ทำเนียบขาวเผยว่า ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และทีมบริหาร เน้นย้ำถึงความสำเร็จในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งของเขาในสัปดาห์นี้ ขณะเดียวกันก็มองไปที่อีก 100 วันข้างหน้า โดยจะเน้นไปที่ข้อตกลงการค้าและการเจรจาสันติภาพ
หลังจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วที่สร้างความหวาดเสียวให้พันธมิตรและสร้างความตกตะลึงให้ศัตรู รวมทั้งในนโยบายสังคมอย่างสิทธิของคนข้ามเพศ เจ้าหน้าที่รายหนึ่งเผยว่า ทรัมป์มี “ตอร์ปิโด” อยู่ในมือและไม่ได้อธิบายว่ามันคืออะไร
ทรัมป์สร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในประเด็นสำคัญด้านนโยบายในประเทศและต่างประเทศของสหรัฐฯ นับตั้งแต่สาบานตนเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 มกราคมที่ผ่านมา ทรัมป์ได้พลิกโฉมระเบียบเศรษฐกิจโลกด้วยภาษีศุลกากร ตัดลดหน่วนงานรัฐบาลกลางด้วยการลดตำแหน่งงาน และยกเลิกโครงการความหลากหลาย (DEI) ทั้งในภาคส่วนรัฐบาลและเอกชน
ทรัมป์เดินทางไปรัฐมิชิแกนเพื่อปราศรัยในโอกาสครบรอบ 100 วันแรกของการทำงาน โดยพูดถึงการผลักดันผู้อพยพผิดกฎหมายออกนอกประเทศ การเปลี่ยนแปลงนโยบายต่างประเทศ และหน่วยงาน Doge ของอีลอน มัสก์
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของทรัมป์จะชื่นชมความเร็วและขอบเขตของความพยายามของทรัมป์ในการสร้างสังคมอเมริกันขึ้นใหม่ แต่ฝั่งคนวิจารณ์มองว่าทรัมป์ละเมิดสิทธิของพลเมืองและผู้ที่ไม่ใช่พลเมือง สร้างความแตกแยกให้กับพันธมิตร และคุกคามอำนาจสูงสุดของสหรัฐฯ ในโลก
แม้ว่า 100 วันแรกทรัมป์จะเดินหน้านโยบายต่างๆ มากมาย แต่เจ้าหน้าที่เผยว่า ยังมีอะไรอีกมากมายที่จะเกิดขึ้น และมี “ตอร์ปิโดใต้น้ำ” จำนวนมาก ซึ่งรวมถึงการลงนามคำสั่งบริหารแบบที่ทรัมป์ลงนามไปใน 100 วันแรก ที่เจ้าหน้าที่บอกว่าจะเดินหน้าต่อราวกับ “ก้อนหิมะที่กลิ้งลงจากเนิน” และฝ่ายบริหารยังคงดำเนินการเรื่องการห้ามพลเมืองจากหลายประเทศเดินทางเข้าสหรัฐฯ อยู่
ที่ผ่านมาศาลพยายามขัดขวางการกระทำบางอย่างของทรัมป์ จนถูกพันธมิตรของทรัมป์วิพากวิจารณ์ และทำเนียบขาวก็ตำหนิว่าผู้พิพากษาเหล่านั้นกำลังขัดขวางเจตจำนงของหัวหน้าฝ่ายบริหารและประชาชนที่เลือกทรัมป์เข้ามา
