สื่ออังกฤษชี้ ‘กัญชาเสรี’ 1 ปีผ่านไป กระแสต่อต้านในไทยกลับเพิ่มขึ้น

11 ก.ค. 2566 - 06:30

  • เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (2022) ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ออกกฎหมายให้กัญชาถูกกฎหมาย

  • จากนั้นธุรกิจกัญชาในไทยก็เฟื่องฟูเป็นอย่างมากโดยพบว่ามีร้านขายกัญชาประมาณ 5,000 แห่งที่เปิดทำการทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองหลวงและแหล่งท่องเที่ยว

  • แต่ในช่วงก่อนการเลือกตั้งระดับชาติเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่นักการเมืองหัวก้าวหน้าก็ออกมาเรียกร้องให้ขึ้นบัญชีกัญชาเป็น ‘ยาเสพติด’

anti-cannabis-sentiment-grows-in-thailand-a-year-from-legalisation-SPACEBAR-Thumbnail

เมื่อกัญชาเสรีในไทย…กำลังเจอกระแสต่อต้านมากขึ้น

The Telegraph สื่ออังกฤษรายงานว่า ตั้งแต่ประเทศไทยประกาศให้กัญชาถูกกฎหมายเมื่อปีที่แล้ว (2022) ก็พบว่าคนไทยหลายคนต่างก็หันมาลงทุนกับการทำธุรกิจขายกัญชากันมากขึ้น  

ทว่าความทะเยอทะยานของนักกิจกรรมกัญชาอาจถูกนักการเมืองที่มีแนวคิดตรงกันข้ามกีดกันการทำธุรกิจในไม่ช้า… 

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา (2022) ประเทศไทยกลายเป็นประเทศแรกในเอเชียที่ออกกฎหมายให้กัญชาถูกกฎหมายด้วยกฎระเบียบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งมันทำให้ธุรกิจเฟื่องฟูเป็นอย่างมาก โดยพบว่ามีร้านขายกัญชาประมาณ 5,000 แห่งที่เปิดทำการทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเมืองหลวงและแหล่งท่องเที่ยว ขณะเดียวกันเกษตรกรมากกว่าล้านรายก็กำลังปลูกพืชกัญชากันอย่างล้นหลาม 

จากข้อมูลของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยระบุว่า อุตสาหกรรมนี้อาจมีมูลค่า 934 ล้านปอนด์ (ราว 4.1 หมื่นล้านบาท) ภายในปี 2025 แต่ในช่วงก่อนการเลือกตั้งระดับชาติเมื่อเดือนพฤษภาคม 2023 สถานการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด แม้แต่นักการเมืองหัวก้าวหน้าก็ออกมาเรียกร้องให้กัญชาขึ้นบัญชีเป็น ‘ยาเสพติด’ 

“เราไม่สนับสนุนกัญชาเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เราไม่สนับสนุนสุญญากาศกัญชา…กัญชาเป็นสารเสพติดที่ใช้สำหรับการควบคุมเพื่อสร้างประโยชน์มากกว่าโทษ” พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (พรรคที่ชนะเลือกตั้งเป็นอันดับ 1) กล่าวช่วงรณรงค์หาเสียงในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา 

ขณะที่พรรคอันดับ 2 อย่างเพื่อไทยก็ออกมาโต้เถียงว่า การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการกำลังสร้างความเสียหายแก่คนรุ่นใหม่และต้องถูกกำจัดไป โดยชี้ไปที่ตัวเลขจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขว่าจำนวนผู้ติดยาเสพติดเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่าในช่วง 6 เดือนแรกของการถูกกฎหมาย 

แม้ว่ารายละเอียดจะยังไม่ชัดเจน แต่นโยบายที่ตกลงร่วมกันระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลระบุว่า จะส่งกัญชากลับเข้าสู่รายการควบคุมสารเสพติด และเสนอกฎหมายที่ ‘ควบคุมและสนับสนุนการใช้ประโยชน์จากกัญชา’ 

“ทั้งหมดนี้ค่อนข้างน่าเศร้า ฉันคิดว่าการตีตรากำลังสร้างปัญหา…รัฐบาลไม่ได้พยายามอย่างเพียงพอในการให้ความรู้แก่ประชาชนในระหว่างกระบวนการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายอย่างรวดเร็ว และตอนนี้นักการเมืองกำลังใช้ประโยชน์จากความกลัวที่ไม่มีมูลความจริงว่าเด็กๆ สูบ และมันกำลังทำลายสังคมเพื่อการหาเสียง” คิตตี้ ช่อผกา นักกิจกรรมกัญชาและเจ้าของร้านธุรกิจกัญชากล่าวกับ The Telegraph 

คิตตี้กล่าวอีกว่ายังมีข้อบังคับอยู่ว่า “สตรีมีครรภ์หรือผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีไม่สามารถซื้อกัญชาได้ การสูบในที่สาธารณะเป็นสิ่งผิดกฎหมาย และผู้ขายต้องมีใบอนุญาต”  

ในขณะเดียวกันการลดทอนความเป็นอาชญากรรมก็เป็นประโยชน์สำหรับการท่องเที่ยวและช่วยให้ระบบกฎหมายเป็นอิสระ เนื่องจากมีผู้ถูกจับกุมอย่างน้อย 3,000 คนจากความผิดเกี่ยวกับกัญชาได้รับการปล่อยตัว และ 10,000 คนสำหรับความผิดเกี่ยวกับพืชกระท่อม ซึ่งเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่เพิ่งถูกลดทอนความเป็นอาชญากรรม 

อย่างไรก็ตาม ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ อาจารย์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยกลับมองว่า “การใช้กัญชาเพื่อสันทนาการไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของวาระการปฏิรูปของพรรคก้าวไกล 

“พรรคก้าวไกลเป็นพรรคที่มีความก้าวหน้าในทุกรูปแบบ แต่ผมคิดว่ากัญชาไม่ใช่ส่วนหนึ่งของความก้าวหน้าสำหรับพวกเขา…เวทีของพรรคคือการปฏิรูปธุรกิจขนาดใหญ่ ปฏิรูปทหาร ปฏิรูปสถาบันพระมหากษัตริย์ ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูปรัฐธรรมนูญ แต่กัญชาถือเป็นสิ่งเลวร้ายและพวกเขาไม่ต้องการปฏิรูปสิ่งนั้น” ฐิตินันท์กล่าว 

หรือ ‘ความลับ’ ถูกเปิดเผยโดยไม่ได้ตั้งใจ

เบียร์ สรณัฐ มัสยวานิช ผู้ก่อตั้งอุตสาหกรรมกัญชา ‘Sukhumweed Industries’ กล่าวว่า “แน่นอนว่าผู้คนกังวล มีการลงทุนจำนวนมาก แต่ความลับถูกเปิดเผยออกไปแล้ว พวกเขาลบประวัติ (อาชญากร) ของทุกคนและไม่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นกลับมาได้ แล้วพวกเขาจะทำอย่างไร? ปิดธุรกิจทั้งหมดที่เปิดอยู่ จัดหางานและหาเงิน?”  

ทว่าสรณัฐเองก็สงสัยว่ารัฐบาลที่เข้ามาจะให้ความสำคัญกับประเด็นอื่นๆ มากกว่าการโฟกัสกัญชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากพรรคก้าวไกลได้โอกาสและอยู่ในอำนาจ 

“ค่าไฟที่สูงขึ้น การว่างงาน ประเด็นเหล่านี้และอื่นๆ จะต้องมาก่อน” สรณัฐกล่าวทิ้งท้าย 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์