เมื่อพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์...นครรัฐวาติกันคัดเลือกองค์ใหม่ยังไง?

22 เม.ย. 2568 - 00:00

  • เมื่อพระสันตะปาปาองค์ก่อนสิ้นพระชนม์...ตามธรรมเนียมแล้ว นครรัฐวาติกันคัดเลือกองค์ใหม่ยังไง?

  • แล้วกระบวนการคัดเลือกพระสันตะปาปาองค์ต่อไปต้องผ่านขั้นตอนอะไรบ้าง...

how-a-conclave-elects-a-new-pope-SPACEBAR-Hero.jpg

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส (Pope Francis) สิ้นพระชนม์แล้วด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา ขณะกำลังฟื้นตัวจากอาการปอดอักเสบทั้งสองข้างก่อนหน้านี้ 

การสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีต่างๆ ในคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิก ทั้งการจัดเตรียมพิธีมิสซาบังสุกุล การฝังพระศพของพระองค์ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ตลอดจนการเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป 

SPACEBAR พาไปดูกระบวนการในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ว่าต้องผ่านขั้นตอนไหนบ้าง... 

การคัดเลือกพระสันตะปาปา

how-a-conclave-elects-a-new-pope-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: (Photo by VINCENZO PINTO / AFP)

กระบวนการในการเลือกพระสันตะปาปาองค์ต่อไปหลังจากที่พระสันตะปาปาองค์ก่อนสิ้นพระชนม์ หรือลาออกนั้นเรียกว่า ‘การประชุมเลือกสันตะปาปา’ (Conclave) ซึ่งถูกใช้มาเป็นเวลาหลายศตวรรษแล้ว โดยการประชุมและการลงคะแนนเสียงมักจะเป็นความลับ และเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากพระสันตะปาปาองค์ก่อนสิ้นพระชนม์  

- ใครที่มีสิทธิ์ได้รับเลือก? -

ตามธรรมเนียมแล้ว ชายโรมันคาธอลิกทุกคนสามารถถูกรับเลือกเป็นพระสันตะปาปาได้โดยที่ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอายุในการดำรงตำแหน่ง แต่ตั้งแต่ปี 1379 เป็นต้นมา พระสันตะปาปาทุกพระองค์จะได้รับเลือกจากคณะพระคาร์ดินัล (สมณศักดิ์ชั้นสูงสุดรองจากพระสันตะปาปา) ซึ่งทำหน้าที่ลงคะแนนเสียงในการประชุมลับ 

พระคาร์ดินัลจำนวนมากมักจะเป็นบิชอป (มุขนายก) และอาร์ชบิชอป (อัครมุขนายก) ที่ได้รับการแต่งตั้งโดยพระสันตะปาปาเพื่อช่วยเหลือในประเด็นทางศาสนา บางองค์จะทำงานที่วาติกัน แต่ส่วนใหญ่กระจายอยู่ทั่วโลกและบริหารสังฆมณฑล 

เมื่อถึงเวลาลงคะแนนเลือกพระสันตะปาปาองค์ใหม่ พระคาร์ดินัลทุกองค์ที่อายุต่ำกว่า 80 ปีจะเดินทางไปกรุงโรมเพื่อเข้าร่วมพิธี  

- การประชุมลับ... -

how-a-conclave-elects-a-new-pope-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: (Photo by OSSERVATORE ROMANO / AFP)

เมื่อพระคาร์ดินัลทั้งหมดมาถึงพร้อมกันแล้ว การประชุมเลือกสันตะปาปาก็จะเริ่มต้นด้วยพิธีมิสซาพิเศษในตอนเช้าที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ส่วนในช่วงบ่าย พระคาร์ดินัลจะไปรวมที่โบสถ์น้อยซิสตินเพื่อเริ่มกระบวนการลงคะแนนเสียง โดยเริ่มจากการสวดภาวนาวิงวอนขอให้บรรดานักบุญและพระวิญญาณบริสุทธิ์ช่วยเลือกพระสันตะปาปา   

กระบวนการนี้ถือเป็นความลับอย่างยิ่ง โบสถ์แห่งนี้จะถูกตรวจค้นอุปกรณ์ดักฟัง รวมถึงกล้องก่อนและหลังการประชุม การลงคะแนนเสียงดังกล่าวจะต้องปิดประตูห้อง นอกจากนี้ พระคาร์ดินัลก็ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุย หรือเปิดเผยข้อมูล หากทำเช่นนั้น อาจถูกขับออกจากนิกายได้ 

- การคัดเลือกใช้เวลานานเท่าใด -

how-a-conclave-elects-a-new-pope-SPACEBAR-Photo03.jpg
Photo: (Photo by OSSERVATORE ROMANO / AFP)

ในวันแรกจะมีการลงคะแนนเสียงเพียงครั้งเดียว และหลังจากนั้นสามารถลงคะแนนเสียงได้สูงสุด 4 รอบต่อวัน พระคาร์ดินัลผู้ได้รับเลือกจำเป็นต้องได้รับคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 จึงจะชนะ และกลายเป็น ‘พระสันตะปาปาองค์ใหม่’  

หากไม่มีใครได้รับเลือกหลังจากผ่านไป 3 วัน การลงคะแนนเสียงจะหยุดชะงักเป็นเวลาสูงสุด 1 วัน และจะกลับมาดำเนินการอีกครั้ง และหากไม่มีการเลือกพระสันตะปาปาอีกหลังจากมีการลงคะแนนเสียงอีก 7 ครั้ง การลงคะแนนเสียงจะหยุดลงอีก และเป็นเช่นนี้ต่อไปจนกว่าการลงคะแนนเสียงจะผ่านไปประมาณ 12 วัน  

หากไม่มีใครได้รับเลือกหลังจากผ่านไป 33 รอบ ก็จะต้องเข้าสู่กระบวนการรอบสอง โดยที่คณะพระคาร์ดินัลจะเลือกผู้สมัคร 2 อันดับแรกภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่ที่สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ทรงนำมาใช้ ซึ่งแตกต่างจากรอบก่อนๆ โดยที่ผู้สมัคร 2 คนนี้ไม่สามารถลงคะแนนเสียงได้ 

อย่างไรก็ดี การประชุมเลือกพระสันตะปาปาเคยใช้เวลาหลายเดือน โดยการประชุมที่ยาวนานที่สุดเท่าที่มีการบันทึกไว้ก็คือ ‘การประชุมเพื่อเลือกเกรกอรีที่ 10’  ในศตวรรษที่ 13 ซึ่งกินเวลาตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปี 1268 จนถึงเดือนกันยายนปี 1271 เนื่องจากการทะเลาะวิวาทภายในและการแทรกแซงจากภายนอก 

- กระบวนการโหวต -

(1) หลังจากพระคาร์ดินัลเข้ามารวมอยู่ในห้องประชุมภายในโบสถ์น้อยซิสตินแล้ว จะมีการแจกบัตรลงคะแนนเสียงให้กับพระคาร์ดินัลแต่ละองค์ เป็นบัตรรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ครึ่งบนจะมีคำว่า ‘Eligo in Summun Pontificem’ (ภาษาละติน แปลว่า ‘ข้าพเจ้าเลือกเป็นพระสันตะปาปาสูงสุด’) พระคาร์ดินัลจะเขียนชื่อผู้ได้รับเลือกไว้ด้านล่างคำนี้ แต่พระคาร์ดินัลไม่สามารถลงคะแนนเสียงให้ตัวเองได้

(2) เมื่อเขียนชื่อผู้ที่ต้องการเลือกแล้วจะต้องพับกระดาษ 2 ทบ จากนั้น พระคาร์ดินัลแต่ละองค์ตามลำดับอาวุโสจะเดินไปที่แท่นบูชาเพื่อหย่อนบัตรลงคะแนนในถ้วยโถเงินและทองทรงวงรีที่ใช้ในพิธีสวดของคริสเตียน  

(3) ขั้นตอนต่อไป ผู้ตรวจบัตรลงคะแนน 3 คนจะเปิดบัตรลงคะแนนทีละใบ โดยจะจดชื่อและอ่านคะแนนออกเสียงให้พระคาร์ดินัลฟัง  

(4) ในขณะที่ผู้ตรวจอ่านชื่อแต่ละชื่อ เขาจะแทงบัตรลงคะแนนแต่ละใบด้วยเข็มผ่านคำว่า ‘eligo’ (ภาษาละติน แปลว่า ‘ฉันเลือก’) จากนั้นจะมัดบัตรลงคะแนนด้วยด้ายและผูกปม แล้วนำไปเผาในเตาโบสถ์พร้อมกับสารเคมีก่อควัน พร้อมปล่อยควันให้ผู้คนที่เฝ้าดูอยู่ภายนอกมองเห็นได้ ซึ่งโดยปกติควันจะเปลี่ยนจาก ‘สีดำเป็นสีขาว’ เมื่อได้พระสันตะปาปาองค์ใหม่ 

แต่หากยังไม่สามารถเลือกตั้งพระสันตะปาปาได้ บัตรลงคะแนนจะถูกเผาพร้อมกับสารเคมีที่ทำให้ควันกลายเป็นสีดำ 

- การปรากฏตัวของ ‘พระสันตะปาปาองค์ใหม่’ -

how-a-conclave-elects-a-new-pope-SPACEBAR-Photo04.jpg
Photo: (Photo by TIZIANA FABI and TIZIANA FABI / AFP)

เมื่อผู้สมัครองค์ใดองค์หนึ่งได้รับคะแนนเสียงข้างมากตามที่กำหนดแล้ว ก็จะถูกถามว่า “ท่านยอมรับการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญเป็นพระสันตะปาปาหรือไม่” เมื่อทรงยินยอมแล้ว จะถามพระสันตะปาปาองค์ใหม่ต่อว่า “ท่านต้องการให้เราเรียกชื่อท่านว่าอะไร” หลังจากที่พระองค์เลือกชื่อแล้ว พระคาร์ดินัลองค์อื่นๆ ก็จะเข้าเฝ้าสมเด็จพระสันตะปาปาองค์ใหม่เพื่อแสดงความเคารพ  

นอกจากนี้ พระสันตะปาปาองค์ใหม่ยังต้องสวมเสื้อคลุมใหม่ด้วย ซึ่งช่างตัดเสื้อของพระสันตะปาปาจะเตรียมเสื้อผ้าไว้สำหรับสวมให้พระสันตะปาปาทุกขนาด ไม่ว่าจะเล็ก กลาง หรือใหญ่ แต่ก็อาจต้องปรับเปลี่ยนในนาทีสุดท้าย 

ตามธรรมเนียมแล้ว ประมาณ 30-60 นาทีหลังจากที่ควันขาวปรากฏแก่สายตาชาวโลก พระสันตะปาปาองค์ใหม่ก็จะปรากฏตัวบนระเบียงที่มองเห็นจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ จากนั้นพระคาร์ดินัลจะประกาศคำว่า ‘Habemus Papam’ (ภาษาละติน แปลว่า ‘เรามีพระสันตปาปาแล้ว’) พร้อมกับเผยชื่อของพระสันตะปาปาองค์ใหม่ 

จากนั้นพระสันตะปาปาองค์ใหม่จะกล่าวสุนทรพจน์สั้นๆ และสวดภาวนาให้พรตามประเพณี โดยพิธีราชาภิเษกอย่างเป็นทางการของพระองค์จะเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากได้รับเลือก

how-elects-a-new-pope.jpg
Photo: อินโฟกราฟฟิกโดย : สังกาส นารักษ์

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์