อิหร่านโวยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ‘Fattah-1’ ที่สกัด-ตรวจจับยากใส่อิสราเอล

18 มิ.ย. 2568 - 08:51

  • อิหร่านประกาศในช่วงเช้าวันพุธ (18 มิ.ย.) ว่าได้ยิง ‘Fattah-1’ ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงโจมตีอิสราเอลในการตอบโต้ระลอกล่าสุดของความขัดแย้งที่ดำเนินติดต่อกันเป็นวันที่ 6

  • ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงนี้มีความเร็วมากกว่า 5 เท่าของความเร็วเสียง และสามารถเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศได้ ทำให้ยากต่อการตรวจจับและสกัดกั้น

  • นอกจากขีปนาวุธแล้ว ยังมีรายงานว่า อิหร่านยิงฝูงโดรนโจมตีเข้าสู่พื้นที่อิสราเอลด้วย โดยกองทัพอิสราเอลรายงานว่าสามารถสกัดโดรนได้ 2 ลำบริเวณทะเลเดดซี

อิหร่านโวยิงขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก ‘Fattah-1’ ที่สกัด-ตรวจจับยากใส่อิสราเอล

อิหร่านประกาศในช่วงเช้าวันพุธ (18 มิ.ย.) ว่าได้ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงโจมตีอิสราเอลในการตอบโต้ระลอกล่าสุดของความขัดแย้งที่ดำเนินติดต่อกันเป็นวันที่ 6 หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องให้อิหร่าน “ยอมจำนนแบบไม่มีเงื่อนไข” 

ประธานาธิบดีทรัมป์ ยืนยันว่าสหรัฐฯ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล แต่ก็เตือนอิหร่านว่า “ความอดทนของสหรัฐฯ กำลังจะหมดลงแล้ว” ท่ามกลางความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้น 

เครื่องบินรบของอิสราเอลโจมตีกรุงเตหะรานก่อนรุ่งสางของวันพุธ (18 มิ.ย.) หลังจากกองทัพอิสราเอลประกาศเตือนพลเรือนให้อพยพออกจากเขตหนึ่งเพื่อความปลอดภัย และต่อมากองทัพอิสราเอลกล่าวว่าได้โจมตีโรงงานผลิตอาวุธและโรงงานที่ใช้ผลิตเครื่องหมุนเหวี่ยงในกรุงเตหะราน 

ขณะเดียวกัน อิหร่านก็ประกาศเตือนประชาชนในกรุงเทลอาวีฟให้เตรียมพร้อมรับมือการโจมตี โดยกองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IRGC) อ้างว่าขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง ‘ฟัตตาห์-1’ (Fattah-1) ของพวกเขาเขย่าที่หลบภัยอย่างต่อเนื่องในเมืองศูนย์กลางทางการค้าแห่งนี้ 

“ปฏิบัติการ ‘Honest Promise 3’ ระลอกที่ 11 โดยใช้ขีปนาวุธ Fattah-1 ได้ดำเนินการแล้ว ขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงนี้มีความเร็วมากกว่า 5 เท่าของความเร็วเสียง และสามารถเปลี่ยนทิศทางกลางอากาศได้ ทำให้ยากต่อการตรวจจับและสกัดกั้น” 

IRGC ระบุ

นอกจากขีปนาวุธแล้ว IRGC ยังยิงฝูงโดรนโจมตีเข้าสู่พื้นที่อิสราเอลด้วย โดยกองทัพอิสราเอลรายงานว่าสามารถสกัดโดรนได้ 2 ลำบริเวณทะเลเดดซี 

ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025 มีจุดเริ่มต้นจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่มีเป้าหมายเพื่อสกัดกั้นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งอิหร่านปฏิเสธว่าไม่มีความตั้งใจจะผลิตอาวุธนิวเคลียร์ 

อิสราเอลได้โจมตีเป้าหมายสำคัญหลายแห่งในอิหร่าน รวมถึงโรงงานนิวเคลียร์ในเมืองอิสฟาฮานและฟอร์โดว์ โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่าได้โจมตีสถานที่เก็บและปล่อยขีปนาวุธ รวมถึงระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่านหลายสิบแห่ง เพื่อให้สามารถเข้าถึงกรุงเตหะรานและเป้าหมายยุทธศาสตร์อื่นๆ ได้ 

ในขณะเดียวกัน อิหร่านก็ตอบโต้ด้วยการยิงขีปนาวุธและโดรนโจมตีเป้าหมายในอิสราเอล รวมถึงพื้นที่พลเรือน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากในทั้งสองฝ่าย 

สหประชาชาติและหน่วยงานพลังงานนิวเคลียร์ระหว่างประเทศ (IAEA) รายงานว่าการโจมตีของอิสราเอลส่งผลกระทบโดยตรงต่อโครงสร้างใต้ดินของโรงงานนิวเคลียร์ที่เมืองนาตันซ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งผลิตยูเรเนียมเสริมสมรรถนะของอิหร่าน 

ความขัดแย้งนี้ทำให้การเจรจานิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ และนานาชาติสะดุดลง โดยอิหร่านประกาศว่าจะ ‘ไม่เจรจา’ ในระหว่างที่ถูกโจมตี ขณะที่ข้อมูลจากสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสตอกโฮล์ม (SIPRI) ระบุว่า “อิสราเอลมีหัวรบนิวเคลียร์ประมาณ 90 ลูก...” 

(Photo by JACK GUEZ / AFP) 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์