กัมพูชาโต้ข่าวลือไม่ได้เคลื่อนย้ายทหารไปชายแดนไทยเพื่อเตรียมรบ

24 ก.พ. 2568 - 03:48

  • หลังจากมีการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธมก็มีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกโซเชียลอ้างว่ากองทัพกัมพูชาเคลื่อนย้ายกำลังพลเตรียมสู้รบ

  • โฆษกกองทัพกัมพูชายืนยันว่า การเผชิญหน้าที่ปราสาทตาเหมือนธมซึ่งเกิดจากการเข้าใจผิดกันได้รับการแก้ไขแล้ว ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงเป็นปกติ

 cambodian-army-denies-troop-deployment-along-border-with-thailand-SPACEBAR-Hero.jpg

กองทัพกัมพูชาปฏิเสธรายงานข่าวว่า ทางกองทัพเคลื่อนย้ายทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์เพื่อเตรียมการสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ใกล้กับปราสาทตาเมือนธม และว่าคลิปวิดีโอหรือรายงานข่าวที่อ้างว่ามีการเคลื่อนย้ายกำลังพลเป็นคลิป/ข่าวปลอม 

การปฏิเสธครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีคลิปวิดีโอเผยแพร่ในโลกโซเชียลแสดงให้เห็นการเคลื่อนไหวของกองทหารและการเคลื่อนย้ายอาวุธไปยังพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศไทย หลังจากมีการเผชิญหน้ากันระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่พิพาทระหว่างกัมพูชากับไทยเมื่อวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา 

โฆษกกองทัพกัมพูชาให้สัมภาษณ์กับ Khmer Times ว่า “ข้อกล่าวอ้างทั้งหมดนี่ไม่เป็นความจริง การแพร่กระจายข้อมูลดังกล่าวซ้ำๆ ทำให้สาธารณชนเข้าใจผิดว่าเรากำลังดำเนินการ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วเราไม่ได้ทำอะไรเลย” และยืนยันว่า มีการโต้เถียงกันระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ปราสาทตาเมือนธมจริง แต่ปัญหาดังกล่าวซึ่งเกิดจากการเข้าใจผิดกันได้รับการแก้ไขแล้ว ขณะนี้สถานการณ์ตามแนวชายแดนยังคงเป็นปกติ 

ในส่วนของการส่งกำลังทหาร โฆษกกองทัพกัมพูชาอธิบายว่าทั้งกองทัพกัมพูชาและไทยต่างรักษาด่านชายแดนมาเป็นเวลานานเพื่อให้เกิดความมั่นคงและป้องกันกิจกรรมที่ผิดปกติในพื้นที่ชายแดน 

โฆษกกองทัพกัมพูชาวิพากษ์วิจารณ์สื่อไทยบางสำนักว่าเผยแพร่ข่าวปลอมโดยตั้งใจให้สถานการณ์ตามแนวชายแดนตึงเครียดขึ้นเพื่อหวังผลทางการเมืองภายใน และว่าสื่อเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับพรรคฝ่ายค้านในไทย 

“พวกเขาสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาเพื่อสร้างปัญหา ในความเป็นจริงเราไม่ได้ดำเนินการใดๆ ทางทหาร สถานการณ์ที่ปราสาทตาเมือนธมยังคงเหมือนเดิม และไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลังพล ทุกสิ่งที่ถูกรายงานออกมาเป็นข้อมูลเท็จ” โฆษกกองทัพกัมพูชากล่าว 

Photo by KHEM SOVANNARA / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์