ทั้งชีวิตของเราอาจจะแสวงหาช่วงเวลาพักผ่อน เพื่อเดินทางท่องเที่ยวไปที่ไหนสักที่มาเสมอ การท่องเที่ยวอาจจะช่วยให้เราตามหาความฝัน พักผ่อนหย่อนใจจากการทำงานอย่างหนักหน่วงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทว่าบางคนก็ไม่ได้แสวงหาสิ่งนั้น..
การสำรวจประชากรวัยกลางคนจำนวน 16,000 คนใน 15 ประเทศพบว่า ‘เอเชีย’ เป็นประเทศที่มีผู้คนจำนวนมากที่กล่าวว่า พวกเขาจะ ‘ไม่เดินทาง’ อีกเลย
15% ของชาวเกาหลีใต้และ 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีนระบุว่า พวกเขาจะไม่เดินทางอีกเลย ส่วนในอเมริกาเหนือนั้นตามหลังอยู่ไม่ไกล โดย 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกันและ 11% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวเม็กซิกันระบุเช่นเดียวกัน
การสำรวจประชากรวัยกลางคนจำนวน 16,000 คนใน 15 ประเทศพบว่า ‘เอเชีย’ เป็นประเทศที่มีผู้คนจำนวนมากที่กล่าวว่า พวกเขาจะ ‘ไม่เดินทาง’ อีกเลย
15% ของชาวเกาหลีใต้และ 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวจีนระบุว่า พวกเขาจะไม่เดินทางอีกเลย ส่วนในอเมริกาเหนือนั้นตามหลังอยู่ไม่ไกล โดย 14% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวอเมริกันและ 11% ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวเม็กซิกันระบุเช่นเดียวกัน
จัดอันดับ ‘ประเทศ’ ที่คนในประเทศไม่ต้องการเดินทางท่องเที่ยว (จากการสำรวจทั้งหมด 15 ประเทศ)
- ญี่ปุ่น 35%
- เกาหลีใต้ 15%
- จีน 14%
- สหรัฐฯ 14%
- เม็กซิโก 11%
- รัสเซีย 11%
- ฝรั่งเศส 10%
- อินเดีย 10%
- ออสเตรเลีย 9%
- บลาซิล 8%
- แคนาดา 8%
- สหราชอาณาจักร 8%
- เยอรมนี 6%
- อิตาลี 4%
- สเปน 4%

เมื่อการ ‘ท่องเที่ยว’ ไม่ใช่สิ่งสำคัญของคนญี่ปุ่นอีกต่อไป...
ผลสำรวจโดยบริษัทข่าวกรองระดับโลก Morning Consult ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวญี่ปุ่น พบว่า กว่า 35% มองว่าการเดินทางท่องเที่ยวไม่ใช่สิ่งสำคัญสำหรับพวกเขาอีกต่อไป และไม่เต็มใจที่จะเดินทาง ซึ่งเป็นจำนวนที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆเท็ตสุ นากามุระ ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยทามากาวะ (Tamagawa) และผู้เชี่ยวชาญด้านพฤติกรรมการท่องเที่ยวและจิตวิทยา กล่าวว่า ผลลัพธ์ที่ได้ไม่น่าแปลกใจเลย เพราะในปี 2019 ก่อนเกิดโรคระบาด ชาวญี่ปุ่นที่เดินทางไปต่างประเทศอย่างน้อยปีละครั้งคิดเป็นประมาณ 10% ของประชากร
จากการศึกษาของนากามุระในปี 2016 มีสิ่งที่เขาเรียกว่า ‘ผู้รักความสงบ’ ที่บอกว่าพวกเขาต้องการเดินทางท่องเที่ยวแต่จะไม่ไป และ ‘คนที่ปฏิเสธ’ ซึ่งเป็นคนที่ไม่สนใจที่จะเดินทางท่องเที่ยวและจะไม่ไป เมื่อรวมกันแล้ว ทั้ง 2 กลุ่มนี้คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 70% ของผู้ตอบแบบสอบถามในการศึกษาก่อนเกิดโรคระบาด โดยกลุ่ม ‘ผู้ปฏิเสธ’ มีจำนวนประมาณ 30%
‘บ้าน’ แสนสุข
ข้อมูลจากกระทรวงต่างประเทศของญี่ปุ่น ระบุว่า แม้ว่าประเทศญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่มี พาสปอร์ต หรือหนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก แต่คนญี่ปุ่นน้อยกว่า 20% ที่มีหนังสือเดินทางจริงๆ ตั้งแต่แรก แต่สำหรับบางคนที่ ‘ไม่เคยเดินทาง’ เหล่านี้ การเที่ยวภายในประเทศญี่ปุ่นก็เพียงพอแล้วนากามุระ กล่าวว่า ชาวญี่ปุ่นจำนวนมากรู้สึกว่าการเดินทางไปต่างประเทศนั้นใช้เวลานาน แม้กระทั่งก่อนที่จะก้าวเท้าไปยังต่างแดน ซึ่งต้องใช้เวลา ทักษะ และการวางแผนอย่างมาก
โกทาโร โทริอุมิ นักวิเคราะห์การบินและการเดินทางของญี่ปุ่น กล่าวว่า ความคิดเกี่ยวกับขั้นตอนการเดินทางไปต่างประเทศซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากการแพร่ระบาดและความเสี่ยงของการติดเชื้อ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อผู้คน

นอกจากนี้ โรคระบาดได้เปลี่ยนแปลง ‘กรอบความคิดของชาวญี่ปุ่น’
“คนที่เคยไปเที่ยว… ตอนนี้ไม่กล้าไปต่างประเทศเพราะเสี่ยงติดเชื้อ แต่เที่ยวในประเทศได้ ผมคิดว่าพวกเขาตระหนักขึ้นเรื่อยๆ ว่ามีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมายในญี่ปุ่น และผู้คนสามารถสนุกได้โดยไม่ต้องไปต่างประเทศ” โทริอุมิกล่าวขณะที่นักวิเคราะห์ตั้งข้อสังเกตว่า คนที่พูดว่าพวกเขา ‘ไม่ต้องการเดินทางอีกแล้ว’ อาจเพียงแค่ลังเลที่จะเดินทางในช่วงนี้ จนกว่าโรคระบาดจะสิ้นสุดลง
เงินน้อยลง ปัญหามากขึ้น
ค่าใช้จ่ายในการเดินทางก็เป็นข้อพิจารณาเช่นกัน เงินเยนอ่อนค่าที่สุดในรอบหลายทศวรรษ และคนงานชาวญี่ปุ่นจำนวนมากไม่ได้รับการขึ้นเงินเดือนเลยมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ซึ่งรายได้ที่น้อยลงนี้หมายความว่า คนหนุ่มสาวอาจมีแนวโน้มที่จะอยู่บ้านหรือท่องเที่ยวในสถานที่ที่ใกล้เคียงมากขึ้น“เมื่อเทียบกับคนรุ่นเก่าแล้ว พวกเขามีโอกาสไปต่างประเทศน้อยกว่าเพราะพวกเขาไม่มีเงินมากนัก นอกจากนี้ คนหนุ่มสาวจำนวนมากพบว่าความบันเทิงของพวกเขา สามารถหาได้ในโลกออนไลน์หรือเกมต่างๆ ซึ่งสนุกกว่าการเดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่ผู้สูงอายุหลายคนอยากไปเที่ยวต่างประเทศอีกครั้งหลังจากที่โรคระบาดสงบลง” โทริอุมิ กล่าว

การศึกษาของนากามูระแสดงให้เห็นว่าทัศนคติเชิงบวกสามารถเอาชนะแรงกดดันจากภายนอกให้ละเว้นจากการไปต่างประเทศ ดังนั้นคนที่ชอบเดินทางอยู่เสมอจะไม่ปล่อยให้ความสอดคล้องทางสังคมเข้ามากีดขวาง
“คนที่มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศมักจะพยายามทำทันทีที่ได้รับโอกาส สิ่งนี้เป็นจริงทั้งก่อนและหลังการระบาดใหญ่ คนที่เราเห็นไปต่างประเทศตอนนี้คือคนเหล่านั้น… พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไป (ต่างประเทศ)” นากามูระกล่าว
จากข้อมูลล่าสุดจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น จำนวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศลดลง 86.2% ในปี 2022 โดยมีจำนวนประมาณ 2.7 ล้านคน เทียบกับตัวเลข 20 ล้านคนในปี 2019
“คนที่มีมุมมองเชิงบวกเกี่ยวกับการท่องเที่ยวต่างประเทศมักจะพยายามทำทันทีที่ได้รับโอกาส สิ่งนี้เป็นจริงทั้งก่อนและหลังการระบาดใหญ่ คนที่เราเห็นไปต่างประเทศตอนนี้คือคนเหล่านั้น… พวกเขาแทบรอไม่ไหวที่จะกลับไป (ต่างประเทศ)” นากามูระกล่าว
จากข้อมูลล่าสุดจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น จำนวนนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศลดลง 86.2% ในปี 2022 โดยมีจำนวนประมาณ 2.7 ล้านคน เทียบกับตัวเลข 20 ล้านคนในปี 2019
