บทวิเคราะห์: สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้กระทบแค่ชินวัตร แต่ลามไปถึงเศรษฐกิจไทยด้วย

3 ก.ค. 2568 - 07:46

  •   แม้ว่าไทยจะเผชิญกับความผันผวนทางการเมืองหลายครั้ง แต่ความผัวผวนรอบล่าสุดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของประเทศ

  • เครื่องยนต์ที่สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยกำลังตะกุกตะกัก

  • เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกฯ คนที่ 4 ในรอบ 16 ปีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

บทวิเคราะห์: สั่งนายกฯ หยุดปฏิบัติหน้าที่ ไม่ได้กระทบแค่ชินวัตร แต่ลามไปถึงเศรษฐกิจไทยด้วย

แม้ว่าประเทศไทยจะเผชิญกับความผันผวนทางการเมืองบ่อยครั้ง แต่การสั่งให้นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร “หยุดปฏิบัติหน้าที่” ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมเลย

เหตุการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (1 ก.ค.) ในไทย ดูเหมือนเป็นเดจาวู นายกฯ แพทองธาร ซึ่งเป็นบุตรสาวของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งหนุดปฏิบัติหน้าที่ หลัง ส.ว. 36 คนยื่นคำร้องกรณีคลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับ ฮุน เซน

นายกฯ คนก่อนหน้าคือ เศรษฐา ทวีสิน ก็ถูกศาลรัฐธรรมนูญตรวจสอบเช่นกัน หลัง ส.ว. 40 คนยื่นคำร้องโดยกล่าวหาว่าละเมิดจริยธรรมโดยการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ทนายความของทักษิณเป็นรัฐมนตรี เดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ศาลสั่งให้เศรษฐาพ้นจากตำแหน่งนายกฯ หลังเพิ่งนั่งเก้าอี้ได้ไม่ถึงปี

เศรษฐาเป็นนายกฯ คนที่ 4 ในรอบ 16 ปีที่ต้องพ้นจากตำแหน่งหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย

ในกรณีของแพทองธาร ส.ว.กล่าวหาว่าละเมิดรัฐธรรมนูญและจริยธรรมจากการแสดงความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 ของไทย และแสดงความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อ ฮุน เซน มากเกินไปเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องพรมแดนที่ยังคาราคาซังอยู่

ขณะนี้แพทองธารกำลังเผชิญกับความเสี่ยงซ้ำรอยเศรษฐาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และนั่นอาจทำให้อำนาจของตระกูลชินวัตรสิ้นสุดลง แต่มรดกทางการเมืองของครอบครัวชินวัตรไม่ใช่สิ่งเดียวที่ได้รับผลกระทบ

แม้ว่าไทยจะเผชิญกับความผันผวนทางการเมืองหลายครั้ง แต่ความผัวผวนรอบล่าสุดนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดสำหรับเศรษฐกิจของประเทศ

เมื่อกลางเดือนที่แล้วธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้จาก 2.9% เหลือ 1.8% เนื่องจากเครื่องยนต์ที่สร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจกำลังตะกุกตะกัก

เครื่องยนต์ตัวแรกคือ การท่องเที่ยว ภาคการท่องเที่ยวที่เป็นหัวใจหลักกำลังส่งสัญญาณความอ่อนแอ หลังไทยต้องเผชิญการแข่งขันที่มากขึ้นจากประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ มาเลเซียและเวียดนาม

นักท่องเที่ยวจีนซึ่งถือเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุดเริ่มลังเลในการเดินทางมาเที่ยวไทย เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยจากแก๊งสแกมเมอร์และเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างสรรพสินค้ากลางเมืองเมื่อเดือน ต.ค. 2023

ความตึงเครียดบริเวณชายแดนกับกัมพูชาไม่ได้ก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ ภูเก็ต และแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมอื่นๆ แต่อาจเพิ่มความรู้สึกไม่สบายใจได้ ความขัดแย้งในตะวันออกกลางยังทำให้เที่ยวบินมายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต้องหยุดชะงัก และเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวที่ไหลเข้าสู่ประเทศไทยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

การพบระเบิดที่ภูเก็ตและกระบี่เมื่อไม่นานมานี้ ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวทางภูมิศาสตร์ของกลุ่มกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ตอนล่าง แม้ว่าจะมีข้อมูลเพียงเล็กน้อยที่บ่งชี้ว่ามีแนวโน้มเป็นไปได้ นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ไม่คุ้นเคยกับประวัติของกลุ่มกบฏว่าก่อเหตุเฉพาะในจังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจไม่เข้าใจความแตกต่างนี้

เครื่องยนต์ตัวที่สอง การบริโภคถูกฉุดรั้งจากระดับหนี้สินครัวเรือนสูงเรื้อรัง โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้มีสัดส่วนสูงถึง 87.4% ของจีดีพี และยังเป็นอัตราส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ปีที่แล้วธนาคารพาณิชย์กำหนดเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อการบริโภคอื่นๆ ที่เข้มงวดยิ่งขึ้นเพื่อบรรเทาความเสี่ยง ซึ่งทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงไปอีก

พรรครัฐบาลเพื่อไทยของแพทองธารต้องเลื่อนโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเพื่อรับมือกับอุปสรรคทางเศรษฐกิจจากภายนอก อาทิ ภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้รัฐบาลเพื่อไทยโปรโมตว่าโครงการนี้สำคัญต่อการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แม้ว่าสถาบันการเงินต่างๆ จะกังวลเรื่องการนำไปปฏิบัติก็ตาม

เครื่องยนต์ตัวสุดท้าย เศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกต้องเตรียมรับมือกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากภาษีศุลกากรของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 ก.ค.นี้ เมื่อช่วงเวลาการเจรจาการค้าทวิภาคีสิ้นสุดลง และหากไม่มีข้อตกลง ไทยอาจต้องเผชิญกับอัตราภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ สูงถึง 36%

แม้ว่า พิชัย ชุณหวชิร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของไทยจะเริ่มการเจรจาอย่างเป็นทางการกับ เจมีสัน เกรียร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในวันที่ 3 ก.ค. แต่ตามรายงานของวอลล์สตรีทเจอร์นัลเมื่อเดือน เม.ย.  ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในรายชื่อประเทศที่มีความสำคัญอันดับแรกๆ ในการเจรจากับสหรัฐฯ โดยมีรายงานว่าอินโดนีเซีย มาเลเซีย เวียดนาม และแม้แต่กัมพูชาอยู่ในรายชื่อดังกล่าว แม้ว่าจะไม่ชัดเจนว่าประเทศเหล่านี้ได้รับการจัดลำดับความสำคัญตามหลักเกณฑ์ใด

ดังนั้นประเทศไทยจึงมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงที่ดีได้ภายในวันที่ 9 ก.ค.

แม้ว่า สกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ จะระบุว่า การเจรจาอาจขยายออกไปได้สำหรับบางประเทศ แต่ยังคงต้องติดตามดูกันต่อไปว่าสหรัฐฯ จะเชื่อมั่นหรือไม่ว่าไทยกำลัง “เจรจาด้วยความสุจริตใจ” ผ่านคำมั่นสัญญาที่จะแก้ไขข้อกังวลที่ยังคงค้างอยู่ เช่น การเป็นจุดพักเปลี่ยน (transshipment) สินค้าจีน และอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร

หากพิชัยจูงใจสหรัฐฯ สำเร็จ อัตราภาษีพื้นฐาน 10% อาจคงอยู่ได้จนกว่าจะบรรลุข้อตกลง หากไม่เป็นเช่นนั้น และหากสหรัฐฯ คิดว่าต้องกดดันไทยมากขึ้นเพื่อพิสูจน์ความจริงใจ สหรัฐฯ อาจใช้อัตราภาษีที่สูงขึ้นเป็นแต้มต่อเพื่อให้ไทยยอมมากขึ้น

นักลงทุนต่างชาติต้องการเห็นการบริหารเศรษฐกิจที่เข้มแข็งของรัฐบาล เพื่อรักษาความเชื่อมั่นที่มีต่อประเทศไทยไว้

นี่คือจุดที่เสถียรภาพทางการเมืองมีความสำคัญอย่างยิ่ง รัฐบาลที่กำลังอยู่ในภาวะวิกฤตไม่น่าจะมีเวลาคิดอย่างมีกลยุทธ์และมองการณ์ไกลเกี่ยวกับการแก้ไขเศรษฐกิจ

โครงการหลักเพื่อกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศของพรรคเพื่อไทยก็ถูกดึงเข้าสู่กระแสการเมืองเช่นกัน และดูเหมือนว่าโครงการเหล่านี้จะถูกชะลอไว้ก่อนเพื่อความอยู่รอดทางการเมือง แผนการทำให้คาสิโนถูกกฎหมายถูกเลื่อนออกไป โดยพรรคภูมิใจไทยคัดค้านอย่างหนักหลังถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล

ทั้งร่างกฎหมายคาสิโนถูกกฎหมาย และโครงการเมกะโปรเจ็กต์แลนด์บริดจ์ในภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากพรรคเพื่อไทย ถูกกล่าวถึงในการชุมนุมประท้วงรัฐบาลที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.

โดยสรุปคือ ประเทศไทยจำเป็นต้องแก้ไขการเมืองเพื่อแก้ไขนโยบายต่างๆ แต่น่าเสียดายที่ไม่มีวิธีแก้ไขปัญหาที่ได้ผลในทันที

พันธมิตรในรัฐบาล และผู้มีอำนาจที่อยู่เบื้องหลัง จำเป็นต้องมีความยับยั้งชั่งใจและความเข้าใจกัน เพื่อให้ความสำคัญกับเสถียรภาพของรัฐบาลและความต่อเนื่องของนโยบายมากกว่าผลประโยชน์ทางการเมืองที่จำกัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อความแตกแยกอาจก่อให้เกิดหายนะ ไม่เพียงแต่สำหรับชนชั้นนำทางการเมืองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงประเทศชาติด้วย นอกจากนี้ ยังต้องใช้แนวคิดนโยบายใหม่ๆ มากกว่าแนวทางประชานิยมที่ผ่านการทดลองและพิสูจน์มาแล้ว

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่ารัฐบาลของแพทองธารจะไม่พร้อมสำหรับทั้งสองอย่างข้างต้น ต้องไม่ลืมว่าสิ่งที่จุดชนวนให้เกิดการเผชิญหน้ากันรอบล่าสุดคือ การที่ทักษิณอยากได้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งถือเป็นตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดตำแหน่งหนึ่งในรัฐบาล ซึ่งทำให้พรรคภูมิใจไทยไม่พอใจมากจนต้องลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาล

Photo by Lillian SUWANRUMPHA / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์