เมื่อบนดวงจันทร์มีแหล่งน้ำใหม่ที่อาจดื่มและเป็นเชื้อเพลิงได้ในอนาคต
นักวิทยาศาสตร์จีนพบแหล่งน้ำใหม่ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้บนดวงจันทร์ที่อาจช่วยให้นักสำรวจในอนาคตอาศัยอยู่ที่นั่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ตัวอย่างน้ำดังกล่าวถูกนำกลับมาจากดวงจันทร์เมื่อปี 2020 โดยยานภารกิจดวงจันทร์ ‘ฉางเอ๋อ 5 (Chang'e 5)’ ซึ่งเป็นน้ำที่ฝังอยู่ในเม็ดแก้วเล็กๆ บนดวงจันทร์บริเวณ ‘lunar dirt’ จุดที่อุกกาบาตพุ่งชน ทั้งนี้ พบว่า น้ำในเม็ดแก้วหลากสีแวววาวเหล่านี้สกัดค่อนข้างง่าย และสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือให้นักบินอวกาศดื่มได้
ผู้เชี่ยวชาญทราบว่ามีน้ำบนดวงจันทร์มานานหลายปีในรูปของน้ำแข็งบริเวณพื้นที่ร่มเงาที่ขั้วของมัน แต่การค้นพบใหม่นี้อาจเป็นหลักฐานว่าบนดวงจันทร์มีวัฏจักรน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการค้นพบนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience แล้วเมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) ที่ผ่านมา
ฮุ่ยเฮ่อจิ่ว (Hejiu Hui) จากมหาวิทยาลัยนานกิงซึ่งมีส่วนร่วมในการศึกษานี้ กล่าวว่า “เม็ดแก้วที่สุ่มเลือกมา 32 เม็ดนั้นพบว่า พวกมันมีขนาดตั้งแต่ความกว้างของเส้นผมเส้นเดียวไปจนถึงหลายเส้น และปริมาณน้ำเป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งนั้น”
“เนื่องจากเม็ดแก้วมีจำนวนหลายพันล้านเม็ด ซึ่งอาจมีปริมาณน้ำจำนวนมาก แต่การขุดพวกมันอาจเป็นเรื่องยาก…ใช่ มันต้องใช้เม็ดแก้วจำนวนมาก และจะมีการศึกษาตัวอย่างเพิ่มเติม” ฮุ่ย กล่าว
เม็ดแก้วเหล่านี้สามารถผลิตน้ำได้อย่างต่อเนื่องเนื่องจากการระเบิดต่อเนื่องของไฮโดรเจนในลมสุริยะ โดยเม็ดแก้วมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการเย็นตัวของวัสดุที่หลอมละลายซึ่งถูกขับออกมาโดยหินอวกาศที่พุ่งชนดวงจันทร์ และนักวิทยาศาสตร์จะสามารถดึงน้ำออกได้ด้วยการให้ความร้อนแก่เม็ดแก้ว
อย่างไรก็ดี ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้น น้ำจะปลอดภัยต่อการดื่มหรือไม่ “สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราอาจเติมน้ำบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่บนดวงจันทร์” ฮุ่ย กล่าว
นักวิทยาศาสตร์จีนพบแหล่งน้ำใหม่ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนได้บนดวงจันทร์ที่อาจช่วยให้นักสำรวจในอนาคตอาศัยอยู่ที่นั่นได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
ตัวอย่างน้ำดังกล่าวถูกนำกลับมาจากดวงจันทร์เมื่อปี 2020 โดยยานภารกิจดวงจันทร์ ‘ฉางเอ๋อ 5 (Chang'e 5)’ ซึ่งเป็นน้ำที่ฝังอยู่ในเม็ดแก้วเล็กๆ บนดวงจันทร์บริเวณ ‘lunar dirt’ จุดที่อุกกาบาตพุ่งชน ทั้งนี้ พบว่า น้ำในเม็ดแก้วหลากสีแวววาวเหล่านี้สกัดค่อนข้างง่าย และสามารถใช้เป็นเชื้อเพลิงหรือให้นักบินอวกาศดื่มได้
ผู้เชี่ยวชาญทราบว่ามีน้ำบนดวงจันทร์มานานหลายปีในรูปของน้ำแข็งบริเวณพื้นที่ร่มเงาที่ขั้วของมัน แต่การค้นพบใหม่นี้อาจเป็นหลักฐานว่าบนดวงจันทร์มีวัฏจักรน้ำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการค้นพบนี้ได้ตีพิมพ์ในวารสาร Nature Geoscience แล้วเมื่อวันจันทร์ (27 มี.ค.) ที่ผ่านมา
ฮุ่ยเฮ่อจิ่ว (Hejiu Hui) จากมหาวิทยาลัยนานกิงซึ่งมีส่วนร่วมในการศึกษานี้ กล่าวว่า “เม็ดแก้วที่สุ่มเลือกมา 32 เม็ดนั้นพบว่า พวกมันมีขนาดตั้งแต่ความกว้างของเส้นผมเส้นเดียวไปจนถึงหลายเส้น และปริมาณน้ำเป็นเพียงเศษเสี้ยวของสิ่งนั้น”
“เนื่องจากเม็ดแก้วมีจำนวนหลายพันล้านเม็ด ซึ่งอาจมีปริมาณน้ำจำนวนมาก แต่การขุดพวกมันอาจเป็นเรื่องยาก…ใช่ มันต้องใช้เม็ดแก้วจำนวนมาก และจะมีการศึกษาตัวอย่างเพิ่มเติม” ฮุ่ย กล่าว
เม็ดแก้วเหล่านี้สามารถผลิตน้ำได้อย่างต่อเนื่องเนื่องจากการระเบิดต่อเนื่องของไฮโดรเจนในลมสุริยะ โดยเม็ดแก้วมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง ซึ่งเป็นผลมาจากการเย็นตัวของวัสดุที่หลอมละลายซึ่งถูกขับออกมาโดยหินอวกาศที่พุ่งชนดวงจันทร์ และนักวิทยาศาสตร์จะสามารถดึงน้ำออกได้ด้วยการให้ความร้อนแก่เม็ดแก้ว
อย่างไรก็ดี ยังจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพิจารณาว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ และหากเป็นเช่นนั้น น้ำจะปลอดภัยต่อการดื่มหรือไม่ “สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเราอาจเติมน้ำบนพื้นผิวดวงจันทร์ได้ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่บนดวงจันทร์” ฮุ่ย กล่าว

ด้านศาสตราจารย์ หูเซิน (Sen Hu) จากสถาบันแห่งชาติ Chinese Academy of Sciences (CAS) กล่าวว่า “การค้นพบนี้บ่งชี้ว่าเม็ดแก้วที่กระทบพื้นผิวดวงจันทร์และวัตถุไร้อากาศอื่นๆ ในระบบสุริยะสามารถกักเก็บน้ำที่ได้จากลมสุริยะและปล่อยออกสู่อวกาศ”
ขณะที่ ศาสตราจารย์ลูอิส ดาร์ตเนล นักดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเวสต์มินเตอร์กล่าวว่า “สิ่งนี้อาจมีผลกระทบอย่างมากต่อภารกิจดวงจันทร์ในอนาคต…อ่างเก็บน้ำใต้ผิวดินได้รับการเติมเต็มโดยกระบวนการต่อเนื่องของพันธะไฮโดรเจนจากลมสุริยะกับออกซิเจน และน้ำที่สร้างการแพร่กระจายใต้ดินจะถูกดูดซึมเข้าสู่เม็ดแก้ว”
“การมีน้ำบนพื้นผิวดวงจันทร์มีความสำคัญเนื่องจากเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการรองรับการอยู่อาศัยของมนุษย์ในระยะยาวของดวงจันทร์…แน่นอนว่าน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดื่ม แต่ยังสามารถแยกออกได้โดยการอิเล็กโทรไลต์สำหรับสร้างออกซิเจนเพื่อหายใจในที่อยู่อาศัย” ลูอิส กล่าว
อย่างไรก็ตาม การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าน้ำในเม็ดแก้วนั้นเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟบนดวงจันทร์ โดยอ้างอิงจากตัวอย่างที่ส่งคืนโดยยานภารกิจ Apollo11 เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษก่อน
สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่สามารถให้น้ำสำหรับลูกเรือในอนาคตได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเชื้อเพลิงจรวดได้อีกด้วย ซึ่งทาง NASA เองก็ตั้งเป้าที่จะส่งนักบินอวกาศกลับสู่พื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้งภายในสิ้นปี 2025 โดยเล็งไปที่ขั้วโลกใต้ซึ่งเชื่อว่าหลุมอุกกาบาตที่ปกคลุมด้วยเงาอย่างถาวรนั้นอาจเต็มไปด้วยน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง
ขณะที่ ศาสตราจารย์ลูอิส ดาร์ตเนล นักดาราศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเวสต์มินเตอร์กล่าวว่า “สิ่งนี้อาจมีผลกระทบอย่างมากต่อภารกิจดวงจันทร์ในอนาคต…อ่างเก็บน้ำใต้ผิวดินได้รับการเติมเต็มโดยกระบวนการต่อเนื่องของพันธะไฮโดรเจนจากลมสุริยะกับออกซิเจน และน้ำที่สร้างการแพร่กระจายใต้ดินจะถูกดูดซึมเข้าสู่เม็ดแก้ว”
“การมีน้ำบนพื้นผิวดวงจันทร์มีความสำคัญเนื่องจากเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการรองรับการอยู่อาศัยของมนุษย์ในระยะยาวของดวงจันทร์…แน่นอนว่าน้ำเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดื่ม แต่ยังสามารถแยกออกได้โดยการอิเล็กโทรไลต์สำหรับสร้างออกซิเจนเพื่อหายใจในที่อยู่อาศัย” ลูอิส กล่าว
อย่างไรก็ตาม การศึกษาก่อนหน้านี้พบว่าน้ำในเม็ดแก้วนั้นเกิดขึ้นจากการระเบิดของภูเขาไฟบนดวงจันทร์ โดยอ้างอิงจากตัวอย่างที่ส่งคืนโดยยานภารกิจ Apollo11 เมื่อกว่าครึ่งศตวรรษก่อน
สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่สามารถให้น้ำสำหรับลูกเรือในอนาคตได้เท่านั้น แต่ยังเป็นเชื้อเพลิงจรวดได้อีกด้วย ซึ่งทาง NASA เองก็ตั้งเป้าที่จะส่งนักบินอวกาศกลับสู่พื้นผิวดวงจันทร์อีกครั้งภายในสิ้นปี 2025 โดยเล็งไปที่ขั้วโลกใต้ซึ่งเชื่อว่าหลุมอุกกาบาตที่ปกคลุมด้วยเงาอย่างถาวรนั้นอาจเต็มไปด้วยน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็ง