สหรัฐฯ ต้องการอะไรจากการส่งเรือดำน้ำไปเกาหลีใต้แบบโจ่งแจ้ง

28 เม.ย. 2566 - 09:31

  • สหรัฐฯ ตกลงกับเกาหลีใต้ว่าจะส่งเรือดำน้ำเข้าไปในเกาหลีใต้

  • นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า การประกาศอย่างโจ่งแจ้งนี้เป็นการลดทอนประสิทธิภาพของเรือดำน้ำ

us-south-korea-nuclear-armed-submarine-explaine-SPACEBAR-Thumbnail
การตกลงกันเกี่ยวกับการ ‘ดับ’ ความก้าวร้าวของเกาหลีเหนือไม่ให้ใช้อาวุธนิวเคลียร์กับเกาหลีใต้ระหว่างประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐ กับประธานาธิบดี ยุนซ็อกยอล ของเกาหลีใต้ ที่พบกันในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. มีเรื่องน่าสนใจคือ แผนที่สหรัฐฯ จะส่งเรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ไปเกาหลีใต้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1981  

แม้ว่าความเคลื่อนไหวนี้มีความหมายยิ่งใหญ่ในเชิงสัญลักษณ์ แต่บรรดาผู้เชี่ยวชาญก็ตั้งคำถามว่ามันสมเหตุสมผลไหมในแง่ของกองทัพ โดยบางคนแย้งว่าเรือดำน้ำมีศักยภาพในการโจมตีเกาหลีเหนือแม้จะอยู่ห่างออกไปหลายพันไมล์ ขณะที่บางคนบอกว่า การส่งเรือดำน้ำไปยังท่าเรือของต่างชาติโดยการประกาศอย่างโจ่งแจ้งเท่ากับเป็นการลดทอนประสิทธิภาพของอาวุธที่ถูกออกแบบให้ล่องหน 

ต่อไปนี้คือเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับเรือดำน้ำ และเหตุผลว่าทำไมเรือลำนี้ถึงต้องไปเกาหลีใต้ 

บูมเมอร์ 

กองทัพเรือสหรัฐฯ มีเรือดำน้ำที่ขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ซึ่งมีขีปนาวุธระยะไกลต่อเป้าหมายบนบกเป็นหลัก (SSBN) ชั้นโอไฮโอ 14 ลำ โดย 8 ลำอยู่ในรัฐวอชิงตันและอีก 6 ลำอยู่ในจอร์เจีย 

เรือดำน้ำขนาด 560 ฟุตซึ่งมักจะถูกเรียกว่า ‘บูมเมอร์’ มีระวางขับน้ำกว่า 18,000 ตันเมื่อดำอยู่ใต้น้ำ และใช้พนังงานจากเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์เดี่ยว 

กองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุว่า เรือดำน้ำชั้นโอไฮโอถูกออกแบบให้อยู่ในทะเลได้เฉลี่ย 77 วัน หลังจากจอดเทียบท่าเพื่อบำรุงรักษา  35 วัน เรือดำน้ำแต่ละลำจะมีลูกเรือประจำการ 2 กลุ่มที่เรียกว่า ‘blue’ และ ‘gold’ เพื่อให้ลูกเรือแต่ละกลุ่ม กลุ่มละ 155 นายได้สับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน เพื่อการพักผ่อนที่เพียงพอและการฝึกระหว่างออกลาดตระเวน 

มีอาวุธอะไรประจำการบ้าง 

เรือดำนน้ำชั้นโอไฮโอแต่ลำสามารถประจำการขีปนาวุธข้ามทวีปไทรเดนต์ 2 (Trident II) ได้มากสุด 20 ลูก ขีปนาวุธนี้มีพิสัยการยิง 7,400 กิโลเมตร หมายความว่าสามารยิงโจมตีเป้าหมายในเกาหลีเหนือจากทั้งมหาสมุทรแปซิฟิก มหาสมุรอินเดีย และมหาสมุทรอาร์กติก และขีปนาวุธข้ามทวีปไทรเดนต์ 2 สามารถบรรจุหัวรบได้หลายหัวรบที่สามารถโจมตีเป้าหมายแยกกันได้ 

เบลค เฮอร์ซิงเกอร์ นักวิจัยจากศูนย์สหรัฐฯ ศึกษาเผยว่า “ในทางทหารเรือดำน้ำเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเข้าไปอยู่ใกล้เกาหลีเพื่อให้อยู่ในระยะโจมตีเป้าหมายที่นั่น”  

สถาบัน Nuclear Threat Initiative ของสถาบันเพื่อการศึกษาการป้องกันการขยายอาวุธนิวเคลียร์คาดการณ์ว่า ขีปนาวุธไทนเดนต์แต่ละลูกสามารถบรรจุหัวรบได้ 4 หัวรบ หมายความว่าเรือดำน้ำที่ติดตั้งขีปนาวุธระยะไกลของสหรัฐฯ แต่ละลำอาจมีหัวรบนิวเคลียร์ได้ถึง 80 หัวรบ 

หรือพูดง่ายๆ คือ เรือดำน้ำที่ติดตั้งขีปนาวุธไทรเดนต์เพียงลำเดียวก็เพียงพอจะทำลายเกาหลีเหนือได้ทั้งประเทศแล้ว 

แล้วทำไมต้องส่งไปเกาหลีใต้ 1 ลำ 

นักวิเคราะห์เผยว่า การปรากฏตัวของเรือดำน้ำสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้ครั้งนี้เป็นสัญลักษณ์ล้วนๆ และอาจลดคุณค่าในทางการทหารของเรือดำน้ำลำนี้ 

คาร์ล ชูสเตอร์ อดีตกัปตันกองทัพเรือสหรัฐฯ และอดีตผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการที่ศูนย์ข่าวกรองร่วมของบัญชาการแปซิฟิกของสหรัฐฯ ในฮาวายเผยว่า “ในทางแท็กติก สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ทำให้สิ่งที่ทรงพลังที่สุดของเรือดำน้ำอย่างความสามารรถในการล่องหนลดทอนลง” 

หนึ่งในกุญแจสำคัญในการป้องปรามนิวเคลียร์คือความไม่แน่นอน 

แดเนียล โพสต์ ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐฯ ระบุไว้ในวารสาร Proceeding ของสถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมว่า “การป้องปรามด้วยอาวุธนิวเคลียร์กำหนดให้ แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะรู้ถึงการมีอยู่และขนาดของอาวุธของรัฐนิวเคลียร์ แต่ก็ไม่สามารถรู้ขอบเขตหรือตำแหน่งที่แน่นอนของขีดความสามารถหรือเวลาที่พวกมันอาจถูกนำไปใช้” 

เรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธของสหรัฐฯ ดำลงไปใต้ผิวน้ำกว่าร้อยฟุตหลายพันไมล์ห่างจากเกาหลีเหนือยังสามารถโจมตีเปียงยางได้ แต่กลับเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับเกาหลีเหนือที่จะพบเห็น 

ชูสเตอร์บอกอีกว่า การที่เรือดำน้ำลำหนึ่งจะแวะไปที่เกาหลีใต้ ซึ่งต้องเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อย 24-48 ชั่วโมง มันยิ่งกว่ามองเห็นเสียอีก ซึ่งน่ะนจะเป็นประโยชน์กับเกาหลีเหนือ “หากคิมจองอึนกำลังมองหาช่องทางโจมตีแบบเซอร์ไพรส์ เราได้ให้พิกัดและเวลาที่เรือดำน้ำจะไปถึงที่นั่นแก่เขาเรียบร้อยแล้ว” 

เชิงสัญลักษณ์เท่านั้นหรือ 

นักวิเคราะห์มงว่า สหรัฐฯ ต้องการให้ความมั่นใจกับพันธมิตรที่สำคัญที่สุดขงตัวเองว่าจะมีสหรัฐฯ หนุนหลัง 

ที่ผ่านมาคิมจองอึนพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังขีปนาวุธที่สามารถติดหัวรบนิวเคลีนร์ของเกาหลีเหนือมาตลอด และยังทดสอบขีปนาวุธดังกล่าวถี่ๆ ในปี 2022 และในการกล่าวสุนทรพจน์ก่อนวันปีใหม่ยังประกาศว่าจะเพิ่มอาวุธนิวเคลียร์ของประเทศเป็นเท่าตัว โดยอ้างว่าเพื่อรับมือภัยคุกคามจากสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ 

การขุมขู่ของคิมจองอึนทำให้เกิดการเรียกร้องในเกาหลีใต้ให้เกาหลีใต้เปลี่ยนตัวเองเป็นประเทศมหาอำนาจด้านอาวุธนิวเคลียร์ แต่สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้มีการเพิ่มจำนวนอาวุธนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี ดังนั้นที่ผ่านมาสหรัฐฯ จึงพยายามให้ความมั่นใจกับพันธมิตรของตัวเองโดยการทำให้กองกำลังของตัวเองเข้าไปปรากฏในเกาหลีใต้มากขึ้น รวมทั้งการการส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ขึ้นบินเหนือน่านฟ้ารอบๆ เกาหลีใต้ 

คิมจุงซบ นักวิจัยอาวุโสจากศูนย์เพื่อการศึกษากลาโหมของสถาบันเซจงเผยว่า เรืดำน้ำเพียงเน้นย้ำความมั่นใจดังกล่าวและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้สหรัฐฯ “แน่นอนว่ามีอาวุธหลากหลายชนิด แต่ผมไม่คิดว่ามีความแตกต่างที่สำคัญในความจริงที่ว่าอาวุธเหล่านี้เป็นทรัพย์สินทางยุทธศาสตร์ที่ส่งสารของการตอบโต้ทางนิวเคลียร์ต่อเกาหลีเหนือโดยพื้นฐาน” 

ส่วนประเด็นเรื่องที่ทำให้เรือดำน้ำของสหรัฐฯ ตกอยู่ในความเสี่ยง นักวิเคราะห์บางคนมองว่า สถานการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อสงครามนิวเคลียร์จะเกิดขึ้นเท่านั้น ซึ่งหากถึงขั้นนั้นก็ถือว่าเรือดำน้ำล้มเหลวในการป้องปรามซึ่งเป็นเป้าหมายหลักแล้ว 

ดรูว์ ธอมป์สัน นักวิจัยอาวุโสจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์เผยว่า “เป้าหมายพื้นฐานของพวกเขาคือการยับยั้งและให้ความมั่นใจ อาวุธทางยุทธศาสตร์อย่างเรือดำน้ำติดตั้งขีปนาวุธระยะไกลและอาวุธที่ติดตั้งไม่ได้มีวัตถุประสงค์เพื่อการใช้งาน” 

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์