีการป้องกัน และดินที่อุดมสมบูรณ์ แต่มันก็ให้สิ่งอื่นแก่พวกเขาเช่นกัน แหล่งน้ำพุ น้ำจืด หลายแห่งได้รับความร้อนตามบริเวณรอยเลื่อน ชาวกรีกจึงได้สร้างโรงอาบน้ำและวัดที่มีบ่อน้ำพุร้อน ซึ่งบางแห่งก็ปล่อยก๊าซออกมา
ที่วิหาร อพอลโล (Apollo) อันโด่งดังที่ Delphi พบร่องรอยของเอทิลีน ซึ่งเป็นฮอร์โมนจากพืชช่วยควบคุมความแก่ของพืช และปล่อยก๊าซ ซึ่งควันเหล่านี้รู้จักกันในชื่อ ‘ลมหายใจของอพอลโล’ และอาจช่วยให้นักบวชสื่อสารกับเทพเจ้าได้
ขณะที่เมืองและเขตรักษาพันธุ์อื่นๆ ถูกสร้างขึ้นตามความผิดพลาดที่ชาวกรีกเชื่อว่าเป็นทางเข้าสู่ยมโลก เมื่อเกิดแผ่นดินไหว ที่ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างต่างๆ พวกเขามักจะสร้างใหม่ ทับจุดเดิมๆ ที่เคยเกิดเหตุถล่ม นอกจากว่ามันจะตัดทางน้ำของพวกเขา เนื่องจากแหล่งน้ำมีบทบาทสำคัญในการ ‘รักษา’ ตามพิธีกรรมของการตั้งถิ่นฐานในยุคแรก

ทำไมชาวกรีกถึง ‘จงใจ’ สร้างวิหารซ้ำๆ บนลอยเลื่อนแผ่นดินไหว?
นักโบราณคดีและนักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ ทราบกันมานานแล้วว่าก๊าซที่ทำให้มึนเมาซึ่งละเหยออกมาจากน้ำ ในส่วนลึกของพื้นโลกนี้ ทำให้เกิดภาพนิมิตของนักพยากรณ์แห่ง Delphi ผู้ซึ่งนำทางชาวกรีกโบราณด้วยการพยากรณ์ของเธอตั้งแต่ 800 ปี ก่อนคริสตกาลจนถึงศตวรรษที่ 4 จากวิหารของเธอบนภูเขา Paenassusขณะที่การวิจัยใหม่ชี้ให้เห็นว่าสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของกรีกหลายแห่งถูกสร้างขึ้นบนรอยแยกที่คล้ายกันซึ่งเกิดจากแผ่นดินไหวทั่วทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก
เอียน สจ๊วต ศาสตราจารย์ด้านการสื่อสารธรณีศาสตร์ในอังกฤษกล่าวว่า ชาวกรีกโบราณให้คุณค่าอย่างมากกับน้ำพุร้อนที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว แต่บางทีการสร้างวัดและเมืองใกล้กับสถานที่เหล่านี้อาจเป็นระบบมากกว่าที่เคยคิดไว้
ในการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสาร Proceedings of the Geologists' Association สจ๊วตได้แสดงให้เห็นว่าวิหารและโครงสร้างอื่นๆ ที่ Mycenae, Ephesus และ Hierapolis สร้างขึ้นใหม่หลังจากเกิดแผ่นดินไหว
“คิดว่านั่นคือ ‘โชคร้าย’ ใช่ไหม?” สจ๊วตกล่าว และอธิบายถึงตอนที่เขาค้นพบข้อมูลบางอย่าง
“คนเหล่านี้ไม่ได้โง่ อาจมีบางสิ่งที่จูงใจพวกเขาอยู่ที่นี่” สจ๊วตกล่าว
สจ๊วตกล่าวต่อไปว่า รูปแบบนี้เกิดขึ้นซ้ำในเมืองอื่นๆ สะท้อนให้เห็นว่าชาวกรีกมองว่า ‘ยมโลก’ เป็นจุดหมายปลายทางของวิญญาณหลังความตายและเป็นแหล่งพลังลึกลับและความรู้ ซึ่งเราจะไม่ไปดูถูกวัฒนธรรมของพวกเขา

ในบทความของสจ๊วตคาดการณ์ว่าแผ่นดินไหวอาจทำลายน้ำพุร้อนที่ Perachora Heraion สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่เทพีเฮราในศตวรรษที่ 9 ก่อนคริสต์ศักราช ใกล้เมือง Corinth แต่ต่อมาถูกเลิกใช้ไปเมื่อ 300 ปีก่อนคริสตกาล หลังเกิดแผ่นดินไหว
แน่นอนว่าชาวกรีกไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองที่มีตึกระฟ้าและมีผู้อยู่อาศัยหลายล้านคน แผ่นดินไหวจะถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์ลึกลับมากกว่า ไม่ใช่ภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก บันทึกทางประวัติศาสตร์และธรณีวิทยาแสดงให้เห็นว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงของอารยธรรมกรีกโบราณ
ดังนั้น การเลือกสร้างบนพื้นที่เดิมซ้ำๆ แม้จะเป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหว เพราะชาวกรีกมีความเชื่อว่า ‘แผ่นดินนี้มีพลังของวิญญาณ’
สจ๊วตกล่าวว่า ชาวกรีกโบราณเป็นคนที่ฉลาดอย่างน่าเหลือเชื่อ และเชื่อว่าพวกเขาคงตระหนักถึงความสำคัญของสถานที่ต่างๆ ที่สร้างขึ้น และต้องการให้พลเมืองได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่พวกเขาสร้างขึ้น
แน่นอนว่าชาวกรีกไม่ได้อาศัยอยู่ในเมืองที่มีตึกระฟ้าและมีผู้อยู่อาศัยหลายล้านคน แผ่นดินไหวจะถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์ลึกลับมากกว่า ไม่ใช่ภัยธรรมชาติที่เกิดจากการเคลื่อนตัวของแผ่นเปลือกโลก บันทึกทางประวัติศาสตร์และธรณีวิทยาแสดงให้เห็นว่าแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงของอารยธรรมกรีกโบราณ
ดังนั้น การเลือกสร้างบนพื้นที่เดิมซ้ำๆ แม้จะเป็นพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหว เพราะชาวกรีกมีความเชื่อว่า ‘แผ่นดินนี้มีพลังของวิญญาณ’
สจ๊วตกล่าวว่า ชาวกรีกโบราณเป็นคนที่ฉลาดอย่างน่าเหลือเชื่อ และเชื่อว่าพวกเขาคงตระหนักถึงความสำคัญของสถานที่ต่างๆ ที่สร้างขึ้น และต้องการให้พลเมืองได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่พวกเขาสร้างขึ้น