หลังจากเกิดเหตุน่าสลดใจกราดยิงใจกลางรัสเซียในงานแสดงคอนเสิร์ตวงดนตรีร็อค ‘ปิคนิค’ (Picnic) ที่โครคัสซิตี้ฮอล์ (Crocus City Hall) กรุงมอสโกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (22 มี.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 140 รายและบาดเจ็บกว่า 145 ราย โดยมือปืน 11 คนถูกจับกุมแล้ว ซึ่งในจำนวนนี้รวมถึง ‘ผู้ก่อการร้าย’ 4 คนจากการโจมตี โดยกลุ่มก่อการร้ายไอซิสเค (ISIS-K) ออกมาอ้างว่าอยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว
ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ประณาม ‘อาชญากร’ เหล่านี้ว่า “เลือดเย็นและจงใจที่จะสังหาร ยิงพลเมืองของเราและลูกๆ ของเราในระยะเผาขน”
ขณะที่เซอร์เกย์ รัดเชนโก นักประวัติศาสตร์และศาสตราจารย์ของวิทยาลัยระหว่างประเทศศึกษาชั้นสูงในสังกัดมหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์เตือนว่า “ปูตินอาจใช้การโจมตีนองเลือดครั้งนี้ เพื่อระดมกำลังทำสงคราม และทำให้สิ่งต่างๆ ‘เลวร้ายยิ่งกว่านั้นมาก’ สำหรับชาวรัสเซีย”
“การก่อการร้ายเป็นภัยคุกคามที่ชาวรัสเซียคุ้นเคย และปูตินก็เคยใช้ความกลัวการก่อการร้ายอย่างฉวยโอกาสเพื่อรวบรวมอำนาจของเขาให้แข็งแกร่ง (นั่นเป็นมุมมองที่ไม่เป็นพิษเป็นภัย แต่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องยอมรับทฤษฎีสมคบคิดเพื่อที่จะชี้ประเด็นนี้)…ปูตินมีเป้าหมาย ‘ชัดเจน’ ทั้งการปราบปรามมากขึ้นและการระดมพลสงคราม…สำหรับจุดอ่อนอันโชคร้ายของการเจ็บป่วยระยะสุดท้ายของรัสเซีย พูดตามตรง แนวโน้มได้ชี้ไปในทิศทางนี้มานานแล้ว” ดร.รัดเชนโกโพสต์บน X
นอกจากนี้ แมทธิว ซัสเซ็กซ์ ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียและรองศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลีย ยังเตือนด้วยว่าา “รัสเซียจะต้องตอบโต้ด้วย ‘ความรุนแรงขั้นสุด’”
ศาสตราจารย์ซัสเซ็กซ์ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว BBC โดยอ้างถึงผลพวงของการล้อมโรงละครที่กรุงมอสโกในปี 2002 และการปิดล้อมโรงเรียนเบสลานในปี 2004 เป็นตัวอย่าง “บางทีอาจจะไม่สำคัญนักว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุโจมตี แต่สำคัญที่ว่ารัฐบาลรัสเซียตัดสินใจประณาม ‘ใคร’ และ ‘ใคร’ คือกลุ่มคนที่พวกเขาจะตอบโต้” ศาสตราจารย์ซัสเซ็กซ์กล่าว
สำนักข่าว Reuters รายงานว่า “ISIS-K กลุ่มรัฐอิสลามของแคว้นโคราซาน ซึ่งเป็นเครือข่ายของกลุ่มรัฐอิสลามแห่งอิรักและซีเรีย (ISIS) ในภูมิภาคเอเชียกลางได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าวผ่านทางช่อง Telegram ของตัวเอง”
ทางการสหรัฐฯ ระบุว่า “ขณะนี้ยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่ายูเครนมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว”
ตามข้อมูลของรัฐบาลรัสเซียระบุว่า “ผู้ต้องสงสัยมือปืน 4 คนที่ถูกจับกุม ‘ไม่ใช่’ พลเมืองรัสเซีย พวกเขาทั้งหมดเป็นชาวต่างชาติ”
ปูตินกล่าวถึงการโจมตีอันน่าสลดใจในการปราศรัยทางโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ (23 มี.ค.) และให้คำมั่นว่าจะลงโทษผู้มีส่วนรับผิดชอบ
“พวกเขาพยายามซ่อนตัวและมุ่งหน้าไปทางยูเครน…ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใคร ใครก็ตามที่ชี้นำพวกเขา ผมขอย้ำ เราจะลงโทษทุกคนที่สนับสนุนผู้ก่อการร้าย สิ่งสำคัญในตอนนี้คือการป้องกันไม่ให้ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการนองเลือดนี้ก่ออาชญากรรมครั้งใหม่” ปูตินกล่าว
คำเตือนของสหรัฐฯ ก่อนการโจมตี
ตามรายงานของ CBS ระบุว่า “เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยืนยันว่ามีข้อมูลมากมายที่ย้อนไปถึงเดือนพฤศจิกายน เกี่ยวกับ ISIS ที่ต้องการโจมตีในรัสเซีย”
7 มีนาคม 2024 หน่วยงานความมั่นคงกลางของรัสเซีย (FSB) กล่าวว่าได้ป้องกันการโจมตีสุเหร่ายิวแห่งหนึ่งในมอสโกซึ่งวางแผนโดยกลุ่ม ISIS
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงมอสโกได้ออกประกาศเตือนด้านความปลอดภัย หลังจากได้รับรายงานว่า “กลุ่มหัวรุนแรงมีแผนในเร็ววันนี้ที่จะมุ่งเป้าไปที่การชุมนุมใหญ่ในมอสโก รวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตด้วย” ในขณะนั้น พลเมืองสหรัฐฯ ได้รับคำแนะนำให้ ‘หลีกเลี่ยงการรวมตัวกันจำนวนมากๆ ในอีก 48 ชั่วโมงข้างหน้า’
เอเดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า “รัฐบาลสหรัฐฯ แชร์ข้อมูลนี้กับทางการรัสเซียตามนโยบาย ‘หน้าที่ต้องเตือน’ ซึ่งมีมายาวนาน”
แต่ในการกล่าวสุนทรพจน์เมื่อต้นสัปดาห์นี้ ปูตินเพิกเฉยต่อคำเตือนและกล่าวหาชาติตะวันตกว่าสร้าง ‘ถ้อยคำยั่วยุ’
“ทั้งหมดนี้ดูเหมือนเป็นการขู่กรรโชกอย่างเห็นได้ชัด และเป็นความพยายามที่จะข่มขู่ ทำลายเสถียรภาพประเทศของเรา” ปูตินกล่าว

มิคาอิล มูราชโก รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของรัสเซียกล่าวเบื้องต้นว่า มีผู้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 115 รายหลังการโจมตี รวมถึงเด็ก 5 คน โดยเหยื่อ 60 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส
วิตาลี พยานคนหนึ่งเล่าว่าเขาอยู่ในคอนเสิร์ตฮอลล์ที่ระเบียงชั้นหนึ่ง “เราได้ยินเสียงปืน เราไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนแรก จากนั้นผมก็เห็นผู้ก่อการร้ายยิงคน พวกเขาขว้างระเบิดขวด ทุกอย่างเริ่มลุกไหม้ เราถูกพาออกไปที่ทางออก แต่ประตูทางออกถูกล็อค เราจึงต้องไปหลบที่ชั้นใต้ดินของฮอลล์เพื่อรอการช่วยเหลือ”
พยานอีกรายหนึ่งเล่าว่า “มีความกดดันร้ายแรงในขณะที่ผู้คนพยายามหลบหนี และกำลังปีนป่ายเพื่อออกจากอาคาร”
ขณะที่ เซอร์เก โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก เป็นคนแรกที่ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตใน ‘โศกนาฏกรรมอันเลวร้าย’ นี้ “ผมขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต” เขากล่าว
Photo by STRINGER / AFP