รายงานประจำปีของ Eurasia Group ที่ปรึกษาความเสี่ยงทางการเมืองระบุว่า การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน ‘จะเป็นการทดสอบระบอบประชาธิปไตยของอเมริกาในระดับที่ไม่เคยประสบมาในรอบ 150 ปี’ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เกิดครามกลางเมืองของสหรัฐฯ
“สหรัฐฯ เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตยที่มีความแตกแยกและผิดปกติมากที่สุดในโลกอยู่แล้ว การเลือกตั้งปี 2024 จะทำให้ปัญหานี้รุนแรงขึ้นไม่ว่าใครจะชนะก็ตาม ด้วยผลการลงคะแนนเสียงโดยพื้นฐานแล้วเป็นการโยนหัวก้อย (อย่างน้อยก็ในตอนนี้) สิ่งเดียวที่แน่นอนคือความเสียหายที่ยังคงดำเนินต่อไปต่อโครงสร้างทางสังคม สถาบันทางการเมือง และจุดยืนระหว่างประเทศของสหรัฐฯ”
คำแถลงระบุ

รายงานระบุต่อไปว่า หากโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้นำของพรรครีพับลิกัน พ่ายแพ้ต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดนอีกครั้ง เจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายนี้ก็น่าจะยุยงให้เกิดการข่มขู่ในวงกว้างต่อเจ้าหน้าที่เลือกตั้ง
สหรัฐฯ ในวาระที่ 2 ของไบเดนอาจเผชิญกับวิกฤตทางการเมืองที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากทรัมป์เข้าคุกในคดีมากมายที่เขาถูกตั้งข้อหา แม้ว่าความรุนแรงขนาดใหญ่จะยังไม่น่าจะเป็นไปได้ก็ตาม

ไบเดนมองว่าการหาเสียงของเขาเป็นการต่อสู้เพื่อรักษาประชาธิปไตยที่ต่อต้านทรัมป์ ซึ่งผู้สนับสนุนโจมตีรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 ด้วยความหวังว่าจะหยุดชัยชนะของไบเดน
หากไบเดนแพ้ ไบเดนก็จะถูกคาดหวังให้ยอมรับ แต่ส่วนใหญ่ในพรรคเดโมแครตก็จะมองว่าทรัมป์นั้นทำผิดกฎหมาย และบางคนจะปฏิเสธที่จะยอมรับชัยชนะของทรัมป์โดยอ้างถึงรัฐธรรมนูญที่ห้ามใครก็ตามที่มีส่วนร่วมในการก่อกบฏเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี

ขณะเดียวกัน ทรัมป์ในสมัยที่ 2 ก็อาจจะ ‘ปรับใช้รัฐบาลสหรัฐเป็นอาวุธ’ เพื่อไล่ตามคู่แข่งและบดขยี้ผู้เห็นต่าง
นอกจากความเสี่ยงระดับโลกอันดับ 1 อย่างการเลือกตั้งของสหรัฐฯ แล้ว Eurasia Group ยังจัดอันดับความรุนแรงในตะวันออกกลางเป็นความเสี่ยงระดับโลกอันดับ 2 โดย ‘สงครามอิสราเอล-ฮามาส’ มีแนวโน้มว่าจะเป็นเพียงระยะแรกของความขัดแย้งที่ขยายตัวในปี 2024
ตามมาด้วยความเสี่ยงใหญ่อันดับ 3 คือ ‘ยูเครน’ โดยการศึกษาคาดการณ์ว่ายูเครนในปี 2024 จะถูกแบ่งแยก โดยยูเครนพยายามดิ้นรนเพื่อยึดคืนพื้นที่ที่ถูกยึดโดยรัสเซีย โดยรายงานระบุว่ายูเครนจะเผชิญกับการโจมตีครั้งใหญ่อีกครั้งหากสหรัฐฯ เลือกทรัมป์ ซึ่งคัดค้านการให้เงินหลายพันล้านดอลลาร์ที่สหรัฐฯ ให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครน

นอกจากนี้รายงานของ Eurasia Group ยังระบุถึงภัยคุกคามอื่นๆ อีก ไม่ว่าจะเป็น
-AI ที่ไม่มีมาตรการควบคุม-
ในปีที่ผู้คนกว่า 4,000 ล้านคนจะไปเลือกตั้ง AI จะถูกใช้ในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะรัสเซีย เพื่อสร้างอิทธิพลต่อการรณรงค์หาเสียง กระตุ้นการแบ่งแยก บ่อนทำลายความไว้วางใจในระบอบประชาธิปไตย และสร้างความวุ่นวายทางการเมืองในขนาดที่ไม่เคยมีมาก่อน
-แก๊งตัวแสบ-
ความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และเกาหลีเหนือจะแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และคุกคามเสถียรภาพของโลก
-จีนไม่ฟื้น-
การเติบโตใดๆ ก็ตามในเศรษฐกิจจีนมีแต่จะทำให้เกิดความหวังแบบผิดๆ เกี่ยวกับการฟื้นตัว เนื่องจากข้อจำกัดทางเศรษฐกิจและพลวัตทางการเมืองขัดขวางการเติบโตที่ยั่งยืน