“การชนะสงครามเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ สิ่งที่สำคัญกว่าคือการรักษาสันติภาพ”
อริสโตเติล เคยกล่าวไว้
ตลอดเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา โลกของเราผ่านการทำสงครามมานับครั้งไม่ถ้วน บางประเทศยอมต่อสู้เพื่อเอกราช บางประเทศเพื่อแย่งชิงอำนาจ และบางประเทศก็เพื่อต้องการเป็นมหาอำนาจ หรือแม้บางประเทศไม่ได้เป็นสนามรบ แต่เป็นพันธมิตรก็ต้องส่งอาวุธส่งกองกำลังไปช่วยรบ บางประเทศก็ประกาศวางตัวเป็นกลาง สุดท้ายแล้วไม่ว่าอย่างไร มันก็ต้องมีเหตุนองเลือดกันอยู่ดี ผลแพ้ชนะบางทีก็ตัดสินให้ตายกันไปข้างหนึ่ง แต่บางครั้งก็ยุติลงได้ด้วยการลงนามในข้อตกลงหยุดยิง
แล้วรู้หรือไม่ว่าไม่ใช่ทุกประเทศบนโลกใบนี้ที่จะทำสงครามนะ ยังมีบางประเทศที่ไม่เคยประกาศสงคราม หรือรบเลยด้วยซ้ำ...มีที่ไหนกันบ้าง?
-ซานมารีโน-

ซานมารีโนก่อตั้งขึ้นเป็นประเทศในศตวรรษที่ 4 และเป็นหนึ่งในประเทศที่เก่าแก่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา แถมยังปลอดจากสงครามนับตั้งแต่ก่อตั้งประเทศอีกด้วย
ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ไม่มีทางออกสู่ทะเล เนื่องจากถูกล้อมรอบด้วยอิตาลีทุกด้าน ด้วยขนาดประเทศทั้งหมด 61.2 ตารางกิโลเมตร และจำนวนประชากรในปัจจุบันไม่ถึง 40,000 คน จึงทำให้ซานมารีโนเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขนาดเล็กที่สุดและมีความสงบสุขที่สุดในโลก
แม้แต่ในช่วงสงครามนโปเลียน จักรพรรดินโปเลียนก็ยังเคารพในความเป็นเอกราชของซานมารีโน ตลอดจนในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพเยอรมันก็ตัดสินใจปล่อยซานมารีโนไว้ เพราะประเทศนี้วางตัวเป็นกลางมาก
-นครรัฐวาติกัน-

นครรัฐวาติกันเป็นประเทศอิสระขนาดเล็กในกรุงโรมของอิตาลี ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิก แทบจะไม่เคยเกิดสงครามเลย และถือเป็นเมืองที่สงบสุข ไม่มีกองกำลังทหารอย่างเป็นทางการ เนื่องจากพระสันตปาปาทรงประกาศว่าพระองค์จะไม่ใช้ทหารองครักษ์ของพระองค์ไปทำสงครามที่ไม่จำเป็น
เหตุการณ์โชคร้ายครั้งเดียวที่เกิดขึ้นในนครรัฐวาติกันจากสงครามนั้นเกิดขึ้นในสงครามโลกครั้งที่ 2 หลังถูกระเบิดโดยไม่ได้ตั้งใจถึง 2 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย
-กรีนแลนด์-

แม้ว่ากรีนแลนด์จะถูกรุกรานและปกครองโดยเดนมาร์ก แต่กรีนแลนด์ไม่เคยสู้รบในสงครามใดๆ เลย เนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยันว่ากรีนแลนด์เคยต่อสู้กับพวกไวกิง จึงถือเป็นประเทศที่รักสันติ
ในปัจจุบัน โดยปกติแล้ว กรีนแลนด์จะไม่มีกองทหาร แต่จะมีหน่วยยามชายฝั่งคอยลาดตระเวนในกรณีฉุกเฉิน
-วานูอาตู-

วานูอาตูเป็นประเทศที่ประกอบด้วยเกาะประมาณ 80 เกาะ มีชื่อเสียงในเรื่องน้ำทะเลที่สวยงามและทิวทัศน์อันน่าทึ่ง สถานที่ที่สวยงามแห่งนี้ตั้งอยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ และไม่เคยประสบกับภาวะสงครามมาก่อน
แม้ประเทศเพื่อนบ้านอย่างหมู่เกาะโซโลมอนจะเข้าร่วมการสู้รบในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่วานูอาตูรอดจากการเข้าร่วมสงคราม
ประเทศที่ไม่ทำสงครามมานานกว่า 100 ปี!!!
-สวิตเซอร์แลนด์-

สวิตเซอร์แลนด์ได้รับเอกราชจากฝรั่งเศสในปี 1815 ซึ่งในขณะนั้นรู้จักกันในชื่อ ‘สหพันธรัฐสวิส’ และเป็นประเทศ ‘ที่เป็นกลาง’ จนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองครั้งใหญ่ในปี 1848 สงครามกลางเมืองครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการแบ่งแยกทางศาสนาภายในประเทศ ทว่าสงครามดังกล่าวส่งผลให้ประเทศรวมอำนาจไว้ที่ศูนย์กลางมากขึ้น และสถาปนาสวิตเซอร์แลนด์ขึ้นดังที่เรารู้จักในปัจจุบัน
นับตั้งแต่สงครามกลางเมืองในปี 1847 ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไม่เคยเผชิญกับความขัดแย้งใดๆ เลย ดินแดนแห่งนี้เป็นกลางทั้งในสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 ถึงแม้ว่าในสงครามโลกครั้งที่ 2 สวิตเซอร์แลนด์จะถูกทิ้งระเบิดโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก
นอกจากนี้ สวิตเซอร์แลนด์ยังมีกองทัพที่แข็งแกร่งซึ่งผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี และกลายเป็นประเทศที่สงบสุขในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากประเทศไม่ทำสงคราม อีกทั้งยังปราศจากความขัดแย้งภายในอีกด้วย
-สวีเดน-

อันที่จริงแล้ว สวีเดนไม่ได้เข้าร่วมสงครามมาตั้งแต่ปี 1814 จนกลายเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ไม่ได้เข้าร่วมสงครามมานานกว่า 100 ปีแล้ว
แม้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สวีเดนจะประกาศวางตัวเป็นกลางไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในการสู้รบโดยตรง แต่สวีเดนกลับถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากหลายประเทศทั่วโลก เพราะอนุญาตให้กองทัพนาซีเยอรมันเคลื่อนทัพผ่านแดนโดยใช้ถนนและเครือข่ายรถไฟของประเทศ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการกับเยอรมนี
-ไอซ์แลนด์-

ไอซ์แลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่รักความสงบ เพราะไม่เคยเกี่ยวข้องกับสงครามเลยนับตั้งแต่ประเทศได้รับเอกราชจากสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อนาซีเยอรมนีรุกรานเดนมาร์กในปี 1940 ซึ่งเวลานั้นไอซ์แลนด์อยู่ภายใต้การปกครองของเดนมาร์ก ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไอซ์แลนด์ได้รับการปกป้องโดยกองทหารอังกฤษ แคนาดา และอเมริกันจำนวนมาก
สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงเวลาที่ไอซ์แลนด์ต้องเผชิญกับทั้งความสุขและความทุกข์ เนื่องจากประเทศได้รับอิสรภาพจากการปกครองของเดนมาร์ก อีกทั้งไอซ์แลนด์ก็ไม่เคยเข้าร่วมสงครามใดๆ เลย และเป็นประเทศเดียวใน NATO ที่ไม่มีกองทัพประจำการ ซึ่งช่วยให้มีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำ
