








หลังจากเปลวสุริยะ (solar flares) ขนาดมหึมา 2 ดวงถูกปล่อยออกมาจากดวงอาทิตย์เมื่อวันศุกร์ (10 พ.ค.) และเสาร์ (11 พ.ค.) ซึ่งถือเป็นพายุสุริยะครั้งรุนแรงในรอบ 20 ปีที่คาดว่าดวงอาทิตย์ยังคงปล่อยเปลวสุริยะอย่างต่อเนื่อง โดยจะปล่อยในระดับสูงถึงสูงมากจนถึงบ่าย 13 พ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือประมาณเช้ามืดวันที่ 14 พ.ค. ตามเวลาไทย
ปรากฏการณ์ครั้งนี้ทำให้เกิดแสงเหนือ หรือออโรรา (aurora australis) หลากสีทั้งแดง น้ำเงิน เขียว เหลือง บริเวณท้องฟ้าอเมริกาเหนือ ยุโรปบางประเทศ รวมถึงออสเตรเลียด้วย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมากโดยเฉพาะสีม่วง และชมพู ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่หาได้ยากมาก
ทั้งนี้ รังสีที่เป็นอันตรายจากเปลวสุริยะจะไม่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศของโลกและส่งผลทางกายภาพต่อมนุษย์บนพื้นดินได้ แต่ก็เป็นอันตรายต่อดาวเทียม และโครงข่ายไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าดับไปแล้วในบางพื้นที่ หากมันมีความรุนแรงเพียงพอ เปลวสุริยะเหล่านี้ก็สามารถรบกวนการสื่อสารทางวิทยุความถี่สูง และสัญญาณนำทาง GPS