คณะกรรมาธิการด้านการแข่งขันและผู้บริโภคแห่งออสเตรเลีย (ACCC) ฟ้องรองดำเนินคดีกับ Coles และ Woolworths สองยักษ์ใหญ่ซูเปอร์มาร์เก็ตของประเทศ ในข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายผู้บริโภคโดยทำให้ผู้ซื้อเข้าใจผิดเกี่ยวกับการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคหลายร้อยรายการ
ACCC อ้างว่า ทั้งสองบริษัทปรับขึ้นราคาสินค้าที่ได้รับความนิยม อาทิ น้ำอัดลม บิสกิต ยาสีฟัน ซีเรียล พลาสเตอร์ยา น้ำยาบ้วนปาก ก่อนจะลดราคาลงมาเท่ากับหรือสูงกว่าราคาเดิมก่อนปรับขึ้น
“ที่จริงแล้วส่วนลดนั้นเป็นเพียงการหลอกลวง ผู้บริโภคหลายคนพึ่งพาการลดราคาเพื่อช่วยให้มีเงินซื้อข้าวของเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งความกดดันด้านค่าครองชีพนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้บริโภคชาวออสเตรเลียจะสามารถพึ่งพาความถูกต้องของราคาและการให้ส่วนลดได้”
จีนา แคส กอตต์ลีบ ประธาน ACCC
ประธานาธิบดี แอนโธนี อัลบาเนซี เผยกับผู้สื่อข่าวว่า การกระทำที่ถูกกล่าวหานี้หากเป็นจริง ถือว่า “ยอมรับไม่ได้เลย...สิ่งนี้ไม่ได้อยู่ในจิตวิญญาณของคนออสเตรเลีย ลูกค้าไม่สมควรได้รับการปฏิบัติเหมือนคนโง่”
การตรวจสอบข้อเท็จจริงครั้งนี้ซึ่งเกิดขึ้นจากการเฝ้าจับตาของ ACCC และคำร้องเรียนจากผู้บริโภคพบว่า Woolworths ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจผิดเกี่ยวกับสินค้า 266 ชิ้นในช่วงเวลา 20 เดือน (ก.ย. 2021-พ.ค. 2023) ส่วนของ Coles พบ 245 ชิ้นในช่วง 15 เดือน (ก.พ. 2022-พ.ค. 2023) โดย ACCC คาดว่าทั้งสองบริษัทจำหน่ายสินค้าที่ได้รับผลกระทบ “หลายสิบล้านชิ้น” และ “ได้รับรายได้จำนวนมากจากการขายนั้น”

ACCC ยกตัวอย่างว่า อย่างน้อยตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2021-27 พ.ย. 2022 Woolworths จำหน่าย Oreo Family Pack Original ในราคาปกติ 3.50 ดอลลาร์ออสเตรเลียเป็นเวลาอย่างน้อย 696 วัน ต่อมาวันที่ 28 พ.ย. 2022 ราคาขยับขึ้นเป็น 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย เป็นเวลา 22 วัน วันที่ 20 ธ.ค. 2022 มีการจัดโปรโมชัน “ลดราคา” คุกกี้ดังกล่าวโดยจำหน่ายในราคา 4.50 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (จากราคา 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) ซึ่งจริงๆ แล้ว ราคาที่บอกว่าลดแล้วที่ 4.50 ดอลลาร์ออสเตรเลียนั้นสูงกว่าราคาปกติก่อนหน้า (3.50 ดอลลาร์ออสเตรเลีย) ถึง 29%
ประธาน ACCC เผยอีกว่า หลายครั้งทั้งสองบริษัท “ได้วางแผนจะจำหน่ายสินค้าในโปรโมชัน ‘ลดราคา’ ในภายหลังก่อนที่จะขึ้นราคา และใช้การขึ้นราคาชั่วคราวเพื่อที่จะทำให้ราคาเดิมก่อนลดสูงขึ้น”
ช่วงที่ผ่านมาทั้งสองบริษัทซึ่งมีสัดส่วนถึง 2 ใน 3 ของตลาดออสเตรเลียถูกตรวจสอบอย่างหนักในข้อกล่าวหาโก่งราคาและการกระทำที่มีลักษณะต่อต้านการแข่งขันทางการค้า
ด้าน Coles ออกแถลงกการณ์ชี้แจงว่า จะต่อสู้ในข้อกล่าวหาดังกล่าว และว่าต้นทุนของบริษัทเพิ่มขึ้นทำให้ต้องขยับราคาสินค้าขึ้นตามไปด้วย และจะทำโปรโมชันใหม่ “โดยเร็วที่สุด” หลังกำหนดราคาใหม่แล้ว ส่วน Woolworths ระบุว่า บริษัทจะร่วมมือกับ ACCC ในข้อกล่าวหาดังกล่าว
คณะกรรมการ ACCC เผยอีกว่า จะหาบทลงโทษที่ไม่ระบุรายละเอียด แต่ย้ำว่าโทษปรับสำหรับการฝ่าฝืนกฎหมายผู้บริโภคอยู่ที่ 50 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.123 ล้านล้านบาท) หรือ 30% ของยอดขายตลอดช่วงที่มีการฝ่าฝืน หรือ 3 เท่าของกำไรที่บริษัทได้จากการกระทำผิด
“บทลงโทษต้องสูงมากพอที่จะไม่เป็นต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ เพื่อไม่ให้พวกเขากระทำผิดอีกในอนาคตและป้องกันไม่ให้ร้านค้าปลีกทุกเจ้ากระทำการแบบนี้”
ประธาน ACCC
อย่างไรก็ดี ผลลัพธ์ของการดำเนินการดังกล่าวยากต่อการคาดเดา ไมเคิล ซิโมทาส นักวิเคราะห์จาก Jefferies เผยว่า บทลงโทษต้องไม่เบาจนเกินไป “นอกจากนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไร เราหวังว่าเรื่องนี้จะเพิ่มแรงกดดันต่อการรับรู้ของผู้บริโภคต่อซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ACCC มีจุดยืนที่เข้มงวดมากขึ้นในการคุ้มครองผู้บริโภคชาวออสเตรเลีย ซึ่งต้องต่อสู้กับการผูกขาดโดยมียักษ์ใหญ่เพียง 2 ราย (duopoly) และ การผูกขาดโดยผู้ขายน้อยราย (oligopoly) ในหลายอุตสาหกรรม รวมทั้งการบิน ธนาคาร และโทรคมนาคม โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ACCC ชนะคดีกับสายการบิน Qantas Airways จากการขายตั๋วในเที่ยวบินหลายพันเที่ยวที่บริษัทได้ตัดสินใจยกเลิกไปแล้ว ซึ่ง Qantas Airways ถูกปรับ 100 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย
Photo by Shutterstock/doublelee