ผู้เชี่ยวชาญ ระบุว่า นักท่องเที่ยว 5 คนที่สูญหายใกล้กับซากเรือไททานิคอาจประสบกับภาวะความดันในปอด จากการกดอากาศของไนโตรเจน และภาวะอุณหภูมิต่ำ หากเรือดำน้ำแตก แม้ว่าจะมีสัญญาณบางอย่างว่าพวกเขาอาจยังมีชีวิตอยู่ แต่อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เรือดำน้ำหายไปและชะตากรรมสุดท้ายของมันยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด
สถานการณ์หนึ่งคือการที่ตัวเรือแตกในขณะที่เรืออยู่ในมหาสมุทรลึก และหากสิ่งนี้เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโอกาสรอดชีวิตของผู้โดยสารนั้นแทบจะเป็นศูนย์
นิโคลไล โรเตอร์แมน นักนิเวศวิทยาใต้ท้องทะเลลึกแห่งมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ กล่าวว่า หากอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น แรงกดดันจะคร่าชีวิตผู้คนใต้ทะเลในทันที หากมีการแตกหักของตัวถัง ผู้โดยสารจะตกลงสู่มหาสมุทรในทันที เนื่องจากแรงดันมากกว่า 5,500 ปอนด์ต่อตารางนิ้วจากมหาสมุทรที่ความลึก 3,800 เมตร
ด้าน ศ.อลิสแตร์ เกรก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากตัวเรือพัง สถานการณ์จะไม่ค่อยดี
แม้แต่การดำน้ำของมนุษย์ที่ลึกที่สุด โดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เช่น อุปกรณ์ดำน้ำลึก ก็ลงไปได้แค่เพียง 121 เมตรเท่านั้นและก็ถือว่ามีความอันตราย ขณะที่หากมีอุปกรณ์เฉพาะทางเพื่อต่อสู้กับแรงกดดันที่รุนแรงของความลึกก็สามารถเข้าถึงความลึกได้ที่ประมาณ 518 เมตรเท่านั้น
หรือแม้กระทั่งวาฬที่อาศัยอยู่ในมหาสุทรลึกก็ยังอยู่ในน้ำลึกแค่ 3,000 เมตรเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากแรงดันในน้ำลึก
หากตัวเรือไม่เสียหาย และเรือลอยค้างอยู่โดยไม่มีพลังงาน ผู้โดยสารทั้ง 5 คนจะอยู่ในความมืดสนิทในอุณหภูมิประมาณ 3 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรือจะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำและลอยอยู่บนกระแสน้ำในมหาสมุทร แต่เรือได้รับการออกแบบให้เปิดได้จากภายนอกเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าหน่วยค้นหายังคงมีเวลาจำกัด
นอกจากนี้ OceanGate ยังเผชิญกับคำถามว่าเหตุใดจึงใช้เวลานานมากในการแจ้งเจ้าหน้าที่ถึงการหายไป โดยเพียงส่งสัญญาณเตือนไปยังหน่วยยามฝั่ง 8 ชั่วโมงหลังจากขาดการติดต่อ
สถานการณ์หนึ่งคือการที่ตัวเรือแตกในขณะที่เรืออยู่ในมหาสมุทรลึก และหากสิ่งนี้เกิดขึ้น ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าโอกาสรอดชีวิตของผู้โดยสารนั้นแทบจะเป็นศูนย์
นิโคลไล โรเตอร์แมน นักนิเวศวิทยาใต้ท้องทะเลลึกแห่งมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ กล่าวว่า หากอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น แรงกดดันจะคร่าชีวิตผู้คนใต้ทะเลในทันที หากมีการแตกหักของตัวถัง ผู้โดยสารจะตกลงสู่มหาสมุทรในทันที เนื่องจากแรงดันมากกว่า 5,500 ปอนด์ต่อตารางนิ้วจากมหาสมุทรที่ความลึก 3,800 เมตร
ด้าน ศ.อลิสแตร์ เกรก ผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมทางทะเลแห่งมหาวิทยาลัยคอลเลจลอนดอน กล่าวเพิ่มเติมว่า หากตัวเรือพัง สถานการณ์จะไม่ค่อยดี
แม้แต่การดำน้ำของมนุษย์ที่ลึกที่สุด โดยไม่มีอุปกรณ์ใดๆ เช่น อุปกรณ์ดำน้ำลึก ก็ลงไปได้แค่เพียง 121 เมตรเท่านั้นและก็ถือว่ามีความอันตราย ขณะที่หากมีอุปกรณ์เฉพาะทางเพื่อต่อสู้กับแรงกดดันที่รุนแรงของความลึกก็สามารถเข้าถึงความลึกได้ที่ประมาณ 518 เมตรเท่านั้น
หรือแม้กระทั่งวาฬที่อาศัยอยู่ในมหาสุทรลึกก็ยังอยู่ในน้ำลึกแค่ 3,000 เมตรเท่านั้น ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากแรงดันในน้ำลึก
หากตัวเรือไม่เสียหาย และเรือลอยค้างอยู่โดยไม่มีพลังงาน ผู้โดยสารทั้ง 5 คนจะอยู่ในความมืดสนิทในอุณหภูมิประมาณ 3 องศาเซลเซียส
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเรือจะโผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำและลอยอยู่บนกระแสน้ำในมหาสมุทร แต่เรือได้รับการออกแบบให้เปิดได้จากภายนอกเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าหน่วยค้นหายังคงมีเวลาจำกัด
นอกจากนี้ OceanGate ยังเผชิญกับคำถามว่าเหตุใดจึงใช้เวลานานมากในการแจ้งเจ้าหน้าที่ถึงการหายไป โดยเพียงส่งสัญญาณเตือนไปยังหน่วยยามฝั่ง 8 ชั่วโมงหลังจากขาดการติดต่อ
