ชาวอเมริกันไม่ปลื้ม! ผลงานทรัมป์แค่ 100 วันแรกก็สอบ ‘ไม่ผ่าน’ แถมคะแนนนิยมลดฮวบ

4 พ.ค. 2568 - 00:00

  • ดูเหมือนว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จะไม่ราบรื่นเสียแล้ว เพราะผ่านไปแค่ 100 วันแรกก็พบว่า คะแนนนิยมของเขากลับ ‘ลดลง’ อย่างเห็นได้ชัดอยู่ที่ 44% จาก 52% นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง

  • คะแนนนิยมมของทรัมป์ต่ำที่สุดในรอบกว่า 7 ทศวรรษจากการประเมินผลงานช่วง 100 วันแรก และเป็นประธานาธิบดีเพียงคนเดียวหลังสงครามโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนไม่ถึงครึ่งหนึ่งในช่วง 100 วันแรกทั้ง 2 วาระ

donald-trump-given-f-rating-by-americans-after-100-days-SPACEBAR-Hero.jpg

ดูเหมือนว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 2 ของ ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ จะไม่ราบรื่นเสียแล้ว เพราะผ่านไปแค่ 100 วันแรกก็พบว่า คะแนนนิยมของเขากลับ ‘ลดลง’ อย่างเห็นได้ชัดอยู่ที่ 44% จาก 52% นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ถือเป็นคะแนนนิยมที่ต่ำที่สุดสำหรับประธานาธิบดีที่ได้รับการเลือกตั้งใหม่ในรอบ 100 วันในรอบกว่า 7 ทศวรรษ และเป็นประธานาธิบดีเพียงคนเดียวหลังสงครามโลกที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนไม่ถึงครึ่งหนึ่งในช่วง 100 วันแรกทั้ง 2 วาระ 

ตามผลสำรวจใหม่ของสำนักข่าววิทยุ NPR, สำนักข่าว PBS News และสถาบันสำรวจความคิดเห็น Marist Poll เผยให้เห็นว่า ชาวอเมริกันส่วนใหญ่ราว 45% ให้คะแนนผลงานของทรัมป์อยู่ในเกรด ‘F’ หมายความว่า ‘ไม่ผ่าน’ สำหรับพวกเขา 

เมื่อชาวอเมริกันเริ่ม ‘ไม่ปลื้ม’...

ai-Info-donald-trump-given-f-rating-by-americans-after-100-days-01.jpg
Photo: อินโฟกราฟฟิกโดย : สันติ อมรสถิตย์

ตามธรรมเนียมเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะถูกประชาชนประเมินผลงานจากการการปฏิบัติหน้าที่มาประมาณ 100 วัน ซึ่งเป็นช่วงเวลานับย้อนหลังไปอย่างน้อย 100 วัน และประเมินความคืบหน้าของรัฐบาลชุดใหม่ 

จากโพลสำรวจพบว่า ชาวอเมริกัน : 

  • 45% ‘ไม่’ พอใจผลงานของประธานาธิบดีทรัมป์ช่วง 100 วันแรกให้เกรด ‘F’ 
  • 23% พอใจให้เกรด ‘A’ 
  • 17% เห็นว่าพอใช้ได้ให้เกรด ‘B’ 
  • 8% ให้เกรด ‘C’ 
  • 7% ให้เกรด ‘D’  

คะแนนที่ต่ำนี้มาจากความ ‘ไม่พอใจ’ ของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้นจากนโยบายล่าสุด ซึ่งรวมถึงมาตรการภาษีศุลกากรครั้งใหม่ของสหรัฐฯ และความตึงเครียดทั่วโลกที่เพิ่มมากขึ้น 

สำหรับมาตรการภาษีที่ทรัมป์ประกาศปลดแอกอเมริกาเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น ก็มีเพียงชาวอเมริกัน 34% เท่านั้นที่ ‘เห็นด้วย’ กับนโยบายเรียกเก็บภาษีดังกล่าว ขณะที่อีก 58% ‘ไม่เห็นด้วย’ แม้แต่สาวกรีพับลิกัน 20% ก็ไม่เห็นด้วยกับแนวทางของทรัมป์ ยิ่งจากฝั่งเดโมแครตไม่ต้องพูดถึง ‘ไม่เห็นด้วย’ ถึง 90%  

หากเปรียบเทียบกับวาระแรกของทรัมป์แล้วนั้น ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ในวาระแรก มีเพียงชาวอเมริกัน 32% ที่ไม่พอใจให้เกรด ‘F’ แต่วาระที่สองนั้นเพิ่มขึ้นถึง 45% ซึ่งสูงกว่า บารัค โอบามา ที่ได้ไปเพียง 11% และ โจ ไบเดน ที่ 26% 

จากการสำรวจความคิดเห็นของชาวอเมริกันพบว่า คะแนนนิยมของทรัมป์อยู่ในสถานะที่ ‘ย่ำแย่’ และกำลังจมดิ่งลงในเกือบทุกประเด็นสำคัญโดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม หลังจากการเปิดตัวมาตรการภาษีสุดเข้มงวดทำให้ตลาดหุ้นผันผวน เกิดความกังวลเกี่ยวกับราคาสินค้าที่เพิ่มสูงขึ้น ขณะที่ความเชื่อมั่นของสาธารณชนต่อความสามารถของทรัมป์ในการจัดการกับประเด็นเหล่านั้นก็ ‘ลดลง’ ด้วยเช่นกัน 

“ฉันผิดหวัง ฉันตั้งใจจะให้โอกาสเขา เพราะคิดว่าเขาสามารถทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเศรษฐกิจ...แต่ก็ต้องผิดหวังต่อไป” หญิงชาวเวอร์จิเนียไม่เปิดเผยชื่อวัย 55 ปีซึ่งทำงานให้รัฐบาลกลางมานานกว่า 2 ทศวรรษ กล่าว

“เขาทำลายสถิติของตัวเองในฐานะ ‘คนที่แย่ที่สุด’ ประชาชนชาวอเมริกันไม่ชอบสิ่งที่พวกเขาเห็นในขณะนี้จากการกระทำของโดนัลด์ จอห์น ทรัมป์”

แฮร์รี่ เอนเทน นักสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าว CNN กล่าว

ผู้ใหญ่ชาวอเมริกันราวครึ่งหนึ่งกล่าวว่า การดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของทรัมป์ส่งผลกระทบเชิงลบต่อชีวิตของพวกเขาเป็นอย่างมาก พรรคเดโมแครต 81% ระบุว่า นโยบายของทรัมป์ส่งผลกระทบเชิงลบต่อพวกเขา ขณะที่พรรครีพับลิกัน 67% เชื่อว่านโยบายของทรัมป์ส่งผลดีต่อพวกเขา แต่อีก 11% ของรีพับลิกันบอกว่าส่งผลกระทบเชิงลบ ขณะที่ 22% บอกว่าไม่มีผลกระทบต่อพวกเขาแต่อย่างใด  

51% ของชาวอเมริกันบอกว่า ทรัมป์กำลังขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางที่แย่ลง ซึ่งเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 48% ในเดือนมีนาคม และ 42% บอกว่าการบริหารของทรัมป์เป็นไปในทางที่ดีขึ้นต่างหากล่ะ 

ชาวอเมริกันมากกว่า 6 ใน 10 ราว 61% หรือครึ่งหนึ่งบอกว่าทรัมป์รีบเร่งที่จะเปลี่ยนแปลงเร็วเกินไปโดยไม่คำนึงถึงผลกระทบของการกระทำดังกล่าว ขณะที่ 39% เชื่อว่าทรัมป์กำลังทำในสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้ประเทศกลับมาเดินหน้าได้อีกครั้ง  

คนอเมริกันส่วนใหญ่ ‘ไม่เห็นด้วย’ กับการบริหารงานของทรัมป์แทบทุกด้าน

ai-Info-donald-trump-given-f-rating-by-americans-after-100-days-02.jpg
Photo: อินโฟกราฟฟิกโดย : สันติ อมรสถิตย์

- เศรษฐกิจ - 

หนึ่งในนโยบายด้านเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลกก็คือ ‘มาตราการภาษีตอบโต้’ โดย 6 ใน 10 บอกว่า สภาพเศรษฐกิจของประเทศเป็นผลมาจากนโยบายของทรัมป์ แต่ 39% คิดว่าสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศเป็นสิ่งที่ทรัมป์รับช่วงต่อมา 

คนอเมริกันส่วนใหญ่ราว 57% คิดว่าการเก็บภาษีศุลกากรจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ แต่ 33% เชื่อว่าภาษีนำเข้าช่วยจะเศรษฐกิจของประเทศ และ 10% คิดเป็น 1 ใน 10 บอกว่าภาษีนำเข้าไม่ได้สร้างความแตกต่างมากนัก 

51% ของชาวอเมริกันบอกว่าจะไม่เปลี่ยนใจซื้อสินค้าใดๆ เลยตามมาตรการภาษีนำเข้าสินค้าของรัฐบาลทรัมป์ แต่ชาวอเมริกัน 21% บอกว่าพวกเขาเร่งซื้อสินค้ามากขึ้น และอีก 28% ชะลอการซื้อสินค้าบางรายการ 

เกือบ 2 ใน 3 หรือคิดเป็น 64% บอกว่าราคาอาหารจะเพิ่มขึ้นในช่วง 6 เดือนข้างหน้า ขณะที่ 16% เชื่อว่าราคาอาหารจะลดลง และอีก 20% บอกว่าราคาจะเท่าเดิม 

- นโยบายการย้ายถิ่นฐาน - 

นโยบายการจัดการกับการ ‘อพยพย้ายถิ่นฐาน’ ถือเป็นปัญหาสำคัญสำหรับทรัมป์ตั้งแต่ที่เขาเริ่มรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีเมื่อเกือบ 10 ปีก่อน และยังคงเป็นปัญหาเรื่อยมาจวบจนทุกวันนี้ 

ผู้คนส่วนใหญ่มองว่าทรัมป์ทำผลงานด้านการตรวจคนเข้าเมืองและความปลอดภัยชายแดนได้ดีที่สุด แต่เมื่อไม่นานมานี้ ชาวอเมริกันกลับมีมุมมองที่ต่างออกไป โดยพบว่า 51% ไม่เห็นด้วยกับการจัดการเรื่องการย้ายถิ่นฐานและการเนรเทศ 

จากผลสำรวจของ ‘Stay Tuned’ ของสำนักข่าว NBC News พบว่า 59% คัดค้านการเคลื่อนไหวของรัฐบาลในการเพิกถอนวีซ่าของผู้ที่ถูกตัดสินว่ามี ‘ผลกระทบทางลบต่อนโยบายต่างประเทศ’ ซึ่งรวมถึงนักเรียนนักศึกษาที่ประท้วงสงครามอิสราเอลในฉนวนกาซา  

นอกจากนี้ ผลสำรวจล่าสุดของสำนักข่าว Economist และบริษัทวิจัย YouGov พบว่า 45% บอกว่าความพยายามของรัฐบาลในการจับกุมและเนรเทศผู้อพยพนั้น ‘เกินเหตุมากเกินไป’ ขณะที่ 27% บอกว่า ‘เหมาะสมแล้ว’ และ 20% บอกว่า ‘แค่เนรเทศยังไม่พอ’ 

- หน่วยงานประสิทธิภาพรัฐบาล ‘DOGE’ ขาดความน่าเชื่อถือ - 

เมื่อไม่กี่วันมานี้ อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา ออกมาบอกว่าบทบาทของเขากับหน่วยงานประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) จะเริ่มลดลง แถมผลสำรวจก็แสดงให้เห็นว่า มัสก์ไม่ได้รับความนิยมเหมือนเดิมแล้ว 

54% มองมัสก์ในแง่ลบ ในขณะที่ 41% มองว่ามัสก์เป็นคนดี แต่ผลสำรวจของสำนักข่าว Wall Street Journal พบว่า 55% บอกว่ามัสก์ ‘มีอำนาจมากเกินไป’ 

ชาวอเมริกันแสดงความกังวลเกี่ยวกับแนวทางของมัสก์และ DOGE ที่มุ่งเน้น ‘การลดขนาดรัฐบาล’  แม้ว่าจะเปิดใจรับแนวคิดในการแก้ไขปัญหาประสิทธิภาพของรัฐบาลก็ตาม ผลสำรวจของ Pew พบว่า 59% เห็นว่าแนวทางของทรัมป์ในการตัดลดหน่วยงาน และกระทรวงของรัฐบาลกลางนั้นเป็นการกระทำที่ ‘ประมาทเกินไป’ 

46% มองว่า DOGE เป็นแนวคิดที่ดี โดยประมาณ 1 ใน 3 ต้องการให้ DOGE ดำเนินงานต่อไป แต่ 28% เห็นว่าควรชะลอการดำเนินงานของ DOGE เพื่อประเมินผลกระทบให้รอบคอบยิ่งขึ้น  

- นโยบายต่างประเทศ - 

จากการสำรวจของสำนักข่าว CNBC พบว่า ทรัมป์ได้รับคะแนนเชิงลบในการดำเนินนโยบายต่างประเทศ โดยชาวอเมริกัน 53% ไม่เห็นด้วยกับการบริหารดังกล่าว 

ขณะที่โพลสำรวจของสำนักข่าว New York Times และวิทยาลัยเซียน่าระบุว่า 54% ‘ไม่เห็นด้วย’ กับการจัดการความขัดแย้งต่างประเทศของทรัมป์ และ 56% ‘ไม่เห็นด้วย’ กับวิธีการจัดการสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน 

(Photo by JEFF KOWALSKY / AFP)

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์