โคอินัวร์-คัลลินัน เมื่ออินเดีย-แอฟริกาใต้ทวงเพชรคืน

5 พ.ค. 2566 - 06:47

  • ระหว่างพิธีบรมราชาภิเษก พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงถือคทาที่มีเพชรคัลลินันเป็นเพชรเม็ดเด่น

  • ราชินีคามิลลาจะไม่ทรงมงกุฎอิมพีเรียลสเตตที่ประดับเพชรโคอินัวร์ โดยจะทรงมงกุฎควีนแมรีแทน

  • ทั้งอินเดียและแอฟริกาใต้ ต่างก็เรียกร้องให้อังกฤษส่งเพชรดังกล่าวกลับคืนสู่บ้านเกิด

crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Thumbnail
นอกจากชาวโลกจะรอชมพิธีราชาภิเษกของพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 ของอังกฤษแล้ว พิธีนี้ยังจุดกระแสการเรียกร้องให้อังกฤษส่งคืนเพชรที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ประดับเป็นเพชรเม็ดเด่นอยู่บนคทาที่พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 จะทรงถือเข้าพิธีในวันเสาร์นี้ให้แก่แอฟริกาใต้ซึ่งเป็นเจ้าของเดิม 

ขณะนี้มีผู้ร่วมลงชื่อเรียกร้องทางออนไลน์กว่า 8,000 รายชื่อแล้ว โดย โมธูซี คาแมงกา นักกฎหมายและนักเคลื่อนไหวในเมืองโจฮันเนสเบิร์กของแอฟริกาใต้ที่เป็นแกนนำในการลงชื่อเรียกร้องทางออนไลน์เผยกับสำนักข่าว Reuters ว่า “เพชรต้องกลับมาที่แอฟริกาใต้ มันต้องเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจ มรดก และวัฒนธรรมของเรา ผมคิดว่าโดยทั่วไปแล้วคนแอฟริกันเริ่มตระหนักว่าการปลดปล่อยอาณานิคมไม่ใช่แค่การปล่อยให้ผู้คนมีเสรีภาพบางอย่าง แต่ยังเป็นการเอาคืนสิ่งที่ถูกยึดไปจากเราด้วย” 
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/E8QSb6QMGwvItHtzNwrkg/093523b4c3f032f8cdccc4ea7bee97b5/crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Photo_V01
Photo: เพชรคัลลินันที่ประดับอยู่บนคทา ภาพ: Royal Collection Trust
เช่นเดียวกับ ไวออลเวธู ซันกูลา นักการเมืองจากพรรคฝ่ายค้านของแอฟริกาใต้ที่บอกว่าเพชรเม็ดนี้เป็นของคนแอฟริกาใต้ “ผู้คนต้องล้มตาย ต้องเสียเลือดเนื้อเพื่อให้เพชรเหล่านั้นไปอยู่ที่อังกฤษ ความมั่งคั่งทางแร่ธาตุทั้งหมดในแอฟริกาใต้เป็นของชาวแอฟริกาใต้ ไม่ใช่ของอังกฤษ” และโมฮาเหม็ด อับดุลลาฮี ชาวเมืองโจฮันเนสเบิร์กที่บอกว่า “ผมเชื่อว่าควรพามันกลับบ้าน เพราะสุดท้าย พวกเขาเอามันไปจากเราในขณะที่พวกเขาบีบบังคับเรา” 

เพชรคัลลิแนนถูกพบที่เหมืองของ โธมัส คัลลิแนน ในแอฟริกาใต้เมื่อปี 1905 เป็นเพชรที่ยังไม่ผ่านการเจียระไนที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยน้ำหนัก 3,106 กะรัต ต่อมาเพชรเม็ดนี้ถูกส่งไปที่กรุงอัมสเตอร์ดัมเพื่อตัดแบ่งออกเป็นเพชรเม็ดใหญ่ๆ 9 เม็ด และเม็ดเล็กๆ อีก 96 เม็ด
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/7uI0rGe58aiqrhjvnffWLi/8ab0ac4dba8436072186059658fe2719/crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Photo01
Photo: เพชรคัลลินันดิบก่อนเจียระไน ภาพ: Wikipedia
ราชวงศ์อังกฤษครอบครองเพชรคัลลิแนนที่ถูกตัดแบ่งไว้จำนวนหนึ่ง นั่นคือ เพชรคัลลิแนน 1 หรือชื่อเดิมคือ Great Star of Africa (ดาวใหญ่แห่งแอฟริกา) ซึ่งเป็นเพชรเม็ดใหญ่ที่สุดที่แบ่งออกมาจากเพชรคัลลิแนน (หนัก 530.2 กะรัต) นำมาประดับไว้บนคทากางเขน (Sceptre with Cross) 

ส่วนเพชรที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ที่ตัดมาจากเพชรคัลลิแนนคือ เพชรคัลลิแนน 2 หรือชื่อเดิมคือ Second Star of Africa (ดาวดวงที่ 2 แห่งแอฟริกา) มีน้ำหนัก 317 กะรัต ถูกนำมาประดับไว้บนมงกุฎอิมพีเรียลสเตตที่ตั้งประดับไว้บนหีบพระบรมศพควีนเอลิซาเบธ โดยเป็นเพชรที่มีมูลค่ามากที่สุดบนมงกุฎ
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/50NS1LOcWD9g0S9S7Wbfkb/fc833aa64df28a6e4e951d63223362f9/crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Photo02
Photo: เพชรคัลลินันทั้งเก้าชิ้นใหญ่ที่สุดหลังตัดแบ่ง ภาพ: Wikipedia
นอกจากนี้ควีนเอลิซาเบธยังเป็นเจ้าของเพชรคัลลิแนนที่เม็ดใหญ่รองลงมาอีก 2 เม็ดซึ่งนำมาประดับไว้บนเข็มกลัดซึ่งรู้จักกันในชื่อ Granny’s Chips

ข้อมูลของสารานุกรม Brittanica ระบุว่า เพชรคัลลินันถูกซื้อโดยรัฐบาลในทรานส์วาลของแอฟริกาใต้ซึ่งเป็นที่ที่พบเพชรเม็ดดังกล่าว และเมื่อปี 1907 ก็ถูกนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ซึ่งเป็นประมุขของอังกฤษในขณะนั้น และเป็นช่วงที่แอฟริกาใต้ยังอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ

ส่วน Royal Collection Trust หน่วยงานที่ดูแลทรัพย์สินของราชวงศ์อังกฤษระบุว่า เพชรถูกทูลเกล้าฯ ถวายแด่คิงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ในการเยียวยาความบาดหมางระหว่างอังกฤษและแอฟริกาใต้ภายหลังสงครามโบเออร์
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/6fb8vcChrXXub8XMVWEuPO/906585fd458a61cf1b9d9e54e5f61c53/crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Photo03
Photo: มงกุฎอิมพีเรียลสเตตที่วางอยู่บนหีบพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2
นอกจากนี้ หลังจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 สวรรคตยังเกิดกระแสเรียกร้องจากอินเดียให้รัฐบาลอังกฤษส่งคืนเพชรล้ำค่าโคอินัวร์ (Koh-i-Noor) ที่ประดับอยู่บนมงกุฎอิมพีเรียลสเตต  

ขณะนั้นโลกทวิตเตอร์ในอินเดียพูดถึงเพชรโคอินัวร์กันเป็นวงกว้างซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทวงคืนจนแฮชแท็ก #kohinoor ติดเทรนด์  

ผู้ที่ใช้ชื่อว่า วิเวก ซิงห์ ทวีตว่า “ควีนเอลิซาเบธสวรรคตวันนี้ พวกเราจะทวงคืนเพชร #โคอินัวร์ ที่ถูกชาวอังกฤษขโมยไปจาก #อินเดีย กลับมาได้หรือยัง พวกเขาสร้างความมั่งคั่งบนความตาย ความอดอยาก เผาและปล้น”  

อีกรายหนึ่งทวีตว่า “เส้นทางของโคอินัวร์: จากอินเดียสู่อังกฤษ มันควรกลับมาบ้านเกิดได้แล้ว นั่นคือสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่อังกฤษทำได้หลังจากแสวงหาประโยชน์ กดขี่ เหยียดเชื้อชาติ ใช้แรงงานทาสกับคนอินเดียมาหลายร้อยปี” 

หลายคนถึงกับเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี นเรนทระ โมดี ขอให้อังกฤษคืนเพชรโคอินัวร์ให้อินเดียอย่างเป็นทางการ 

เพชรโคอินัวร์ ซึ่งแปลว่า ‘ภูเขาแห่งแสงสว่าง’ ในภาษาเปอร์เซีย กลายเป็นประเด็นข้อพิพาททางการเมืองระหว่างอินเดียและอังกฤษมายาวนานว่าใครเป็นเจ้าของเพชรล้ำค่าหายากเม็ดนี้กันแน่ โดยชาวอินเดียส่วนใหญ่เชื่อว่าเพชรถูกอังกฤษขโมยไปในยุคอาณานิคม 


เพชรโคอินัวร์ถูกพบในเหมือง Golconda ทางตอนกลางของภาคใต้ของอินเดียในช่วงศตวรรษที่ 14 และผ่านมือเจ้าของมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดิของจักรวรรดิโมกุล ชาร์แห่งอิหร่าน อาเมียร์ของอัฟกานิสถาน และมหาราชาของจักรวรรดิซิกข์
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/5PIsfSsxCYksn1I30sgoZt/a30d7ce099992eca1f82f14911f2534a/crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Photo04
Photo: เพชรโคอินัวร์จำลองที่จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ปรินซ์ออฟเวลส์แห่งเวสเทิร์นอินเดียในเมืองมุมไบของอินเดีย ภาพ: Wikipedia
ส่วนอังกฤษได้เป็นเจ้าของเพชรโคอินัวร์เมื่อปี 1849 หลังจากบริษัท อีสต์ อินเดีย ริบเพชรมาจากมหาราชาทุลีป ซิงห์ ของจักรวรรดิซิกข์ในปัญจาบ โดยการมอบเพชรเป็นส่วนหนึ่งของสนธิสัญญาลาฮอร์ที่ระบุว่าจักรวรรดิซิกข์ต้องยอมจำนนต่ออังกฤษเพราะแพ้สงครามแองโกล-ซิกข์ 

หลายคนเชื่อว่าเพชรโคอินัวร์เป็นเพชรต้องคำสาปที่จำนำพาความโชคร้ายมาสู่ผู้สวมใส่ที่เป็นผู้ชาย แต่จะนำพาความโชคดีมาสู่ผู้หญิง เนื่องจากความเป็นมาอันโชคเลือดของเพชรตลอดเกือบ 1,000 ปีทั้งจากการฆาตกรรมและการทรยศหักหลัง  

เมื่อปี 2016 เพชรโคอินัวร์กลายเป็นกรณีพิพาทถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล เมื่อองค์กรไม่แสวงกำไรแห่งหนึ่งในอินเดียยื่นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งให้รัฐบาลอินเดียนำเพชรกลับสู่บ้านเกิด  

ในขณะนั้นอัยการสูงสุดซึ่งเป็นตัวแทนของรัฐบาลอินเดียเผยว่า เพชรโคอินัวร์คือของขวัญที่อดีตผู้ปกครองปัญจาบมอบให้บริษัท อีสต์ อินเดียในปี 1849 และ “ไม่ใช่เพชรที่ถูกขโมยหรือถูกบีบบังคับเพื่อเอาไป” 

ทว่าภายหลังรัฐบาลอินเดียเกิดเปลี่ยนใจ และกระทรวงวัฒนธรรมของอินเดียก็ยืนยันว่า “จะทำทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อนำเพชรโคอินัวร์กลับคืนมาอย่างเป็นมิตร”
https://images.ctfassets.net/i3o8p9lzd06f/Dc2KThTR9NgnIOBZV0AR6/210da114b448f077a3bf1569c907cdd3/crown-jewels-india-kohinoor-great-star-africa-cullinan-SPACEBAR-Photo05
Photo: มงกุฎควีนแมรี ภาพ: Royal Collection Trust
และเพื่อไม่ให้เกิดประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง สมเด็จพระราชินีคามิลลาจะไม่ทรงประดับเพชรโคอินัวร์บนมงกุฎของพระองค์ในวันพิธีราชาภิเษก แต่จะทรงมงกุฎควีนแมรี (Queen Mary's Crown) แทน นับเป็นครั้งแรกในรอบเกือบสามศตวรรษที่สมเด็จพระราชินีมเหสี จะทรงใช้มงกุฎของพระราชินีพระองค์ก่อน แทนการสร้างมงกุฎองค์ใหม่เป็นการเฉพาะ 

ในพิธีครั้งนี้ ช่างศิราภรณ์จะเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบเดิมของมงกุฎ ทั้งโครงสร้างและอัญมณีประดับมงกุฎสำหรับสมเด็จพระราชินีพระองค์ใหม่ด้วย และเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จะมีการประดับเพชรคัลลิแนนที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ซึ่งสมเด็จพระราชินีนาถทรงใช้เป็นเข็มกลัดตลอดพระชนม์ชีพ

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์