‘ลีกาชิง’ มหาเศรษฐีฮ่องกงขายหุ้นคลองปานามา 90% ให้บริษัทอเมริกัน

5 มี.ค. 2568 - 07:34

  • ทรัมป์อ้างว่าการเป็นเจ้าของท่าเรือปานามา 2 แห่งของ Hutchison ทำให้จีนมีสิทธิ์ควบคุมน่านน้ำยุทธศาสตร์นี้

  • ในแถลงการณ์ร่วมกับผู้ซื้อ Hutchison ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวเกิดจากแรงจูงใจทางธุรกิจ ไม่ใช่การเมือง

  • ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การตัดสินใจขายท่าเรือปานามาของบริษัท CH Hutchison ช่วยให้ปานามามีหนทางหลีกเลี่ยงจากความขัดแย้งกับรัฐบาลทรัมป์   

hong-kong-firm-offloads-panama-ports-after-trump-pressure-SPACEBAR-Hero.jpg

ภายใต้แรงกดดันจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ บริษัท Hutchison จากฮ่องกงเผยว่า บริษัทตกลงจะขายท่าเรือคลองปานามาให้กับกลุ่มบริษัทที่นำโดยสหรัฐฯ  

CK Hutchison Holdings เผยว่า จะขายหุ้นของบริษัท Panama Port Cpmpany (PPC) 90% และขายท่าเรืออื่นๆ ที่ไม่ใช่ของจีนให้กลุ่มธุรกิจที่นำโดย BlackRock บริษัทด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่  

แถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า ผู้ขายจะได้รับเงินสด 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ 

บริษัท PPC ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Hutchison ดำเนินการท่าเรือที่เมืองบัลโบอาและเมืองกริสโตบัลในมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติกปลายสุดของทางน้ำเชื่อมมหาสมุทรมานานหลายทศวรรษ 

แต่นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือน ม.ค. ทรัมป์ก็บ่นว่าจีนควบคุมคลองปานามาซึ่งเป็นทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญที่ครั้งหนึ่งสหรัฐฯ เคยบริหาร 

ทรัมป์ไม่ตัดความเป็นไปได้ที่จะใช้กำลังทหารบุกคลองปานามาเพื่อกลับเข้าไปควบคุมคลองอีกครั้ง โดยอ้างว่าการเป็นเจ้าของท่าเรือ 2 แห่งของ Hutchison ทำให้จีนมีสิทธิ์ควบคุมน่านน้ำยุทธศาสตร์ ส่งผลให้เกิดการประท้วงในปานามาและยังมีการร้องเรียนไปยังองค์การสหประชาชาติด้วย

hong-kong-firm-offloads-panama-ports-after-trump-pressure-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: ลีกาชิง Photo by Anthony WALLACE / AFP

ในแถลงการณ์ร่วมกับผู้ซื้อ Hutchison ระบุว่า ข้อตกลงดังกล่าวเกิดจากแรงจูงใจทางธุรกิจ ไม่ใช่การเมือง

“ผมขอย้ำว่าการทำธุรกรรมมีลักษณะเป็นเชิงพาณิชย์อย่างแท้จริง และไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับข่าวการเมืองเมื่อเร็วๆ นี้ที่เกี่ยวข้องกับท่าเรือปานามา”

แฟรงค์ ซิกท์ กรรมการผู้จัดการร่วม

แลร์รี ฟิงค์ ซีอีโอ BlsckRock เผยว่า ธุรกรรมนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มธุรกิจของเขาในการส่งมอบการลงทุนที่แตกต่างให้กับลูกค้า “ท่าเรือระดับเวิลด์คลาสนี้เอื้อต่อการเติบโตทั่วโลก” 

ด้านรัฐบาลปานามาเผยว่า การซื้อขายนี้เป็น “ธุรกรรมระดับโลกระหว่างบริษัทเอกชนที่ขับเคลื่อนด้วยผลประโยชน์ร่วมกัน” และว่า การตรวจสอบบริษัท PPC โดยสำนักงานผู้ชำระบัญชีปานามาที่ดูแลทรัพย์สินสาธารณะนี้จะดำเนินต่อไปแม่จะมีการซื้อขายก็ตาม 

43 ท่าเรือ 

การซื้อขายนี้จะส่งผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้กับท่าเรือ 43 ท่าซึ่งประกอบด้วยที่จอดเรือ 199 แห่งใน 23 ประเทศ 

CK Hutchison Holdings คือหนึ่งในเครือธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของฮ่องกง ดำเนินธุรกิจทั้งในด้านการเงิน ค้าปลีก โครงสร้างพื้นฐาน เทเลคอม และลอจิสติกส์ โดยมี ลีกาชิง มหาเศรษฐีชาวฮ่องกงเป็นเจ้าของ 

เมื่อเดือน ก.พ. มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนปานามาซึ่งเป็นการเดินทางไปต่างประเทศครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของคลองปานามาต่อรัฐบาลทรัมป์ 

ประธานาธิบดี โฮเซ ราอูล มูลิโน ของปานามารับปากมูลิโนว่าปานามาจะถอนตัวจากโครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีน รูบิโอยังกดดันให้เรือสหรัฐฯ ผ่านคลองปานามาโดยไม่ต้องจ่ายค่าผ่านทางแต่ถูกปฏิเสธ 

คลองปานามาบริหารโดย Panama Canal Authority (ACP) ซึ่งเป็นนิติบุคคลอิสระที่บอร์ดบริหารได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีปานามาและรัฐสภามาตั้งแต่ปี 1999  

คลองปานามาความยาว 80 กิโลเมตร ถูกสร้างโดยสหรัฐฯ เมื่อกว่า 100 ปีก่อนเพื่อเชื่อมระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและแอตแลนติก ก่อนจะส่งมอบให้ปานามาในภายหลัง คลองแห่งนี้มีสัดส่วน 5% ของปริมาณการค้าการขนส่งทางทะเลของโลก และปริมาณการขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ของสหรัฐฯ ในแต่ละปีใช้คลองปานามาประมาณ 40% 

ขณะที่ปักกิ่งปฏิเสธมาตลอดว่าไม่ได้แทรกแซงคลองปานามา  

ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า การตัดสินใจขายท่าเรือปานามาของบริษัท CH Hutchison ช่วยให้ปานามามีหนทางหลีกเลี่ยงจากความขัดแย้งกับรัฐบาลทรัมป์  

เบนจามิน เกแดน ผู้อำนวยการโครงการละตินอเมริกาของศูนย์วิลสันในสหรัฐฯ เผยกับสำนักข่าว AFP ว่า การขายท่าเรือปานามา “เป็นทางออกของวิกฤตทางการทูตโดยที่ไม่ต้องยกเลิกสัมปทานของ Hutchison ซึ่งอาจทำลายบรรยากาศการลงทุนในปานามา” 

ซาบรินา บาคาล นักรัฐศาสตร์ชาวปานามาเผยกับ AFP ว่า “ในยุคทรัมป์ ธุรกิจคือภูมิศาสตร์การเมืองใหม่” ส่วน นาตาชา ลินด์สเตดต์ นักรัฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเอสเซ็กส์บอกว่าสถานการณ์ “แปลก” และว่า “อาจเป็นเพราะบริษัทกำลังจะถูกตรวจสอบจากรัฐบาลปานามาและมองเห็นว่าการขายอาจเป็นประโยชน์มากกว่าที่จะต้องรับมือกับความยุ่งยาก” 

Photo by MARTIN BERNETTI / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์