หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคือ ชายวัย 71 ปีที่ใช้ชื่อว่า เจ้าชายไฮน์ริชที่ 13 ที่เชื่อว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มและจะได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้นำเยอรมนีคนใหม่หากแผนสำเร็จ
ชายคนนี้คือใคร?
เขาคือทายาทของราชสกุลรอยส์ (House of Reuss) ตระกูลขุนนางที่เคยปกครองบางส่วนของเยอรมนีตะวันออกในช่วงศตวรรษที่ 12 เป็นเวลาหลายร้อยปี ชายผู้ที่ต้องการนำระบอบกษัตริย์ของเยอรมนีกลับมาอีกครั้ง
เจ้าชายไฮน์ริชที่ 13 เจ้าชายแห่งรอยส์เป็นบุตรของเจ้าชายไฮน์ริชที่ 1 และเจ้าหญิงวอยซ์ลาวา ฟีโอโดรา รอยส์ ราชวงศ์เยรมนีอีกคนที่ต่งงานกับสายเลือดราชสกุลรอยส์
ส่วนเจ้าชายไฮน์ริชที่ 13 นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จากเมืองแฟรงเฟิร์ตแต่งงานกับ ซูซาน โดคต์ จาลาลี หญิงชาวอิหร่านซึ่งปัจจุบันใช้ชื่อว่าเจ้าหญิงซูซาน รอยส์ ทั้งคู่มีบุตรชายด้วยกันคือ ไฮน์ริชที่ 28 วัย 31 ปี
ราชสกุลรอยส์ก่อตั้งขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 12 และตระกูลนี้จะตั้งชื่อลูกชายทุกคนว่าไฮน์ริช เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระเจ้าเฮนรีที่ 6 จักรพรรดิของจักรวรรดิโรมันที่ราชสกุลรอยส์ได้รับสืบทอดมาทั้งยศและทรัพย์สมบัติของพระองค์ โดยแต่ละคนจะมีลำดับตัวเลขต่อท้ายชื่อเริ่มตั้งแต่ 1-100 เมื่อครบแล้วจะกลับไปเริ่มที่ 1 ใหม่
สายเลือดราชสกุลรอยส์ปกครองแคว้นรอยส์ในอดีตเป็นเวลาหลายร้อยปี จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติเยอรมนีในปี 1918 ที่นำมาสู่การล่มสลายของจักรวรรดิเยอรมัน แล้วเปลี่ยนไปสู่สาธารณรัฐประชาธิปไตย
ทวดของไฮน์ริชที่ 13 ซึ่งก็คือ เจ้าชายไฮน์ริชที่ 27 ถูกบังคับให้สละราชสมบัติหลังจากรอยส์ถูกกลืนข้ากับรัฐทือริงเงินหลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 ทว่าสายเลือดราชสกุลรอยส์ก็ยังคงความมั่งคั่งส่วนใหญ่ไว้ได้ รวมทั้งปราสาทและวังต่างๆ
หนึ่งในปราสาทเหล่านั้นคือ บ้านพักกลางป่าสไตล์โกธิกสมัยใหม่ในเมืองซาลดอร์ฟที่ตั้งอยู่บนที่ดินที่เคยเป็นของราชสกุลรอยส์ ปัจจุบันบ้านพักหลังนี้เป็นสมบัติส่วนตัวของไฮน์ริชที่ 13 โดยทางการเยอรมนีอ้างว่าบ้านพักหลังนี้ถูกใช้เป็นที่ประชุมของกลุ่ม Reichsbürger ซึ่งสมาชิกกลุ่มสุมหัวกันวางแผนก่อรัฐประหารโค่นรัฐบาลยอรมนี
สำนักข่าว MDR ของเยอรมนีรายงานว่า หนึ่งในอสังหาริมทรัพย์ของไฮน์ริชที่ 13 ที่ถูกตำรวจบุกค้นเมื่อวันพุธที่ 7 ที่ผ่านมาถูกใช้เป็นที่อยู่ของธุรกิจหลายบริษัทที่เกี่ยวข้องกับบริษัทบริหารจัดการทรัพย์สินในกรุงลอนดอน ซึ่งอาจถูกใช้เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับกิจการของ Reichsbürger
ส่วนตัวของไฮน์ริชที่ 13 นั้นทางการเยอรมนีชื่อว่าเป็นบุคคลสำคัญของกลุ่ม เมื่อปี 2019 เจ้าตัวคยกล่าวปราศรัยในงาน Worldwebforum ในเมืองซูริกของสวิตเซอร์แลนด์เกี่ยวกับการยกเลิกระบอบกษัตริย์ของเยอรมนี และการถอนรากถอนโคนอิทธิพลของครอบครัวของเขา
ไฮน์ริชที่ 13 ยังเล่าย้อนไปว่าทวดของเขาถูกบับบังคับให้สละอำนาจการปกครองหลังจากเยอรมนีเปลี่ยนการปกครองเป็นสาธารณรัฐ และพูดพร่ำเพ้อถึงวันวานเมื่อผู้คนที่อาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของบรรพบุรุษของเขามีชีวิตที่มีความสุขเพราะโครงสร้างการบริหารที่ตรงไปตรงมาและโปร่งใส
“เมื่ออะไรๆ ไม่เป็นไปด้วยดี คุณสามารถไปหาเจ้าชายได้ แต่วันนี้คุณจะหันหน้าไปพึ่งใคร สมาชิกสภาของพวกคุณหรือ เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น รัฐบาลกลาง หรืออียูงั้นหรือ ขอให้โชคดีแล้วกันนะ” ไฮน์ริชที่ 13 กล่าวในทำนองเสียดสี ก่อนจะพูดถึงการนำระบอบกษัตริย์กลับมาอีกครั้งว่า ระบอบกษัตริย์ทั่วโลก รวมทั้งของฝรั่งเศส ถูกล้มล้างเนื่องจากการแทรกแซงของมหาอำนาจต่างชาติซึ่งต้องการสร้างโครงสร้างองค์กรเพื่อแสวงผลกำไร ผลคือประชาชนได้รับความเดือดร้อน
อย่างไรก็ดี แม้ว่าขณะนี้เยอรมนีจะไม่มีทั้งเจ้าชายและเจ้าหญิงอย่างเป็นทางการอีกต่อไปแล้ว แต่สมาชิกตระกูลรอยส์บางคน อาทิ ไฮน์ริชที่ 13 ยังคงใช้ตำแหน่งเจ้าชายและเจ้าหญิงต่อไป โดยไฮน์ริชที่ 13 ตั้งชื่อบริษัทสังหาริมทรัพย์และการเงินของเขาในเมืองแฟรงเฟิร์ตว่า "Buero Prinz Reuss" หรือสำนักงานเจ้าชายรอยส์
อย่างไรก็ดี สำหรับสมาชิกกลุ่ม Reichsbürger นั้น ไฮน์ริชที่ 13 ดูเหมือนจะเป็นบุคคลสำคัญและอาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้นำเยอรมนีคนใหม่หากทางกลุ่มโค่นล้มรัฐบาลปัจจุบันได้สำเร็จ แต่กลับคนในครอบครัวนั้นเขาเป็นเพียงคนแก่คนหนึ่งเท่านั้น
เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ไฮน์ริชที่ 14 ผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของราชสกุลรอยส์เผยกับสื่อเยอรมนีว่า ไฮน์ริชที่ 13 เป็นเพียง “ชายชราที่สับสนซึ่งตอนนี้จมอยู่กับความเข้าใจผิดของทฤษฎีสมคบคิด” และกล่าวเสริมว่าไฮน์ริชที่ 13 เริ่มออกห่างจากครอบครัวตั้งแต่เมื่อ 14 ปีก่อน
กลุ่ม Reichsbürger คืออะไร?
Reichsbürger แปลว่า พลเมืองแห่งจักรวรรดิ เป็นกลุ่มที่มีอุดมการขวาจัดที่ปฏิเสธความชอบธรรมของสาธารณรัฐเยอรมนีสมัยใหม่ และมองว่าเยอรมนีเป็นรัฐซ้อนรัฐ (deep state) ที่ชักใยโดยกลุ่มพันธมิตร เป้าหมายของกลุ่ม Reichsbürger คือการโค่นล้มรัฐบาลปัจจุบันของเยอรมนีแล้วตั้งคนของตัวเองขึ้นมาแทน และสร้างรัฐในรูปแบบของตัวเองคาดว่ากลุ่ม Reichsbürger มีสมาชิกราว 20,000 คนในเยอรมนี และหน่วยข่าวกรองของเยอรมนีเชื่อว่า 5% เป็นผู้ก่อการร้ายขวาจัดที่มีมุมมองเหยียดเชื้อชาติและต่อต้านชาวยิว
สมาชิกบางคนปฏิเสธการจ่ายภาษี ปฏิเสธกฎหมายของเยอรมนี บางคนสแปมเว็บไซต์ของหน่วยงานรัฐบาลและศาลเพื่อแสดงให้เห็นว่าไม่เห็นด้วย
เดิมทีกลุ่มนี้ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคาม จนกระทั่งในปี 2016 ที่สมาชิกกลุ่มคนหนึ่งยิงตำรวจเสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 3 นายขณะบุกค้นบ้านเพื่อยึดอาวุธ หลังจากนั้นทางการเยอรมนีก็เริ่มจับตามองกลุ่ม Reichsbürger อย่างใกล้ชิด จนนำมาสู่การบุกจับกุมครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 7 ที่ผ่านมานี้