เมื่อทิปเริ่มจะหนักเกินไปจนแม้แต่คนอเมริกันเองก็ยังบ่น

28 ม.ค. 2567 - 06:00

  • การให้ทิปถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในสหรัฐฯ มายาวนาน ซึ่งทั่วไปมักจะทิปกันที่ 15-20%

  • หลังหมดยุคโควิด-19 ระบาด ชาวอเมริกันเริ่มพูดกันถึงเรื่องการทิปที่บางครั้งพวกเขารู้สึกว่ามากเกินไป

 tipping-culture-in-the-us-is-out-of-control-SPACEBAR-Hero.jpg

การให้ทิปถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในสหรัฐฯ มายาวนาน แต่ตอนนี้ทิปกลายเป็นประเด็นถกเถียงว่ามันกำลังมากเกินไปหรือไม่ เพราะบางร้านหากเป็นการจ่ายเงินแบบดิจิทัลเพย์เมนต์ ที่จอจะปรากฏช่องให้ลูกค้าเลือกว่าจะให้ทิปเท่าไรตั้งแต่ 15-35% ในการทำธุรกรรมแต่ละครั้ง ทำให้ผู้บริโภคเหมือนถูกบังคับให้จ่ายทิป บางคนถึงกับตั้งคำถามว่าทำไมนายจ้างไม่จ่ายเงินให้ลูกจ้างในอัตราที่พวกเขาอยู่ได้แทนที่จะผลักภาระให้ลูกค้า

การจ่ายทิปให้กับพนักงานเสิร์ฟเป็นเรื่องที่เข้าใจกันได้ แต่ล่าสุดการทิปลามไปถึงแคชเชียร์ร้านขายของชำแล้ว

เจ้าของบัญชี TikTok @incrediboii โพสต์คลิปเล่าถึงประสบการณ์ทิปที่ทำเอาเจ้าตัวนอยด์ไปหลายวันว่า “ฉันกับแฟนไปร้านขายของชำชื่อ Tiny Grocer ซึ่งค่อนข้างหรูในออสติน มันไม่ใช่ร้านที่พวกเราจะไปกันบ่อยๆ หรอกนะ แต่คืนนั้นเรามีเดตกัน”  

@incrediboii เล่าต่อว่า เธอซื้อของไม่กี่อย่าง เช่น ชีส เนื้อสัตว์หมัก (cured meat) และไวน์ โดยที่ทั้งคู่ก็ทราบอยู่แล้วว่าราคาสินค้าอาจจะสูงกว่าร้านชำปกติ แต่สิ่งที่ทำให้ทั้งคู่ช็อกไม่ใช่ราคาสินค้าแต่เป็น “ทิป”

สาวคนนี้เล่าว่า “ฉันรู้อยู่แล้วว่าราคามันจะแพงกว่าร้านชำทั่วไป ฉันน่าจะจ่ายไปประมาณ 40 ดอลลาร์ แล้วแคชเชียร์ก็พลิกแท็บเล็ตกลับมาแล้วขอทิป 25% จากบิล 40 ดอลลาร์” หลังจากถูกขอทิปมากขนาดนี้เธอก็หยิบข้าวของแล้วเดินกลับไปที่รถซึ่งแฟนหนุ่มรออยู่ 

“เขาขอทิป 10 ดอลลาร์จากบิลซื้อของชำ 40 ดอลลาร์” เจ้าของบัญชี @incrediboii เล่าให้แฟนหนุ่มฟัง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกแย่ไปหลายวัน

บรรดาผู้ใช้โซเชียลมีเดียที่ได้ฟังเรื่องนี้ก็ตะลึงไปตามๆ กัน โดยมองว่าแคชเชียร์ควรจะได้ค่าจ้างตามเรตทั่วไป เพราะแค่นั่งแล้วก็สแกนบาร์โค้ดเพื่อคิดเงิน บางคนก็นำไปเปรียบเทียบกับพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหารที่ต้องยืนทั้งวัน โดยคนหนึ่งบอกว่า “ถ้าเราไม่ได้นั่ง (ทานอาหาร) เราก็ไม่ทิป” อีกคนหนึ่งบอกว่า “ควรยกเลิกการทิปแล้วจ่ายค่าจ้างที่พนักงานพออยู่พอกิน” 

คนอเมริกันมองการทิปในแง่ลบ

หลังหมดยุคโควิด-19 ระบาด ชาวอเมริกันเริ่มพูดกันถึงเรื่องการทิปที่บางครั้งพวกเขารู้สึกว่ามากเกินไปมากขึ้น เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผลสำรวจจาก Bankrate ระบุว่า ชาวอเมริกันราว 66% มองการทิปในแง่ลบ เกือบ 30% ของคนอเมริกันรู้สึกว่าวัฒนธรรมการทิป “เริ่มจะเกินเลย” เพราะหลายร้านหลายบริษัทกระตุ้นให้ลูกค้าจ่ายทิปที่เคาน์เตอร์มากกว่าที่เคยเป็นมา และ 32% ยังรู้สึกว่าทิปที่ทางร้านกำหนดตัวเลขตายตัวแล้วให้ลูกค้าเลือกเป็นเรื่องน่ารำคาญ อีก 41% มองว่านายจ้างควรจ่ายเงินให้ลูกจ้างมากกว่าการพึ่งพาทิปจากลูกค้า 

พนักงานเสิร์ฟพึ่งทิปเพื่อความอยู่รอด

อย่างไรก็ดี ในอีกมุมหนึ่งพนักงานเสิร์ฟที่สหรัฐฯ ต้องพึ่งพาทิปเป็นหลักเพื่อความอยู่รอด เพราะลำพังรายได้ขั้นต่ำรายชั่วโมงเพียงอย่างเดียว ซึ่งในบางรัฐต่ำกว่าค่าแรงขั้นต่ำตามมาตรฐานของรัฐบาลกลาง (7.25 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง) เมื่อถูกหักภาษีและประกันสังคมก็แทบจะไม่เหลือเงินสำหรับใช้จ่ายแล้ว

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์