โอลิมปิกปารีสไม่มีก่อการร้าย มีแต่ก่อการล้วง

นอกจากตำแหน่ง “เมืองแห่งความโรแมนติก” ปารีสยังขึ้นชื่อลือชาเรื่องโจรชุม โดยเฉพาะโจรล้วงกระเป๋าตามจุดที่มีคนเยอะๆ อย่างสถานีรถไฟ หรือตามสถานที่ท่องเที่ยวฮอตๆ  

และระหว่างที่ปารีสกำลังเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกอยู่นี้ก็มีทีมนักกีฬาจากหลายชาติเจอเข้าไปเต็มๆ กันหลายทีม 

อย่างในกรณีของ ซิโก้ นักฟุตบอลในตำนานของบราซิลที่ถูกโจรฉกกระเป๋าที่มีทั้งนาฬิกาโรเล็กซ์ สร้อยเพชร และเงินสดมูลค่ารวมกว่า 420,000 ปอนด์ หรือ 18.9 ล้านบาทไปต่อหน้าต่อตาระหว่างที่กำลังจะขึ้นรถแท็กซี่ออกจากโรงแรม โดยมีผู้ลงมือคนหนึ่งพยายามเข้าไปคุยกับคนขับรถแท็กซี่เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ แล้วอีกคนหนึ่งก็เข้าไปฉกกระเป๋าจากหลังรถ 

อีกรายหนึ่งคือ โลกแกน มาร์ติน แชมป์เหรียญทองโอลิมปิกปี 2020 กีฬาจักรยานวิบาก (BMX) ของออสเตรเลีย ซึ่งกำลังเตรียมตัวแข่งโอลิมปิก 2024 อยู่ที่ประเทศเบลเยียมก็เจอเหตุรถตู้ถูกงัด 

ในคลิปที่โลแกนโพสต์ลงอินสตาแกรมแสดงให้เห็นว่า กระจกรถฝั่งผู้โดยสารถูกทุบจนแตกกระจายเต็มพื้น เจ้าตัวเล่าว่ากระเป๋าสตางค์และกระเป๋าสะพายของเขาหายไป เตียงนวดของนักกายภาพบำบัดประจำทีมก็ถูกโจรขโมยไปด้วย แต่โชคดีที่รถจักรยานที่จะใช้แข่งไม่ได้อยู่ในรถตู้ที่ถูกทุบ  

สุดท้ายโลแกนกับเพื่อนในทีมใช้อุปกรณ์ติดตามกระเป๋าตามหาจนพบว่า อุปกรณ์บางส่วนถูกทิ้งอยู่หลังม้านั่งในสวนสาธารณะ รวมถึงถุงมือ หมวกกันน็อก เครื่องมือ และเตียงนวด และเจ้าตัวยังบอกว่า “เป็นการเริ่มต้นเดินทางที่บ้าระห่ำมาก”

อีกเคสเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน เมื่อผู้จัดการทีมแบดมินตันของอินโดนีเซียถูกฉกกระเป๋าที่มีเงินสดเกือบ 50,000 ปอนด์ หรือราว 2 ล้านบาท (เป็นเงินค่าใช้จ่ายของทั้งทีมตลอดการแข่งขัน) รวมทั้งบัตรเครดิตและพาสปอร์ตระหว่างนั่งรถไปหานักกีฬา โดยคนร้ายใช้อุบาย “ยางแบน” ทักผู้จัดการทีมรายนี้ว่ายางรถแบน เขาจึงลงจากรถไปดู คนร้ายจึงสบโอกาสหยิบกระเป๋าที่วางอยู่บนเบาะฝั่งผู้โดยสารหนีหายไป 

หรืออย่างในกรณี เจ้าหญิงอัล มายัสซา บินห์ ฮามัด อัล-ตานี สมาชิกครอบครัวของผู้ปกครองรัฐกาตาร์ที่ถูกขโมยกระเป๋าหรูแอร์เมส 11 ใบขณะโดยสารรถไฟจากเมืองนีซไปปารีสเพื่อเข้าร่วมชมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเมื่ปลายเดือนที่แล้ว โดยในกระเป๋านั้นนั้นมีทั้งเครื่องเพชรและนาฬิกาหรู 

แม้แต่ใน “หมู่บ้านนักกีฬา” ที่ควรจะเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยก็มีโจรอาวะลาดไม่เว้น สำนักข่าว Le Parisien รายงานว่าตั้งแต่ทัพนักกีฬาเข้าพักในหมู่บ้านนักกีฬาจนถึงวันที่ 28 กรกฎาคม มีการแจ้งร้องเรียนเรื่องการโจรกรรมแล้วอย่างน้อย 5 ครั้ง 

วันที่ 28 กรกฎาคม นักกีฬารักบี้ของญี่ปุ่นแจ้งว่าถูกขโมยแขวนแต่งงาน สร้อยคอ และเงินสดรวมมูลค่าราว 3,000 ยูโร หรือราว 115,695 บาท โดยห้องพักของเขาในหมู่บ้านนักกีฬาถูกค้นจนทั่วตอนที่เขาไม่อยู่และไม่พบร่องรอยของการงัดแงะเข้าไป อีกเคสหนึ่งเกิดขึ้นกับโค้ชทีมฮอกกีออสเตรเลีย ที่แจ้งว่าบัตรธนาคารถูกขโมยและมีการรูดใช้เงินรวม 1,500 ดอลลาร์ออสเตรเลีย (34,930 บาท) ในเวลาต่อมา และไม่พบร่องรอยของการงัดแงะเข้าห้องเช่นเดียวกับเคสของนักกีฬาญี่ปุ่น 

จุดอ่อนของหมู่บ้านนักกีฬาที่เจ้าภาพฝรั่งเศสจัดไว้คือ ไม่มีตำรวจภายในหมู่บ้านและไม่มีการติดกล้องวงจรปิดในพื้นที่ที่นักกีฬาพัก นักกีฬาและทีมงานแต่ละคนต้องรับผิดชอบทรัพย์สินข้าวของของตัวเอง หากเกิดเรื่องขึ้นต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ออร์แกไนเซอร์ซึ่งจะเป็นคนไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่อยู่ใกล้ๆ ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อรองรับโอลิมปิกโดยเฉพาะซึ่งอยู่ห่างจากทางเข้าหมู่บ้านไปราว 150 เมตร  

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านนักกีฬาซึ่งมีกล้องวงจรปิดกว่า 180 ตัวทำให้เกิดคำถามถึงประสิทธิภาพของมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางเจ้าภาพ

ส่วน แอนน์ เดส์กอม โฆษกปารีส 2024 เผยถึงเรื่องนี้ว่า “เหตุการณ์เหล่านั้นถูกรายงานไปยังตำรวจแล้ว เรากำลังช่วยเหลือนักกีฬาและผู้เข้าร่วมการแข่งขัน หมู่บ้านนักกีฬาเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูง มีกล้องวงจรปิดกว่า 180 ตัว เราพยายามอย่างมากที่จะทำให้หมู่บ้านนักกีฬาปลอดภัยสำหรับนักกีฬา”

หากจะถามถึงเรื่องสถิติการฉกชิงวิ่งราวในฝรั่งเศสนั้น เมื่อเร็วๆ นี้บริษัทประกันเดินทาง QuoteZone ในอังกฤษได้ศึกษาเก็บข้อมูลการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวประเทศต่างๆ 5 อันดับแรกในยุโรปของนักท่องเที่ยวที่พูดถึงการล้วงกระเป๋า และพบว่าอิตาลีถูกพูดถึงเรื่องการล้วงกระเป๋ามากที่สุด ตามด้วยฝรั่งเศส และสเปน

หากเจาะเฉพาะฝรั่งเศสพบว่า สถานที่ที่มีการล้วงกระเป๋ามากที่สุดหนีไม่พ้นปารีส QuoteZone พบว่ามีการพูดถึงการล้วงกระป๋าในปารีสถึง 251 ครั้งต่อนักท่องเที่ยว 1 ล้านคน สถานที่ที่เสี่ยงที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือ หอไอเฟล 

ส่วนที่อื่นๆ ที่ต้องระวังไม่แพ้กัน ได้แก่ ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) อาสนวิหารน็อทร์ดามแห่งปารีส (Cathédrale Notre-Dame de Paris) พิพิธภัณฑ์ดออร์เซ (Musée d'Orsay) และพิพิธภัณฑ์ลูว์ฟ (Louvre Museums) 

เมื่อช่วง 10 ปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางไปเยือนฝรั่งเศสถูกแก๊งฉกชิงวิ่งราวเล่นงานหนักมาก เพราะอย่างที่รู้กันว่านักท่องเที่ยวจีนมักจะพกเงินเยอะ จนทางการฝรั่งเศสต้องเชิญตำรวจจีนเข้าไปร่วมลาดตระเวนตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตเพื่อช่วยเป็นหูเป็นตาอีกแรง 

การแก้ปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน 23 คนถูกปล้นที่ร้านอาหารเขตชานเมืองทางตอนเหนือของปารีสไม่นานหลังจากเหยียบย่างเข้าเมืองแห่งความโรแมนติก ครั้งนั้นคนร้ายได้เงินไป 7,500 ยูโร (289,000 บาท) ตั้วเครื่องบินและพาสปอร์ตก็ติดไปด้วย แถมยังมีนักท่องเที่ยวบางคนบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้ 

หลังเหตุการณ์นี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของฝรั่งเศสในขณะนั้นประกาศว่า รัฐบาลมุ่งมั่นที่จะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามา 

แต่จนถึงวันนี้ 10 ปีผ่านไปฝรั่งเศสก็ยังจัดการปัญหานี้ไม่ได้ ยิ่งในช่วงโอลิมปิกยิ่งดูเหมือนจะเป็นช่วงเวลาทองของโจรพวกนี้