ไม่สงบง่ายๆ! มหาอำนาจต่างชาติจ้องซีเรียตาเป็นมันหวังฉวยประโยชน์ช่วงสุญญากาศ

21 ธ.ค. 2567 - 03:00

  •  หลังจากกลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัลชาม (HTS) เข้ามาเป็นผู้นำโดยพฤตินัย ซีเรียก็ยังถูกประเทศเพื่อนบ้านโจมตี และยังคงเป็นพื้นที่ต่อสู้แย่งชิงจากกลุ่มต่างๆ ที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน

assad-fallen-why-foreign-powers-still-targeting-syria-SPACEBAR-Hero.jpg

ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาดและรัฐบาลที่อยู่มายาวนานของเขาล่มสลายลงไปแล้ว แต่ซีเรียยังคงเป็นสมรภูมิสำหรับหลายประเทศที่ต่างต้องการแสวงหาประโยชน์ โดยเฉพาะในช่วงภาวะสุญญากาศทางอำนาจที่แสนอันตรายนี้ 

หลังจากกลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัลชาม (HTS) เข้ามาเป็นผู้นำโดยพฤตินัย ซีเรียก็ยังถูกประเทศเพื่อนบ้านโจมตี และยังคงเป็นพื้นที่ต่อสู้แย่งชิงจากกลุ่มต่างๆ ที่มีผลประโยชน์ขัดแย้งกัน บางกลุ่มต้องการฉกฉวยโอกาสจากภาวะสุญญากาศทางอำนาจ ด้วยการพยายามใช้ช่วงเวลาหลังสมัยอัสซาดขยับขยายพื้นที่ที่ควบคุมอยู่ หรือกำจัดฝ่ายตรงข้าม 

ตุรกีต้องการกำจัดกลุ่มกบฏติดอาวุธชาวเคิร์ด อิสราเอลเดินหน้าทำลายประสิทธิภาพของกลุ่มกองทัพแห่งชาติซีเรีย (Syrian Arab Army) ที่ตุรกีหนุนหลังและขยายพื้นที่ครอบครอง ส่วนสหรัฐฯ กระหน่ำโจมตีกลุ่มรัฐอิสลาม (ISIS) และนำเรือรบเข้ามาในภูมิภาคนี้ 

ต่อไปนี้คือการต่อสู้ในซีเรียของกลุ่มต่างๆ  

ผลประโยชน์ของตุรกีในตะวันออกเฉียงเหนือ 

ตุรกีมีส่วนได้เสียในซีเรียมานานแล้ว ก่อนที่อัสซาดจะถูกโค่น ประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน ของตุรกีย้ำหลายครั้งว่าจะปฏิบัติการภาคพื้นดินแบบกะทันหันทางตอนเหนือของซีเรีย เพื่อกำจัดกลุ่มนักรบต่างๆ ที่เป็นพันธมิตรกับพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏที่ตุรกีและสหรัฐฯ มองว่าเป็นองค์กรก่อการร้าย และเพื่อสร้างเซฟโซนให้ผู้อพยพกลับบ้าน 

หลังจากการบุกจู่โจมของกลุ่มกบฏ (HTS) เริ่มขึ้นเมื่อเกือบ 2 สัปดาห์ก่อน การต่อสู้ระหว่างกองทัพแห่งชาติซีเรียและกลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดทางตะวันออกเฉียงเหนือก็ปะทุขึ้น 

รัฐบาลตุรกีมองว่ากลุ่มติดอาวุธชาวเคิร์ดในซีเรียเป็นส่วนหนึ่งของหรือเกี่ยวข้องกับ PKK ขณะที่กองกำลังเคิร์ดทำหน้าที่เป็นพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ ในการต่อสู้กับ ISIS และครอบครองพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของซีเรีย 

เมื่อกลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัลชามขับไล่อัสซาดสำเร็จ การสู้รบระหว่างกองกำลังแห่งชาติซีเรียที่ตุรกีหนุนหลังกับกองกำลังชาวเคิร์ดก็ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าตุรกีจะบุกจู่โจม เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (17 ธ.ค.) Wall Street Journal รายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ตรุกีและกลุ่มพันธมิตรที่ติดอาวุธกำลังสั่งสมกำลังใกล้กับโคบานิ (เมืองหลักของชาวเคิร์ดในซีเรีย) โดยมีความกังวลว่าปฏิบัติการข้ามพรมแดนใกล้จะเกิดขึ้นเต็มที 

อิสราเอลกระหน่ำโจมตี 

วันเดียวกับที่กลุ่มกบฏบุกยึดกรุงดามัสกัส อิสราเอลก็เริ่มโจมตีทรัพย์สินทางการทหารที่เป็นของรัฐบาลอัสซาด หลังจากนั้นก็ยกระดับการโจมตี โดยถล่มเป้าหมายเกือบ 500 ครั้งทำลายกองทัพเรือและกำจัดขีปนาวุธที่ยิงจากพื้นดินสู่อากาศของซีเรียไป 90% (ตามที่อิสราเอลกล่าวอ้าง) 

เจ้าหน้าที่อิสราเอลกล่าวว่า การถล่มทรัพย์สินทางการทหารของซีเรียเป็นไปเพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธยุทโธปกรณ์เหล่านั้น “ตกไปอยู่ในมือของกลุ่มหัวรุนแรง” 

รัฐบาลอิสราเอลยินดีมากต่อการล่มสลายของอัสซาด ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ภักดีกับอิหร่านที่ยอมให้ประเทศตัวเองถูกใช้เป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงให้กลับฮิซบุลเลาะห์ในเลบานอน แต่อิสราเอลก็กลัวสิ่งที่อาจมาจากกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงที่ปกครองซีเรียซึ่งมีพรมแดนติดกับอิสราเอลบนที่ราบสูงโกลัน 

กองทัพอิสราเอลเริ่มรุกคืบภาคพื้นดินเข้าครอบครองดินแดนในซีเรียเพิ่มขึ้น ตอนนี้กองกำลังป้องกันอิสราเอล (IDF) เข้ายึดครองภูเขาเฮอร์มอน ยอดเขาที่สูงที่สุดของซีเรีย ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่มองเห็นทั้งเลบานอน ซีเรีย และอิสราเอล ยอดเขาเฮอร์มอนตั้งอยู่ในเขตกันชนที่แบ่งแยกอิสราเอลกับกองกำลังซีเรียมากว่า 50 ปีจนกระทั่งอัสซาดถูกโค่น 

Voice of the Capital กลุ่มนักเคลื่อนไหวในซีเรียเผยว่า IDF เดินหน้ารุกคืบออกไปนอกเหนือจากยอดเขาจนไปถึงบอกอซัม (Beqaasem) ที่อยู่ห่างจากกรุงดามัสกัสราว 25 กิโลเมตร 

โมฮัมหมัด อัล-โจลานี หัวหน้ากลุ่มกบฏฮายัต ตาห์รีร์ อัลชามกล่าวหาว่า การกระทำของอิสราเอลในซีเรีย “ล้ำเส้นแนวสู้รบ” ขณะที่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้านของซีเรียเรียกร้องให้อิสราเอลถอนกำลังออกจากดินแดนของซีเรียทั้งหมด

assad-fallen-why-foreign-powers-still-targeting-syria-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: ยานพาหนะของกองทัพอิสราเอลข้ามรั้วกลับจากเขตกันชนกับซีเรียใกล้กับหมู่บ้านดรูซ เมืองมัจดาลุชามส์ในที่รายสูงโกลันที่อิสราเอลผนวกเป็นดินแดนของตัวเอง Photo by Jalaa MAREY / AFP

สหรัฐฯ กลัว ISIS ฟื้นคืนชีพ 

สหรัฐฯ เคลื่อนไหวอยู่ในซีเรียมานานหลายปี ด้วยการร่วมมือกับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย (Syrian Democratic Forces - SDF) ที่นำโดยชาวเคิร์ดเพื่อปฏิบัติการต่อต้านกลุ่ม ISIS ในซีเรีย โดยมีทหารสหรัฐฯ ประจำการอยู่ที่นั่นราว 900 นาย ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ 

ตลอดปีที่แล้วฐานทัพสหรัฐฯ หลายฐานถูกโจมตีถี่ขึ้นหลังกลุ่มติดอาวุธที่อิหร่านหนุนหลังซึ่งสนับสนุนกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาพุ่งเป้ามาที่ทรัพย์สินของสหรัฐฯ ในซีเรียและอิรัก เพื่อประท้วงที่สหรัฐฯ หนุนหลังอิสราเอล ส่วนสหรัฐฯ เองก็ตอบโต้ด้วยปฏิบัติการทางอากาศ 

หลังการล่มสลายของอัสซาด สหรัฐฯ เองก็ชัดเจนว่าภารกิจต่อต้านกลุ่ม ISIS จะเดินหน้าต่อไป กองบัญชาการกลางของกองทัพสหรัฐฯ (CENTCOM) ยังคงโจมตีสถานที่ต่างๆ ในซีเรียที่สหรัฐฯ ระบุว่าเป็นแคมป์และฐานปฏิบัติการของ ISIS ด้วยความกังวลว่า ISIS จะฉวยโอกาสจากภาวะสุญญากาศหลังอัสซาดถูกโค่นนี้  

ไมเคิล เอริค คูริลลา ระบุในแถลงการณ์ของ CENTCOM ว่า “CENTCOM ซึ่งร่วมมือกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในภูมิภาค จะไม่ยอมให้ ISIS คืนชีพขึ้นมาอีกและฉวยโอกาสจากสถานการณ์ในปัจจุบันของซีเรีย” 

ที่ซับซ้อนไปกว่านั้นคือ การกลับมาสู้รบกันระหว่างกองกำลังประชาธิปไตยซีเรียซึ่งเป็นพันธมิตรของสหรัฐฯ กับกลุ่มติดอาวุธที่ตุรกีหนุนหลัง หลังอัสซาดถูกโค่น กองกำลังประชาธิปไตยซีเรียระบุว่าถูกกลุ่มที่ตุรกีหนุนหลังโจมตี โดยบางส่วนมุ่งเป้าไปที่สถานกักกันตัวสมาชิกกลุ่ม ISIS ที่กองกำลังประชาธิปไตยเฝ้าระวังอยู่ 

สัปดาห์ที่แล้ว แอนโทนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางไปตุรกี พบกับ ฮาคาน ฟิดาน  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศตุรกี เพื่อหารือสถานการณ์ในซีเรีย  

และความเสี่ยงที่ทำให้เกิดความขัดแย้งในภาคเหนือของซีเรียอีกครั้งอาจเป็นการเปิดช่องให้กลุ่ม ISIS ฟื้นตัว 

Photo by Aris MESSINIS / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์