ก่อนหน้านี้ฟิลิปปินส์ประกาศว่าสหรัฐจะเข้าไปตั้งฐานทัพแห่งใหม่อีก 4 แห่งในฟิลิปปินส์ เพิ่มเติมจากที่มีอยู่แล้ว 5 แห่ง เพื่อจับตาความเคลื่อนไหวของจีนในทะเลจีนใต้ อ่าน “อาเซียนหนีไม่พ้น! ทะเลจีนใต้กำลังจะกลายเป็นสมรภูมิเดือดขงสหรัฐฯ กับจีน” ได้ที่นี่
รายงานล่าสุดของ Wall Street Journal ระบุว่า จีนได้บรรลุข้อตกลงลับกับคิวบาเพื่อติดตั้งศูนย์ลักลอบดักฟังอิเล็กทรอนิกส์ในการส่งสัญญาณข่าวกรองทั้งทางอีเมล โทรศัพท์ และการส่งดาวเทียมบนเกาะแห่งนี้ซึ่งอยู่ห่างจากรัฐฟลอริดาไปประมาณ 100 ไมล์ (160 กม.) ขณะที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ และคิวบาเองก็แสดงข้อสงสัยเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวอย่างมาก
การติดตั้งศูนย์สอดแนมดังกล่าวจะทำให้ปักกิ่งสามารถรวบรวมการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์จากภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ หลายแห่ง ตลอดจนตรวจสอบการจราจรทางเรือได้อีกด้วย
“ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในหลักการ โดยจีนจะจ่ายเงินให้คิวบาหลายพันล้านดอลลาร์เพื่ออนุญาตให้มีสถานีดักฟัง” เจ้าหน้าที่ระบุ
ในเวลาต่อมา คาร์ลอส เฟร์นานเดซ เด คอสซิโอ รองรัฐมนตรีต่างประเทศคิวบาปฏิเสธรายงานดังกล่าวว่า “น่ารังเกียจและไม่มีมูลความจริงเลย” ขณะที่โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า “เราไม่ทราบเกี่ยวกับกรณีนี้ และด้วยเหตุนี้เราจึงไม่สามารถให้ความเห็นได้ในขณะนี้”
สหรัฐฯ ก็ปฏิเสธรายงานดังกล่าวเช่นเดียวกัน
“เราได้เห็นรายงานแล้ว มันไม่ถูกต้อง” จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าว แต่เขาไม่ได้ระบุสิ่งที่เขาคิดว่าไม่ถูกต้อง “สหรัฐฯ มีความกังวลที่แท้จริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจีนกับคิวบา และเรากำลังติดตามอย่างใกล้ชิด”
“หากรายงานดังกล่าวเป็นความจริงก็จะถือเป็นการ ‘โจมตีสหรัฐฯ โดยตรง’ ”บ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกกล่าว
แพทริก ไรเดอร์ โฆษกเพนตากอนกล่าวว่า “รายงานดังกล่าวไม่ถูกต้อง…เราไม่ตระหนักว่าจีนและคิวบากำลังพัฒนาศูนย์สอดแนมประเภทใดก็ตาม ความสัมพันธ์ที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกันนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวของ Wall Street Journal มีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งในประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวันที่ปกครองตนเอง ซึ่งจีนระบุว่าพวกเขามุ่งมั่นที่จะรวมแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน สี จิ้นผิง ผู้นำจีนก็ได้ผลักดันการขยายขอบเขตการรักษาความมั่นคงของประเทศไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับการมีอยู่ของกองทัพสหรัฐฯ ในทุกทวีป
นอกจากนี้ รายงานอื่นๆ ยังระบุว่า สหรัฐฯ เองก็ใช้ไต้หวันเป็นฐานดักฟังฝั่งแผ่นดินใหญ่ และบินเครื่องบินสอดแนมในทะเลจีนใต้เป็นประจำเหมือนกัน
รายงานล่าสุดของ Wall Street Journal ระบุว่า จีนได้บรรลุข้อตกลงลับกับคิวบาเพื่อติดตั้งศูนย์ลักลอบดักฟังอิเล็กทรอนิกส์ในการส่งสัญญาณข่าวกรองทั้งทางอีเมล โทรศัพท์ และการส่งดาวเทียมบนเกาะแห่งนี้ซึ่งอยู่ห่างจากรัฐฟลอริดาไปประมาณ 100 ไมล์ (160 กม.) ขณะที่ทางรัฐบาลสหรัฐฯ และคิวบาเองก็แสดงข้อสงสัยเกี่ยวกับรายงานดังกล่าวอย่างมาก
การติดตั้งศูนย์สอดแนมดังกล่าวจะทำให้ปักกิ่งสามารถรวบรวมการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์จากภาคตะวันออกเฉียงใต้ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐฯ หลายแห่ง ตลอดจนตรวจสอบการจราจรทางเรือได้อีกด้วย
“ทั้งสองประเทศได้บรรลุข้อตกลงในหลักการ โดยจีนจะจ่ายเงินให้คิวบาหลายพันล้านดอลลาร์เพื่ออนุญาตให้มีสถานีดักฟัง” เจ้าหน้าที่ระบุ
ในเวลาต่อมา คาร์ลอส เฟร์นานเดซ เด คอสซิโอ รองรัฐมนตรีต่างประเทศคิวบาปฏิเสธรายงานดังกล่าวว่า “น่ารังเกียจและไม่มีมูลความจริงเลย” ขณะที่โฆษกสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันกล่าวว่า “เราไม่ทราบเกี่ยวกับกรณีนี้ และด้วยเหตุนี้เราจึงไม่สามารถให้ความเห็นได้ในขณะนี้”
สหรัฐฯ ก็ปฏิเสธรายงานดังกล่าวเช่นเดียวกัน
“เราได้เห็นรายงานแล้ว มันไม่ถูกต้อง” จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของทำเนียบขาวกล่าว แต่เขาไม่ได้ระบุสิ่งที่เขาคิดว่าไม่ถูกต้อง “สหรัฐฯ มีความกังวลที่แท้จริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจีนกับคิวบา และเรากำลังติดตามอย่างใกล้ชิด”
“หากรายงานดังกล่าวเป็นความจริงก็จะถือเป็นการ ‘โจมตีสหรัฐฯ โดยตรง’ ”บ็อบ เมเนนเดซ วุฒิสมาชิกกล่าว
แพทริก ไรเดอร์ โฆษกเพนตากอนกล่าวว่า “รายงานดังกล่าวไม่ถูกต้อง…เราไม่ตระหนักว่าจีนและคิวบากำลังพัฒนาศูนย์สอดแนมประเภทใดก็ตาม ความสัมพันธ์ที่ทั้งสองประเทศมีร่วมกันนั้นเป็นสิ่งที่เราต้องเฝ้าติดตามอย่างต่อเนื่อง”
อย่างไรก็ดี รายงานข่าวของ Wall Street Journal มีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างวอชิงตันและปักกิ่งในประเด็นต่างๆ ซึ่งรวมถึงการสนับสนุนของสหรัฐฯ ต่อไต้หวันที่ปกครองตนเอง ซึ่งจีนระบุว่าพวกเขามุ่งมั่นที่จะรวมแผ่นดินใหญ่อีกครั้ง
ขณะเดียวกัน สี จิ้นผิง ผู้นำจีนก็ได้ผลักดันการขยายขอบเขตการรักษาความมั่นคงของประเทศไปทั่วโลกอย่างรวดเร็ว โดยมีเป้าหมายเพื่อให้สอดคล้องกับการมีอยู่ของกองทัพสหรัฐฯ ในทุกทวีป
นอกจากนี้ รายงานอื่นๆ ยังระบุว่า สหรัฐฯ เองก็ใช้ไต้หวันเป็นฐานดักฟังฝั่งแผ่นดินใหญ่ และบินเครื่องบินสอดแนมในทะเลจีนใต้เป็นประจำเหมือนกัน