ลูกค้าที่ทานอาหารในร้านอาหารอิตาเลียนพากันตกใจหลังจากบริกรเรียกเก็บเงิน 2 ยูโร (เกือบ 80 บาท) สำหรับจานเปล่า เพื่อให้ลูกสาวของเขาได้ลองชิมพาสต้า และกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันภายในประเทศถึงกรณีราคาแอบแฝง
ไอดา เจอร์มาโน เจ้าของร้าน Osteria del Cavolo บอกกับ The Times ว่า ค่าใช้จ่ายนั้นถูกต้องเพราะจานที่ต้องทำความสะอาดมากขึ้นหมายถึงงานที่ต้องทำมากขึ้น เธอชี้แจงว่าค่าใช้จ่ายในการจัดหาและล้างจานพิเศษเพื่อที่แม่จะได้ให้ลูกสาวชิมพาสต้านั้นทำให้เธอ 'ต้องทำงานมากขึ้น'
นอกจากการขอจานเปล่านี้จะมีราคาที่ต้องจ่ายแล้ว ยังมีเรื่องของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ขอช้อนชาเพิ่มเพื่อแบ่งกันกินของหวานถูกเรียกเก็บเงิน 1.50 ยูโร (ราว 60 บาท)
บริเวณทะเลสาบโคโมที่มีบาร์สุดหรู ก็เพิ่งสร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตหลังจากที่ล่าสุดไปเรียกเก็บเงินจากลูกค้าเพิ่ม 2 ยูโร เพราะลูกค้าขอให้ตัดแซนด์วิชของพวกเขาออกเป็นสองส่วน โดยลูกค้าแชร์ภาพใบเสร็จเรียกเก็บเงินผ่านสื่อออนไลน์พร้อมความงุนงงว่า คิดเงินทำไม? ซึ่งในรายการเรียกเก็บเงินเขียนว่า ‘divided in half’ แปลว่า การแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้จากยอดรวม 7.50 ยูโร (ราว 290 บาท) เพิ่มขึ้นเป็น 9.50 ยูโร (ราว 360 บาท) ทันทีกับแซนด์วิชดังกล่าว
เจ้าของบาร์ดังกล่าว เผยว่าคำขอเหล่านี้มีค่าใช้จ่าย ถ้าลูกค้าขอให้ทำขนมปังปิ้งสองส่วน พวกเขาก็ต้องใช้จานรอง 2 ใบ ผ้าเช็ดปาก 2 ผืน และใช้มือ 2 ข้างถือมันเพื่อนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะ หลังจากที่มีการชี้แจงดังกล่าวแจ้งออกไป รถทัวร์ก็มาจอดจนทำให้เว็ปไซต์ Tripadvisor ปิดคอมเมนท์ของร้านดังกล่าวไปเลยทีเดียว
การท่องเที่ยวกลับมาสู่ภาวะปกติหลังจากสิ้นสุดภาวะโรคระบาด นักท่องเที่ยวจึงมีความรู้สึกเหมือนคัลเจอร์ช็อคเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด ซึ่งเกิดขึ้นในบาร์และร้านอาหารในยุโรปหลายแห่ง
ลูกค้าหลายรายประณามร้านกาแฟใกล้มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรมว่าเป็น ‘กับดักนักท่องเที่ยว’ โดยมีลูกค้ารายหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาถูกเรียกเก็บเงิน 53 ยูโร (ราว 2,000 บาท) สำหรับขนมปังปิ้งสามเหลี่ยม 2 แผ่น และขนมปังเซียบัตต้าแฮมและชีสมอสซาเรลล่า
ในเดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวรายหนึ่งแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองลง Reddit (แพลตฟอร์มคล้ายเฟซบุ๊ก) บอกว่าเขาตกใจกับใบเสร็จมูลค่า 360.80 ยูโร (ราว 14,000 บาท) สำหรับมื้อกลางวันเบาๆ บนเกาะมิโคนอสของกรีซที่ร้านอาหารริมชายหาด
ไอดา เจอร์มาโน เจ้าของร้าน Osteria del Cavolo บอกกับ The Times ว่า ค่าใช้จ่ายนั้นถูกต้องเพราะจานที่ต้องทำความสะอาดมากขึ้นหมายถึงงานที่ต้องทำมากขึ้น เธอชี้แจงว่าค่าใช้จ่ายในการจัดหาและล้างจานพิเศษเพื่อที่แม่จะได้ให้ลูกสาวชิมพาสต้านั้นทำให้เธอ 'ต้องทำงานมากขึ้น'
นอกจากการขอจานเปล่านี้จะมีราคาที่ต้องจ่ายแล้ว ยังมีเรื่องของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่ขอช้อนชาเพิ่มเพื่อแบ่งกันกินของหวานถูกเรียกเก็บเงิน 1.50 ยูโร (ราว 60 บาท)
บริเวณทะเลสาบโคโมที่มีบาร์สุดหรู ก็เพิ่งสร้างความไม่พอใจให้ชาวเน็ตหลังจากที่ล่าสุดไปเรียกเก็บเงินจากลูกค้าเพิ่ม 2 ยูโร เพราะลูกค้าขอให้ตัดแซนด์วิชของพวกเขาออกเป็นสองส่วน โดยลูกค้าแชร์ภาพใบเสร็จเรียกเก็บเงินผ่านสื่อออนไลน์พร้อมความงุนงงว่า คิดเงินทำไม? ซึ่งในรายการเรียกเก็บเงินเขียนว่า ‘divided in half’ แปลว่า การแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ทำให้จากยอดรวม 7.50 ยูโร (ราว 290 บาท) เพิ่มขึ้นเป็น 9.50 ยูโร (ราว 360 บาท) ทันทีกับแซนด์วิชดังกล่าว
เจ้าของบาร์ดังกล่าว เผยว่าคำขอเหล่านี้มีค่าใช้จ่าย ถ้าลูกค้าขอให้ทำขนมปังปิ้งสองส่วน พวกเขาก็ต้องใช้จานรอง 2 ใบ ผ้าเช็ดปาก 2 ผืน และใช้มือ 2 ข้างถือมันเพื่อนำไปเสิร์ฟที่โต๊ะ หลังจากที่มีการชี้แจงดังกล่าวแจ้งออกไป รถทัวร์ก็มาจอดจนทำให้เว็ปไซต์ Tripadvisor ปิดคอมเมนท์ของร้านดังกล่าวไปเลยทีเดียว
การท่องเที่ยวกลับมาสู่ภาวะปกติหลังจากสิ้นสุดภาวะโรคระบาด นักท่องเที่ยวจึงมีความรู้สึกเหมือนคัลเจอร์ช็อคเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเงินเป็นทองไปหมด ซึ่งเกิดขึ้นในบาร์และร้านอาหารในยุโรปหลายแห่ง
ลูกค้าหลายรายประณามร้านกาแฟใกล้มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ในกรุงโรมว่าเป็น ‘กับดักนักท่องเที่ยว’ โดยมีลูกค้ารายหนึ่งกล่าวว่า พวกเขาถูกเรียกเก็บเงิน 53 ยูโร (ราว 2,000 บาท) สำหรับขนมปังปิ้งสามเหลี่ยม 2 แผ่น และขนมปังเซียบัตต้าแฮมและชีสมอสซาเรลล่า
ในเดือนมิถุนายน นักท่องเที่ยวรายหนึ่งแบ่งปันประสบการณ์ของตัวเองลง Reddit (แพลตฟอร์มคล้ายเฟซบุ๊ก) บอกว่าเขาตกใจกับใบเสร็จมูลค่า 360.80 ยูโร (ราว 14,000 บาท) สำหรับมื้อกลางวันเบาๆ บนเกาะมิโคนอสของกรีซที่ร้านอาหารริมชายหาด