นักการเมืองญี่ปุ่นบอยคอตต์การประชุมเพราะถูกเตือนให้ผูกเน็กไท

11 ก.ย. 2566 - 09:56

  • การแต่งกายแบบคูลบิซของสภาคังออนจิควรจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม

  • ทว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาประธานสภากลับบอกสมาชิกสภา 3 คนว่า “จะดีกว่าไหมถ้าคุณผูกเน็กไท”

japanese-politician-boycott-meetings-wear-ties-SPACEBAR-Thumbnail

เมื่อเครื่องแต่งกายกลายเป็นบ่อกำเนิด ‘ความไม่ไว้วางใจ’

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ‘ญี่ปุ่น’ นั้นขึ้นชื่อในเรื่องของความเป็นระเบียบวินัย และแน่นอนว่าเรื่องนี้ได้จุดประเด็น ‘ความไม่ไว้วางใจ’ ในสภาขึ้นมา เมื่อประธานสภาเทศบาล ‘กลับคำ’ หลังจากที่เคยอนุญาตให้นักการเมืองสามารถ ‘แต่งกายแบบสบายๆ ได้’ 

เรื่องมีอยู่ว่า…  

เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมาในสภาเมืองคังออนจิซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรประมาณ 55,000 คนในจังหวัดคางาวะ มีกำหนดจะจัดการประชุมครั้งแรกของเดือน แต่เมื่อใกล้ถึงเวลาเริ่มประชุมเวลา 10.00 น. กลับพบว่ามีสมาชิกเพียง 9 คนจากทั้งหมด 17 คนเท่านั้นที่อยู่ในห้องประชุม ซึ่งน้อยกว่าองค์ประชุมที่ต้องมี 10 คนตามกฎหมาย  

การคว่ำบาตรการประชุมในวันนั้นเกิดขึ้นภายหลังการลงมติไม่ไว้วางใจประธานสภาเมือง ‘คาซูโยะ ชิโนฮาระ’ ด้วยคะแนนเสียง 8 ต่อ 6 เมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา “เราไม่สามารถมอบความไว้วางใจให้สภาแก่ประธานอย่างชิโนฮาระได้” ทาคาโทชิ โอคุโบะ สมาชิกสภากล่าว  

แล้วอะไรทำให้เกิดความแตกแยกทางการเมือง? ยักยอกเงินรัฐบาล? โกงผลการเลือกตั้ง? คำตอบก็คือ ‘ไม่’ ทั้งหมดนี้เกิดจากการที่ชิโนฮาระเคยบอกสมาชิกสภาว่า ‘พวกเขาไม่จำเป็นต้องสวมเน็กไทในการประชุมตลอดช่วงฤดูร้อน ทว่าเธอกลับบอกสมาชิกสภา 3 คนว่า พวกเขาควรสวมเน็กไท (ในเวลานั้นพวกเขาไม่ผูกเน็กไท)’ 

ชิโนฮาระดำรงตำแหน่งประธานสภาหญิงตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 และเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา เธอได้บอกกับสภาว่า ‘พวกเขาจะเปลี่ยนมาแต่งกายแบบสบายๆ สำหรับฤดูร้อน โดยให้ยกเว้นข้อกำหนดปกติสำหรับผู้ชายที่ต้องสวมแจ็คเก็ตสูทและเน็กไท’ 

และสิ่งนี้กลายเป็นนโยบายที่ใช้กันทั่วไปมากขึ้นในรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อช่วงทศวรรษที่ผ่านมาในแคมเปญ ‘คูลบิซ’ (Cool Biz) ซึ่งไม่เพียงแต่จะสะดวกสบายมากขึ้นเพราะพนักงานไม่ต้องสวมชุดที่เป็นทางการในช่วงที่ร้อนที่สุดและชื้นที่สุดแล้ว แต่การแต่งกายแบบไม่ผูกเน็กไทยังส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย เนื่องจากช่วยให้อาคารต่างๆ ที่ติดเครื่องปรับอากาศใช้พลังงานน้อยลงด้วย 

การ ‘กลับคำพูด’ คือ ต้นเหตุ…? 

ทั้งนี้ การแต่งกายแบบคูลบิซของสภาคังออนจิควรจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม - ตุลาคม ทว่าเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งเป็นเดือนที่มีความชื้นมากที่สุดในฤดูร้อนของญี่ปุ่น ชิโนฮาระก็ได้บอกกับสมาชิกสภา 3 คนว่าจริงๆ แล้วพวกเขาควรสวมเน็กไท “จะดีกว่าไหมถ้าคุณผูกเน็กไท” โอคุโบะจำได้ว่าชิโนฮาระพูดกับเขาซึ่งเขาบอกว่ามันเหมือนกับ ‘การถูกบังคับให้ผูกเน็กไท’ 

โอคุโบะเผยว่า “เธอผิดสัญญา ซึ่งเป็นการกระทำที่ไม่อาจให้อภัยได้สำหรับประธานสภาเมือง…ประธานสภาถูกชักจูงโดยความเห็นของคนนอกสภาว่าอยากให้เราสวมเน็กไท…มติดังกล่าวยืนยันว่า ชิโนฮาระ ‘ละเมิดเสรีภาพส่วนบุคคลของสมาชิกสภา’ และไม่เหมาะที่จะเป็นประธาน”  

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้โอคุโบะไม่พอใจอย่างมากจนเขาลาออกจากตำแหน่งรองประธานสภา “มันเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากในการลงมติไม่ไว้วางใจ หากประธานไม่ลาออก ผมก็พร้อมที่จะคว่ำบาตรการประชุมสภา แม้ว่าผมจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงการตัดสินใจดังกล่าวก็ตาม” โอคุโบะกล่าว 

อย่างไรก็ตาม จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชิโนฮาระก็ออกมาโต้แย้งว่า ‘คำพูดของเธอต่อโอคุโบะและคนอื่นๆ ไม่ได้เป็นการบังคับ’ “ฉันเสนอแค่ว่า ในเมื่อนายกเทศมนตรีสวมเน็กไทและเกือบทุกคนที่ใส่ จะดีกว่าไหมที่สมาชิกสภาจะสวมเน็กไทด้วย?” นอกจากนี้ เธอยังบอกว่าการกระทำของสมาชิกคว่ำบาตรเป็น ‘กรณีที่ชัดเจนในการล่วงละเมิดอำนาจต่อต้านฉัน” 

ถึงกระนั้น แม้จะถูกคว่ำบาตรไปเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 กันยายน แต่ตามข้อบังคับของสภาระบุว่า การกระทำเช่นนี้จะทำให้สามารถจัดการประชุมในช่วงบ่ายได้แม้ว่าสมาชิกที่คว่ำบาตรเลือกที่จะไม่เข้าร่วมก็ตาม

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์