เวียดนามกำลังหายใจรดต้นคอ! นักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักที่เคยมาไทยแห่ไปเวียดนามแทน

29 มี.ค. 2568 - 03:00

  •  จากปี 2023 สู่ปี 2024 ตัวเลขนักท่องเที่ยวของเวียดนามพุ่งขึ้น 40% ขยับขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน เป็นรองเพียงมาเลเซีย และไทยเจ้าของแชมป์เท่านั้น

  • เวียดนามมีหลายปัจจัยเอื้อที่ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวสาย “ลักชูหรูหรา” ที่เคยมาเที่ยวภูเก็ตหรือเกาะสมุยของไทย

vietnam-is-the-fastest-growing-tourism-destination-in-southeast-asia-SPACEBAR-Hero.jpg

แน่นอนว่าหากเอ่ยถึงจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติในบรรดาประเทศในอาเซียน ไทยคือที่หนึ่ง นอกจากนี้กระแสจากซีรีส์เรื่อง The White Lotus ซีซัน 3 ยิ่งดันให้นักท่องเที่ยวสนใจประเทศไทยมากขึ้น (จากที่สนใจมากอยู่แล้ว) 

แต่ไทยก็อย่าชะล่าใจไป เพราะตอนนี้เวียดนามกำลังหายใจรดต้นคือเรา ในแง่ของการเติบโต ปี 2024 เวียดนามรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ 17.5 ล้านคน มากเป็นอันดับ 3 ในอาเซียน แซงหน้าสิงคโปร์ซึ่งมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้า 16.5 ล้านคนเพียงนิดเดียว เป็นรองเพียงมาเลเซีย (25 ล้านคน) และไทย (35 ล้านคน) เท่านั้น 

ตัวเลขเหล่านี้ทำให้เวียดนามขึ้นแท่นเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคในแง่ของอัตราการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวชี้วัดที่ยังคงติดตามต่อเนื่องมา 5 ปีหลังจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั้งโลกต้องชัตดาวน์ แสดงให้เห็นว่าธุรกิจการท่องเที่ยวแต่ละประเทศฟื้นตัวจากฐานปี 2019 ได้มากเพียงใด 

การท่องเที่ยวของเวียดนามฟื้นตัวขึ้นมา 98% แซงหน้าประเทศเพื่อนบ้านทุกประเทศ รวมทั้งไทย (87.5%) และสิงคโปร์ (86%) นอกจากนี้ ความนิยมของเวียดนามยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉพาะเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าแล้วเกือบ 4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้น 30.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ตามข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวแห่งชาติเวียดนาม 

จุดหมายปลายทางที่เติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค 

เวียดนามไม่ใช่แค่ไต่ระดับแต่กำลังก้าวกระโดด จากปี 2023 สู่ปี 2024 ตัวเลขนักท่องเที่ยวของเวียดนามพุ่งขึ้น 40% จาก 12.6 ล้านคนเป็น 17.5 ล้านคน เมื่อเทียบกับเพื่อนบ้าน 

  • ไทย เพิ่มขึ้น 30% จาก 27 ล้านคนเป็น 35 ล้านคน 
  • มาเลเซีย เพิ่มขึ้น 25% จาก 20 ล้านคนเป็น 25 ล้านคน  
  • สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 21% จาก 13.6 ล้านคนเป็น 16.5 ล้านคน 
  • อินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น 20% จาก 11.7 ล้านคนเป็น 14 ล้านคน 

การผงาดขึ้นมาของเวียดนามกำลังสั่นคลอนสิ่งต่างๆ และไม่ใช่แค่ตัวเลขเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าฉากการท่องเที่ยวของภูมิภาคมีการพัฒนาอย่างไรหลังการระบาดใหญ่ของโควิด-19

vietnam-is-the-fastest-growing-tourism-destination-in-southeast-asia-SPACEBAR-Photo01.jpg
Photo: ภาพถ่ายจากทางอากาศแสดงให้เห็นเรือนักท่องเที่ยวในอ่าวฮาลองเบย์ของจังหวัดกว๋างนิญของเวียดนาม Photo by Nhac NGUYEN / AFP

เบื้องหลังท่องเที่ยวเวียดนามบูม 

มีหลายปัจจัยที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมไปเที่ยวเวียดนามมากขึ้น 

  • เข้าถึงง่าย สายการบิน Vietnam Airlines เปิดเส้นทางบินตรงระหว่างสหรัฐฯ กับเวียดนาม จากซานฟรานซิสโกถึงโฮจิมินห์ซิตี้ครั้งแรกเมื่อปี 2021 นอกจากนี้ เส้นทางการบินใหม่และพันธมิตรสายการบินยังทำให้การเดินทางไปฮานอยหรือโฮจิมินห์ซิตี้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะจากตลาดใหญ่อย่างเกาหลีใต้และจีน 

  • นโยบายอิเล็กทรอนิกวีซ่า (e-visa) ปี 2023 รัฐบาลเวียดนามเข็น e-visa ออกมาเพื่ออำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวและอนุญาตให้อยู่ในเวียดนามได้ถึง 90 วัน จากเดิม 30 วัน รวมถึงการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวอีกหลายประเทศ อาทิ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น รัสเซีย เกาหลีใต้ และสเปน  

  • แบรนด์โรงแรมชั้นนำหลั่งไหลเข้า โรงแรมหรูหลายแห่งเพิ่งเปิดตัว อาทิ Regent Phu Quoc, Capella Hanoi และ JW Marriott Hotel & Suites Saigon ส่วน Ritz-Carlton Reserve และ Park Hyatt อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 

  • มิชลินไกด์ ร้านอาหารในเวียดนามถูกบบรจุเข้าไปอยู่ในมิชลินไกด์ประจำปี 2024 มากขึ้น ทำให้อาหารเวียดนามเป็นที่รู้จักในสายตาชาวโลกมากขึ้น 

ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้เวียดนามดึงดูดนักท่องเที่ยวสาย “ลักชูหรูหรา” ที่เคยมาเที่ยวภูเก็ตหรือเกาะสมุยของไทย หรือนักท่องเที่ยวที่กำลังมองหาทางเลือกแปลกใหม่ที่ไม่พลุกพล่านนอกเหนือจากญี่ปุ่นและสิงคโปร์มากขึ้นเรื่อยๆ  

ไมค์ เหงียน ผู้ก่อตั้งบริษทท่องเที่ยวสไตล์หรูหรา Ansova Travel ในโฮจิมินห์ซิตี้เผยกับ Bloomberg ว่า ปัจจัยทั้งหมดนี้ส่งผลให้ปี 2024 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติจองใช้บริการกับบริษัทของเขาเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า แซงหน้าช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19  

ไมค์คาดว่าปีนี้จะมียอดจองเพิ่มขึ้น 20-30% โดยบริษัท Ansova Travel ให้บริการนักท่องเที่ยวจากสหรัฐฯ เป็นหลัก แต่นับตั้งแต่ปี 2024 ครอบครัวชาวอินเดียที่ร่ำรวยเริ่มเดินทางท่องเที่ยวเวียดนามเช่นกัน โดยเฉพาะในฝูกว๊อกและฮาลอง บางคนเข้ามาเพื่อจัดงานแต่งงานที่หรูหรา เมื่อบวกกับกระบวนการขอวีซ่าที่ง่ายขึ้นและไฟลต์บินตรงแล้ว จึงทำให้นักท่องเที่ยวอินเดียมากกว่า 500,000 คนเดินทางเข้าเวียดนามในปี 2024 หรือเพิ่มขึ้น 297% จากช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด 

เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวจีนที่มักจะใช้จ่ายสูงซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของการเติบโตของการท่องเที่ยว ที่เริ่มหันมาเที่ยวเวียดนามแทนไทย เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยหลังเกิดกรณี หวังซิง นักแสดงชาวจีน ถูกลักพาตัวจากกรุงเทพฯ

vietnam-is-the-fastest-growing-tourism-destination-in-southeast-asia-SPACEBAR-Photo02.jpg
Photo: สะพานกระจกแบคลองในจังหวัดเซินลาของเวียดนาม Photo by Nhac NGUYEN / AFP

นอกเหนือจากนี้ ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าการเติบโตของเวียดนามจะลดลงเร็วๆ นี้ เวียดนามวางแผนว่า ภายในสิ้นปี 2025 จะทุบสถิติจำนวนนักท่องเที่ยวเดิมด้วยตัวเลขใหม่ที่ 23 ล้านคน และคาดว่า ท่าอากาศยานนานาชาติลองถั่ญจะเปิดรับนักท่องเที่ยวเที่ยวบินแรกสู่โฮจิมินห์ภายในเดือนมีนาคมปีหน้า ทำให้เวียดนามมีศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 25 ล้านคน  

ส่วนความหวังใหญ่ระยะยาวของเวียดนามคือ  ภายในทศวรรษหน้าเวียดนามตั้งเป้าที่จะเอาชนะมาเลเซียขึ้นมาเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไปมากที่สุดในอาเซียน โดยมีไทยเป็นคู่แข่งเพียงรายเดียวที่เหลืออยู่ 

Photo by Linh PHAM / AFP

เรื่องเด่นประจำสัปดาห์