หลังจากที่กลุ่มทหารนักรบรับจ้างวากเนอร์ (Wagner) ลุกฮือขึ้นมาก่อกบฏต่อต้านกองกำลัง ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ก็สาบานว่าจะลงโทษกลุ่มกบฏนี้อย่างถึงที่สุด แต่หลังจากนั้นไม่นานกลับมีข้อตกลงออกมาว่า กลุ่มวากนอร์จะถอนกำลัง เยฟเกนี พริโกซิน จะออกไปเบลารุส ส่วนปูตินไม่ลงโทษทั้งกลุ่มวากเนอร์และหัวหน้ากลุ่ม จนเหตุการณ์ความวุ่นวายจบลงอย่างรวดเร็วในเวลาราว 36 ชั่วโมง
ทว่าผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความเสี่ยงของการนองเลือดที่ดูเหมือนจะลดน้อยลงยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก และมีแนวโน้มที่ความจลาจลจะส่งผลตามมาด้วย นอกจากนี้ ปูตินอาจต้องรับมือกับผลพวงของการท้าทายอำนาจครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เขาขึ้นสู่อำนาจเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ขณะที่ชะตากรรมของ เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ซึ่งเป็นผู้นำในการกบฏครั้งนี้ ล่าสุดเขาถูกส่งตัวไปยังเบลารุสและกองทหารของเขาก็ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองด้วย โดยทั้งเครมลินและเจ้าหน้าที่เบลารุสเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าพริโกซินอยู่ที่ไหนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่เบลารุสบอกกับ CNN เมื่อวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า พวกเขาไม่มีรายละเอียดว่าสถานะของพริโกซินในเบลารุสจะเป็นอย่างไร และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาเดินทางถึงประเทศแล้วหรือไม่ แต่โฆษกของเครมลินยังกล่าวด้วยว่าคดีอาญาของพริโกซินที่ก่อเหตุจลาจลจะถูกยกเลิก โดยวากเนอร์จะเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
ทว่าผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าความเสี่ยงของการนองเลือดที่ดูเหมือนจะลดน้อยลงยังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก และมีแนวโน้มที่ความจลาจลจะส่งผลตามมาด้วย นอกจากนี้ ปูตินอาจต้องรับมือกับผลพวงของการท้าทายอำนาจครั้งร้ายแรงที่สุดนับตั้งแต่เขาขึ้นสู่อำนาจเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ขณะที่ชะตากรรมของ เยฟเกนี พริโกซิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ซึ่งเป็นผู้นำในการกบฏครั้งนี้ ล่าสุดเขาถูกส่งตัวไปยังเบลารุสและกองทหารของเขาก็ถูกกองทัพรัสเซียยึดครองด้วย โดยทั้งเครมลินและเจ้าหน้าที่เบลารุสเองก็ไม่สามารถบอกได้ว่าพริโกซินอยู่ที่ไหนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ล่าสุดเป็นอย่างไร?
ตามข้อตกลงของรัฐบาลเครมลินและเบลารุสระบุว่า พริโกซินได้ตกลงที่จะออกจากรัสเซียไปยังเบลารุส แต่ยังไม่ทราบที่อยู่ของเขาแน่ชัดเจ้าหน้าที่เบลารุสบอกกับ CNN เมื่อวันอาทิตย์ (25 มิ.ย.) ที่ผ่านมาว่า พวกเขาไม่มีรายละเอียดว่าสถานะของพริโกซินในเบลารุสจะเป็นอย่างไร และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเขาเดินทางถึงประเทศแล้วหรือไม่ แต่โฆษกของเครมลินยังกล่าวด้วยว่าคดีอาญาของพริโกซินที่ก่อเหตุจลาจลจะถูกยกเลิก โดยวากเนอร์จะเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
มันเป็นการ ‘การรัฐประหารแบบจัดฉาก’
วิกฤตการณ์ในรัสเซียปะทุขึ้นเมื่อวันศุกร์ (23 มิ.ย.) ที่ผ่านมา เมื่อพริโกซินกล่าวหาว่ากองทัพรัสเซียโจมตีกลุ่มวากเนอร์และสังหารคนของเขา ทำให้เขาตัดสินใจตอบโต้ด้วยกำลัง
ตามรายงานของสื่อทางการรัสเซียระบุว่า พริโกซินอ้างว่านี่ไม่ใช่การรัฐประหาร แต่เป็น ‘การเดินขบวนเพื่อความยุติธรรม’ แต่นั่นก็ทำให้กองกำลังของมอสโกสงบลงได้เพียงเล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงเรียกการกระทำของพริโกซินว่าเป็น ‘การรัฐประหารแบบจัดฉาก’
ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเองก็ปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีกองทหารของวากเนอร์ จากนั้นปูตินก็ออกมากล่าวปราศรัยที่ออกอากาศทั่วรัสเซียเมื่อเช้าวันเสาร์ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าปูตินโกรธจัด และเขาบอกว่าจะลงโทษผู้ที่ ‘ทรยศ’
“การทรยศของวากเนอร์เป็นการแทงข้างหลังประเทศและประชาชนของเรา” ปูตินกล่าว โดยเปรียบการกระทำของกลุ่มนี้กับการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 ที่ล้มล้างซาร์นิโคลัสที่ 2 ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 1
โฆษกเครมลินกล่าวว่า “เราไม่สามารถตอบได้ว่าพริโกซินจะเข้ารับตำแหน่งใดในเบลารุส ขณะที่พริโกซินเองก็ได้ให้รายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับข้อตกลงของเขาที่จะหยุดการรุกคืบต่อมอสโก”
“กลุ่มวากเนอร์เป็น ‘กลุ่มทหารรับจ้างต่อสู้อิสระ’ ที่มีเงื่อนไขแตกต่างจากกองทัพรัสเซีย ตัวอย่างเช่น นักรบของวากเนอร์ได้รับอาหารที่ดีกว่ากองทัพซึ่งหมายความว่าการผสมกลมกลืนทั้งหมดอาจเป็นเรื่องยาก”
“บางทีมันอาจจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย” เขากล่าวเสริม “คนเหล่านั้นภักดีต่อชายคนนั้น พรีโกซิน ไม่รักชาติ ไม่ปฏิบัติภารกิจ ผมคิดว่าเรามีคำถามอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบในตอนนี้” พล.ต.ไมค์ ลียงส์ อดีตทหารกองทัพสหรัฐฯ กล่าว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “อันตรายสำหรับหัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ยังไม่จบ”
“ปูตินไม่ให้อภัยคนทรยศ แม้ว่าพริโกซินจะไปเบลารุส แต่เขาก็ยังเป็นคนทรยศ และฉันคิดว่าปูตินจะไม่มีวันให้อภัยเรื่องนั้น” จิล โดเฮอร์ตี อดีตหัวหน้าสำนักงานมอสโกของ CNN และผู้เชี่ยวชาญเรื่องรัสเซียกล่าว
“เป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นพริโกซินถูกสังหารในเบลารุส มันเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ยากสำหรับมอสโก เพราะตราบใดที่พริโกซินได้รับการสนับสนุนบางประเภท เขาก็เป็นภัยคุกคามไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
ตามรายงานของสื่อทางการรัสเซียระบุว่า พริโกซินอ้างว่านี่ไม่ใช่การรัฐประหาร แต่เป็น ‘การเดินขบวนเพื่อความยุติธรรม’ แต่นั่นก็ทำให้กองกำลังของมอสโกสงบลงได้เพียงเล็กน้อย โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงด้านความมั่นคงเรียกการกระทำของพริโกซินว่าเป็น ‘การรัฐประหารแบบจัดฉาก’
ขณะที่กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเองก็ปฏิเสธว่าไม่ได้โจมตีกองทหารของวากเนอร์ จากนั้นปูตินก็ออกมากล่าวปราศรัยที่ออกอากาศทั่วรัสเซียเมื่อเช้าวันเสาร์ (24 มิ.ย.) ที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเห็นได้ชัดว่าปูตินโกรธจัด และเขาบอกว่าจะลงโทษผู้ที่ ‘ทรยศ’
“การทรยศของวากเนอร์เป็นการแทงข้างหลังประเทศและประชาชนของเรา” ปูตินกล่าว โดยเปรียบการกระทำของกลุ่มนี้กับการปฏิวัติรัสเซียในปี 1917 ที่ล้มล้างซาร์นิโคลัสที่ 2 ท่ามกลางสงครามโลกครั้งที่ 1
สถานการณ์ของ ‘พริโกซิน’ และ ‘วากเนอร์’ จะเป็นอย่างไรต่อไป?
หลายอย่างยังไม่ชัดเจน อย่างเช่นว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับบทบาทของพริโกซินในสงครามวากเนอร์และยูเครน รวมถึงนักสู้ทั้งหมดของเขาจะได้ลงนามกับกองทัพรัสเซียหรือไม่โฆษกเครมลินกล่าวว่า “เราไม่สามารถตอบได้ว่าพริโกซินจะเข้ารับตำแหน่งใดในเบลารุส ขณะที่พริโกซินเองก็ได้ให้รายละเอียดเล็กน้อยเกี่ยวกับข้อตกลงของเขาที่จะหยุดการรุกคืบต่อมอสโก”
“กลุ่มวากเนอร์เป็น ‘กลุ่มทหารรับจ้างต่อสู้อิสระ’ ที่มีเงื่อนไขแตกต่างจากกองทัพรัสเซีย ตัวอย่างเช่น นักรบของวากเนอร์ได้รับอาหารที่ดีกว่ากองทัพซึ่งหมายความว่าการผสมกลมกลืนทั้งหมดอาจเป็นเรื่องยาก”
“บางทีมันอาจจะแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย” เขากล่าวเสริม “คนเหล่านั้นภักดีต่อชายคนนั้น พรีโกซิน ไม่รักชาติ ไม่ปฏิบัติภารกิจ ผมคิดว่าเรามีคำถามอีกมากมายที่ยังไม่ได้รับคำตอบในตอนนี้” พล.ต.ไมค์ ลียงส์ อดีตทหารกองทัพสหรัฐฯ กล่าว
ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “อันตรายสำหรับหัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ยังไม่จบ”
“ปูตินไม่ให้อภัยคนทรยศ แม้ว่าพริโกซินจะไปเบลารุส แต่เขาก็ยังเป็นคนทรยศ และฉันคิดว่าปูตินจะไม่มีวันให้อภัยเรื่องนั้น” จิล โดเฮอร์ตี อดีตหัวหน้าสำนักงานมอสโกของ CNN และผู้เชี่ยวชาญเรื่องรัสเซียกล่าว
“เป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นพริโกซินถูกสังหารในเบลารุส มันเป็นภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ยากสำหรับมอสโก เพราะตราบใดที่พริโกซินได้รับการสนับสนุนบางประเภท เขาก็เป็นภัยคุกคามไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
อำนาจของปูตินกำลัง ‘อ่อนแอ’ ลง?

ปูตินกำลังเผชิญปัญหาเช่นกัน…
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกกับ CNN ว่า แม้ประธานาธิบดีรัสเซียจะรอดพ้นจากความขัดแย้ง แต่ตอนนี้เขาดูอ่อนแอ ไม่เพียงแต่ต่อโลกและศัตรูของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนและกองทัพของเขาเองด้วย นั่นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง หากมีผู้คลางแคลงหรือคู่แข่งในมอสโกที่มองเห็นโอกาสที่จะบ่อนทำลายตำแหน่งของปูติน
“ถ้าฉันเป็นปูติน ฉันคงกังวลเกี่ยวกับผู้คนบนท้องถนนในเมืองรอสตอฟที่ส่งเสียงเชียร์กลุ่มวากเนอร์ที่ก่อกบฏ”
“ทำไมคนรัสเซียถึงเชียร์คนที่พยายามทำรัฐประหาร…นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจจะสนับสนุนหรือชอบกลุ่มวากเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มันเป็นข่าวร้ายสำหรับปูตินจริงๆ” โดเฮอร์ตี กล่าวทิ้งท้าย
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนบอกกับ CNN ว่า แม้ประธานาธิบดีรัสเซียจะรอดพ้นจากความขัดแย้ง แต่ตอนนี้เขาดูอ่อนแอ ไม่เพียงแต่ต่อโลกและศัตรูของเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประชาชนและกองทัพของเขาเองด้วย นั่นอาจก่อให้เกิดความเสี่ยง หากมีผู้คลางแคลงหรือคู่แข่งในมอสโกที่มองเห็นโอกาสที่จะบ่อนทำลายตำแหน่งของปูติน
“ถ้าฉันเป็นปูติน ฉันคงกังวลเกี่ยวกับผู้คนบนท้องถนนในเมืองรอสตอฟที่ส่งเสียงเชียร์กลุ่มวากเนอร์ที่ก่อกบฏ”
“ทำไมคนรัสเซียถึงเชียร์คนที่พยายามทำรัฐประหาร…นั่นหมายความว่าพวกเขาอาจจะสนับสนุนหรือชอบกลุ่มวากเนอร์ ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มันเป็นข่าวร้ายสำหรับปูตินจริงๆ” โดเฮอร์ตี กล่าวทิ้งท้าย