ลูกก่อเหตุ แต่พ่อแม่โดน ‘เอาผิด’ ด้วย!
สำนักข่าว BBC รายงานว่า คณะลูกขุนตัดสินว่าแม่ชาวมิชิแกนมีความผิดฐานฆ่าคนตาย ‘โดยไม่เจตนา’ ฐาน ‘ไม่สามารถหยุดยั้ง’ ลูกชายวัย 15 ปีของเธอจากการก่อเหตุกราดยิงในโรงเรียนเมื่อปี 2021 ได้
‘เจนนิเฟอร์ ครัมบลีย์’ วัย 45 ปี กลายเป็นพ่อแม่ชาวอเมริกันคนแรกที่ถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหา ‘ฆ่าคนตายโดยไม่เจตนา’ จากเหตุกราดยิงที่กระทำโดยลูกของพวกเขา
อัยการกล่าวหาว่า ครัมบลีย์ประมาทเลินเล่อในการอนุญาตให้ลูกชายมีปืน และเพิกเฉยต่อสัญญาณเตือน ขณะที่ เจมส์ สามีของเธอก็กำลังเผชิญหน้ากับการพิจารณาคดีแยกต่างหากในข้อหาเดียวกัน โดยเบื้องต้นเจมส์ปฏิเสธข้อกล่าวหา
ลูกชายของพวกเขา ซึ่งปัจจุบันอายุ 17 ปี กำลังรับโทษ ‘จำคุกตลอดชีวิต’ จากการสังหารเพื่อนร่วมชั้น 4 คนที่โรงเรียนมัธยมออกซ์ฟอร์ดในรัฐมิชิแกนเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2021 และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 7 รายจากเหตุกราดยิงเช่นกัน
ผู้พิพากษากล่าวกับคณะลูกขุนว่า “นี่อาจเป็น ‘สิ่งที่ยากที่สุด’ ที่คุณเคยทำ”
คำตัดสินของครัมบลีย์เกิดขึ้นที่ศาลโอ๊คแลนด์เคาน์ตีเมื่อวันอังคาร (6 ก.พ.) เธอถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดย ‘ไม่เจตนา’ 4 กระทง โดยมีโทษจำคุกสูงสุด 15 ปี ขณะที่ญาติบางคนของผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงก็แสดงความโล่งใจต่อคำตัดสินดังกล่าว
คำถามที่เป็นหัวใจสำคัญของการพิจารณาคดีก็คือ
‘ผู้เป็นแม่สามารถคาดการณ์และป้องกันอาชญากรรมร้ายแรงได้หรือไม่?’
ครัมบลีย์และสามีของเธอซื้อปืนเพียงไม่กี่วันก่อนเหตุกราดยิง พวกเขาถูกตำรวจตั้งข้อหาภายในไม่กี่วันหลังจากเกิดเหตุ ตำรวจค้นหาทั้งคู่และพบพวกเขาในอาคารอุตสาหกรรมในเมืองดีทรอยต์ ปัจจุบันพวกเขาถูกขังอยู่ในคุกมานานกว่า 2 ปีแล้ว และไม่สามารถประกันตัวได้

ในตอนแรก พวกเขาทั้งคู่ควรได้รับการพิจารณาคดีร่วมกัน แต่ในเดือนพฤศจิกายนได้มีการพิจารณาคดีแยกกันซึ่ง เจมส์ ครัมบลีย์ จะมีกำหนดขึ้นศาลในเดือนมีนาคมนี้
ในการพิจารณาคดีของครัมบลีย์ อัยการแสดงหลักฐานว่า อีธาน ครัมบีย์ ลูกชายของเธอต้องการความช่วยเหลือ ‘ด้านสุขภาพจิต มีอาการประสาทหลอน’ และเขาบอกว่าพ่อแม่ ‘ไม่ได้’ พาเข้ารับการรักษา แต่ครัมบลีย์บอกในชั้นศาลว่า ‘เธอไม่คิดว่าลูกชายของเธอมีปัญหาสุขภาพจิต’
เช้าของวันเกิดเหตุกราดยิง เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนอนุญาตให้อีธานเข้าชั้นเรียนโดยไม่ได้ตรวจดูกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขาซึ่งมีปืนอยู่ เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขาก็สังหาร ฮานา เซนต์ จูเลียนา วัย 14 ปี, ไมเออร์ วัย 16 ปี, เมดิซิน แบลด์วิน และ จัสตินซิลลิงล์ วัย 17 ปีทั้งคู่

ผู้เชี่ยวชาญบางคนบอกว่า คดีของอีธานอาจนำไปสู่การตั้งข้อหาเพิ่มเติมสำหรับผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุกราดยิง
สตีเฟน เจ มอร์ส ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายและจิตเวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียกล่าวว่า ‘เขาไม่เห็นด้วยกับคำตัดสิน โดยให้เหตุผลว่าเพราะ อีธาน ครัมบลีย์ สารภาพว่าเขาเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบต่อเหตุกราดยิงนี้’ “ผมเข้าใจว่าเธอไม่จำเป็นต้องเป็นแม่ที่ดีที่สุดในโลก แต่นี่ไม่ใช่อาชญากรรม”
มอร์สเชื่อว่าการตัดสินใจดังกล่าวอาจเป็นแบบอย่างที่ไม่ดี ส่งผลให้ศาลมองหา ‘แพะรับบาป’ ในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน ขณะที่คนอื่นๆ กล่าวว่ากรณีนี้เป็นเรื่อง ‘ผิดปกติ’ มาก “ผมคิดว่าข้อเท็จจริงของคดีนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวและสุดโต่งมาก” แฟรงก์ แวนเดอร์วอร์ต ศาสตราจารย์คลินิกด้านกฎหมายแห่งมหาวิทยาลัยมิชิแกน กล่าว
แต่อัยการพยายามที่ทำคดีนี้กล่าวหาว่า ครัมบลีย์ ‘เพิกเฉย’ ต่อคำร้องขอความช่วยเหลือของลูกชาย แม้จะแสดงความกังวลเกี่ยวกับเขาในข้อความส่วนตัวก็ตาม อัยการแสดงข้อความระหว่างครัมบลีย์กับชายคนหนึ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย โดยที่เธอพูดก่อนเข้าร่วมการประชุมที่โรงเรียนในวันที่เกิดเหตุกราดยิงว่าเธอกลัวลูกชายของเธอจะทำ ‘เรื่องโง่ๆ’
เมื่อครัมบลีย์ยืนหยัดต่อสู้ในการพิจารณาคดี เธอก็พยายามโยนความผิดให้กับสามีที่ซื้อปืนมาให้ลูกชาย เธอบอกกับคณะลูกขุนว่า สามีของเธอพาลูกชายไปที่ร้านขายปืน หนึ่งวันหลังจากวันขอบคุณพระเจ้าเพื่อซื้อปืนพกให้เขาเป็นของขวัญ ครัมบลีย์ยังบอกอีกว่า เธอรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องรับผิดชอบในการรักษาความปลอดภัยของปืน และปล่อยให้เจมส์จัดการ
ขณะที่ครอบครัวของเหยื่อได้แสดงความไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ของโรงเรียนไม่ต้องเผชิญกับผลทางกฎหมายเช่นเดียวกับเจมส์และครัมบลีย์ “เหตุใดศาลจึงไม่อนุญาตให้ผู้คนตัดสินใจเมื่อเกิดความล้มเหลวที่โรงเรียน รัฐบาลของเราอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ที่แตกต่างออกไปหรือไม่?” ไมเออร์บอกกับ BBC เมื่อวันอังคารหลังคำตัดสิน
การสืบสวนอิสระที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วกล่าวหาว่า “ระบบโรงเรียนล้มเหลวหลายครั้ง รวมถึงการยอมให้อีธานกลับเข้าชั้นเรียนโดยไม่ตรวจกระเป๋าเป้สะพายหลังของเขา” ขณะเดียวกันเขตการศึกษาก็ได้ให้คำมั่นที่จะทบทวนและปรับปรุงแนวปฏิบัติและนโยบายของตัวเองเพื่อตอบสนองต่อรายงานดังกล่าว
Photo by BILL PUGLIANO / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / Getty Images via AFP