ประเด็นระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 ถูกพูดถึงอีกครั้งหลังจากนักข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนเจ้าของรางวัลพูลิตเซอร์ชาวอเมริกันเปิดโปงว่า ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ เป็นคนสั่งปฏิบัติการลับให้นาวิกโยธินทีมพิเศษของสหรัฐฯ วางระเบิดใต้น้ำท่อส่งก๊าซของรัสเซียเมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว หลังจากรัสเซียโจมตียูเครน
ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมดำเนินการโดยบริษัท Nord Stream AG ซึ่งมีบริษัท Gazprom ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สำหรับส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังเยอรมนีในทะเลบอลติก โดยท่อนอร์ดสตรีม 1 เริ่มช้งานตั้งแต่ปี 2011 ส่วนนอร์ดสตรีม 2 สร้างเสร็จเมื่อปี 2021 แต่ยังไม่ทันได้เปิดใช้งานก็ถูกระเบิดพังเสียก่อนเมื่อวันที่ 26 กันยายนปีที่แล้ว
ขณะนั้นไม่มีใครอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว แม้ว่าการสืบสวนสอบสวนจากทั้งทางการสวีเดนและเดนมาร์กจะสรุปตรงกันว่ามีคนจงใจก่อกวน
นักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างผลกระทบระยะสั้นไม่มาก แต่ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์นั้นมีมหาศาล
ซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวชาวอเมริกันเผยแพร่บทความที่สร้างความสั่นสะเทือนนี้ลงใน Substack โดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่ง “ที่มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับการวางแผนปฏิบัติการ”
ในรายงานความยาวกว่า 5,000 คำ เฮิร์ชอ้างว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำได้รับการฝึกฝนจากศูนย์ดำน้ำและเก็บกู้ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในรัฐฟลอริดาเป็นคนลงมือวางระเบิด ภายใต้ปฏิบัติการ “Black Op” โดยใช้การซ้อมรบ BALTOPS22 นอกชายฝั่งเชยอรมนีในทะเลบอลติกของ 16 ประเทศสมาชิกนาโตในเดือนมิถุนายน 2022 บังหน้า
ระเบิดซีโฟร์ที่ติดเซ็นเซอร์ไว้เพื่อให้จุดระเบิดจากระยะไกลในภายหลัง ถูกนำไปติดตั้งไว้กับท่อส่งก๊าซ 3 ท่อในเดือนมิถุนายน 2022 ก่อนจะถูกจุดระเบิดในอีก 3 เดือนต่อมาโดยการใช้ทุ่นโซนาร์ที่ส่งสัญญาณที่ปล่อยลงมาจากเครื่องบินไปจุดระเบิด
ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีไบเดนเคยพูดไว้ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีว่า สหรัฐฯ จะทำให้นอร์ดสตรีมยุติลงหากรัสเซียบุกยูเครน “ถ้ารัสเซียบุก...ก็จะไม่มีนอร์สตรีม 2 อีกต่อไป เราจะทำให้มันสิ้นสุดลง” และเมื่อถูดถามว่าจะทำอย่างไร ไบเดนตอบแบบกำกวมว่า “ผมสัญญาว่าคุณจะทำมันได้”
การแถลงข่าวครั้งนั้นจัดขึ้นในขณะที่รัสเซียกำลังระดมพลทหารหลายหมื่นนายตามนายแดนที่ติดกับยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมการบุกจู่โจมซึ่งเริ่มเปิดฉากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผบชื่อของเฮิร์ชเผยว่า เพราะคำขู่ของประธานาธิบดี การทำลายท่อส่งก๊าซ “ไม่ถือเป็นทางเลือกลับอีกต่อไป เพราะประธานาธิบดีเพิ่งประกาศว่าเรารู้วิธีที่จะทำ”
“แผนระเบิดนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ถูกปรับลดทันทีจากปฏิบัติการลับที่ต้องแจ้งต่อสภาคองเกรสมาสู่ปฏิบัติการข่าวกรองที่ถือเป็นความลับสุดยอดโดยการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯ” เฮิร์ชระบุ และจากแหล่งข่าวของเฮิร์ช “ไม่มีข้อกำหนดตามกฎหมายให้ต้องรายงานปฏิบัติการนี้ต่อสภาคองเกรส ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือแค่ลงมือทำเท่านั้น”
มีรายงานว่าการวางแผนระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเริ่มขึ้นท่ามกลางการระดมพลของกองทัพรัสเซียและท่ามกลางความกังวลภายในทำเนียบขาวว่าท่องส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 จะเปิดทางให้รัสเซียใช้การส่งออกพลังงานเป็นอาวุธกับยุโรป
เฮิร์ชระบุว่า เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้เรียกประชุมลับในเดือนธันวาคม 2021 โดยมีเจ้าหน้าที่ของคณะเสนิธิการร่วม ซีไอเอ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลังเข้าร่วม การหารือกันมุ่งเน้นไปที่การเตรียมการเพื่อตอบโต้การรุกรายยูเครนของรัสเซียที่กำลังจะเกิดขึ้น
เฮิร์ชระบุโดยอ้างแหล่งข่าวว่า “สิ่งที่ชัดเจนสำหรับผู้เข้าร่วมคือ ซัลลิแวนต้องการให้การหารือได้แผนการในการทำลายท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมทั้ง 2 โครงการ และเขากำลังทำตามความปรารถนาของประธานาธิบดี”
รายงานของเฮิรชอ้างว่า มีการเสนอหลายไอเดียก่อนที่สุดท้ายละเลือกภารกิจดำน้ำ แผนอื่นๆ ได้แก่ การใช่เรือดำน้ำโจมตีท่อ หรือใช้อากาศยานทิ้งระเบิดจุดชนวน เป็นต้น
ว่ากันว่า วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการซีไอเอได้มอบอำนาจให้ ‘คณะทำงาน’ ร่างแผนดำน้ำลึกเพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยเฮิร์ชเปรียบเทียบความคล้ายคลึงกันของแผนนี้กับปฏิบัติการสอดแนมใต้ทะเลของสหรัฐในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งดักฟังสายเคเบิงสื่อสารใต้น้ำที่กองทัพเรือรัสเซียใช้
เฮิร์ชระบุว่า เมื่อช่วงต้นปี 2022 กลุ่มซีไอเอบอกกับหน่วยเฉพาะกิจของซัลลิแวนว่า “เรามีวิธีในการระเบิดท่อส่งก๊าซ”
ผู้วางแผนตัดสินใจว่านอร์เวย์จะเป็นฐานปฏิบัติการที่ดี เพราะตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวของเฮิร์ช นอร์เวย์ “เกลียดรัสเซียและกองทัพเรือนอร์เวย์เต็มไปด้วยลูกเรือที่ยอดเยี่ยม และมีนักประดาน้ำที่มีประสบการณ์มาหลายชั่วอายุคนในการสำรวจน้ำมันและก๊าซใต้ทะเลลึก”
รายงานของเฮิร์ชอ้างอีกว่า เดือนมีนาคม สมาชิกของทีมวางแผนของสหรัฐฯ บินไปนอร์เวย์เพื่อหารือกับหน่วยปฏิบัติการลับนอร์เวย์และกองทัพเรือ พวกเขาตัดสินใจวางระเบิดใกล้กับเกาะบอร์นโฮล์มของเดนมาร์ก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของนอร์เวย์ระบุเมื่อวันพุธ (8 ก.พ.) ว่า “ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่จริง”
เฮิร์ชเล่าว่า การวางแผนของสหรัฐฯ ใช้เวลาถึง 9 เดือน “ส่วนใหญ่แล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะทำภารกิจหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จได้อย่างไรโดยที่ไม่มีเงื่อนงำที่ชัดเจนว่าใครต้องรับผิดชอบ”
เฮิร์ชระบุว่า แผนเริ่มแรกคือการวางระเบิดที่ตั้งเวลาไว้ 48 ชั่วโมง แต่ภายหลังทำเนียบขาวขอให้ใช้วิธีที่สามารถควบคุมเวลาการระเบิดได้มากขึ้น จึงเกิดไอเดียการใช้ทุ่นขึ้นมา โดยทุ่นนี้ถูกปล่อยลงมาจากเครื่องบินสอดแนม P8 ของกองทัพเรือนอร์เวย์เมื่อวันที่ 26 กันยายน ระหว่างการบินปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และระเบิดถูกจุดชนวนในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
“สัญญาณกระจายไปตามใต้ทะเล เริ่มจากนอร์ดสตรีม 2 แล้วต่อด้วยนอร์ดสตรีม 1 ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาระเบิดซีโฟร์พลังทำลายล้างสูงก็ถูกจุดระเบิด และท่อส่งก๊าซ 3 จาก 4 ท่อก็ใช้การไม่ได้อีก ภายในไม่กี่นาทีก๊าวมีเทนที่ยังเหลือตกค้างอยู่ในท่อก็กระจายไปตามผิวน้ำ แล้วโลกก็ได้รู้ว่าบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น”
“นี่ไม่ใช่แค่การมีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐฯ ในการระเบิดของท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเท่านั้น ตอนนี้นูแลนด์ได้ให้การรับสารภาพแล้ว” ลาฟรอฟให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย
เมื่อวันที่ 26 มกราคม นูแลนด์เผยว่า “ฉันรู้สึก และฉันคิดว่าฝ่ายบริหาร (ของไบเดน) รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รู้ว่าตอนนี้นอร์ดสตรีม 2 เป็น... ก้อนโลหะก้อนใหญ่ที่ก้นทะเลไปแล้ว”
ล่าสุดวานนี้ (8 ก.พ.) มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศขงรัสเซียเผยว่า สหรัฐฯ ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับบทบาทของตัวเองในเหตุระเบิดหลังรายงานของเฮิร์ชถูกเผยแพร่ออกมา ทั้งยังเรียกร้องให้ทำเนียบขาวแสดงความคิดเห็น “ต่อข้อเท็จจริงที่ถูกนำเสนอ”
ทั้งนี้ เฮิร์ชเป็นอดีตนักข่าวของสำนักข่าว New York Times และ New Yorker ที่คว้ารางวัลมากมายจากการนำเสนอข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับการสังหารประชาชน 500 คนในสงครามเวียดนาม และกรณีฉาวการทรมานนักโทษในเรือนจำอาบูกาอิบเมื่อปี 2004 หลังสหรัฐฯ บุกอิรัก
ด้านโฆษกซีไอเอเผยไปในยาวทางเดียวกับทำเนียบขาวว่า รายงานของเฮิร์ช “เป็นเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิง”
ท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมดำเนินการโดยบริษัท Nord Stream AG ซึ่งมีบริษัท Gazprom ยักษ์ใหญ่ด้านพลังงานของรัสเซียเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ สำหรับส่งก๊าซจากรัสเซียไปยังเยอรมนีในทะเลบอลติก โดยท่อนอร์ดสตรีม 1 เริ่มช้งานตั้งแต่ปี 2011 ส่วนนอร์ดสตรีม 2 สร้างเสร็จเมื่อปี 2021 แต่ยังไม่ทันได้เปิดใช้งานก็ถูกระเบิดพังเสียก่อนเมื่อวันที่ 26 กันยายนปีที่แล้ว
ขณะนั้นไม่มีใครอ้างว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดดังกล่าว แม้ว่าการสืบสวนสอบสวนจากทั้งทางการสวีเดนและเดนมาร์กจะสรุปตรงกันว่ามีคนจงใจก่อกวน
นักวิเคราะห์มองว่าเหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างผลกระทบระยะสั้นไม่มาก แต่ผลกระทบทางภูมิรัฐศาสตร์นั้นมีมหาศาล
ซีมัวร์ เฮิร์ช นักข่าวชาวอเมริกันเผยแพร่บทความที่สร้างความสั่นสะเทือนนี้ลงใน Substack โดยอ้างแหล่งข่าวรายหนึ่ง “ที่มีความรู้โดยตรงเกี่ยวกับการวางแผนปฏิบัติการ”
ในรายงานความยาวกว่า 5,000 คำ เฮิร์ชอ้างว่า ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำได้รับการฝึกฝนจากศูนย์ดำน้ำและเก็บกู้ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในรัฐฟลอริดาเป็นคนลงมือวางระเบิด ภายใต้ปฏิบัติการ “Black Op” โดยใช้การซ้อมรบ BALTOPS22 นอกชายฝั่งเชยอรมนีในทะเลบอลติกของ 16 ประเทศสมาชิกนาโตในเดือนมิถุนายน 2022 บังหน้า
ระเบิดซีโฟร์ที่ติดเซ็นเซอร์ไว้เพื่อให้จุดระเบิดจากระยะไกลในภายหลัง ถูกนำไปติดตั้งไว้กับท่อส่งก๊าซ 3 ท่อในเดือนมิถุนายน 2022 ก่อนจะถูกจุดระเบิดในอีก 3 เดือนต่อมาโดยการใช้ทุ่นโซนาร์ที่ส่งสัญญาณที่ปล่อยลงมาจากเครื่องบินไปจุดระเบิด
ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ประธานาธิบดีไบเดนเคยพูดไว้ระหว่างแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรี โอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนีว่า สหรัฐฯ จะทำให้นอร์ดสตรีมยุติลงหากรัสเซียบุกยูเครน “ถ้ารัสเซียบุก...ก็จะไม่มีนอร์สตรีม 2 อีกต่อไป เราจะทำให้มันสิ้นสุดลง” และเมื่อถูดถามว่าจะทำอย่างไร ไบเดนตอบแบบกำกวมว่า “ผมสัญญาว่าคุณจะทำมันได้”
การแถลงข่าวครั้งนั้นจัดขึ้นในขณะที่รัสเซียกำลังระดมพลทหารหลายหมื่นนายตามนายแดนที่ติดกับยูเครน เพื่อเตรียมพร้อมการบุกจู่โจมซึ่งเริ่มเปิดฉากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์
แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผบชื่อของเฮิร์ชเผยว่า เพราะคำขู่ของประธานาธิบดี การทำลายท่อส่งก๊าซ “ไม่ถือเป็นทางเลือกลับอีกต่อไป เพราะประธานาธิบดีเพิ่งประกาศว่าเรารู้วิธีที่จะทำ”
“แผนระเบิดนอร์ดสตรีม 1 และ 2 ถูกปรับลดทันทีจากปฏิบัติการลับที่ต้องแจ้งต่อสภาคองเกรสมาสู่ปฏิบัติการข่าวกรองที่ถือเป็นความลับสุดยอดโดยการสนับสนุนทางทหารของสหรัฐฯ” เฮิร์ชระบุ และจากแหล่งข่าวของเฮิร์ช “ไม่มีข้อกำหนดตามกฎหมายให้ต้องรายงานปฏิบัติการนี้ต่อสภาคองเกรส ทั้งหมดที่พวกเขาต้องทำคือแค่ลงมือทำเท่านั้น”
มีรายงานว่าการวางแผนระเบิดท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเริ่มขึ้นท่ามกลางการระดมพลของกองทัพรัสเซียและท่ามกลางความกังวลภายในทำเนียบขาวว่าท่องส่งก๊าซนอร์ดสตรีม 2 จะเปิดทางให้รัสเซียใช้การส่งออกพลังงานเป็นอาวุธกับยุโรป
เฮิร์ชระบุว่า เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเป็นผู้เรียกประชุมลับในเดือนธันวาคม 2021 โดยมีเจ้าหน้าที่ของคณะเสนิธิการร่วม ซีไอเอ กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงการคลังเข้าร่วม การหารือกันมุ่งเน้นไปที่การเตรียมการเพื่อตอบโต้การรุกรายยูเครนของรัสเซียที่กำลังจะเกิดขึ้น
เฮิร์ชระบุโดยอ้างแหล่งข่าวว่า “สิ่งที่ชัดเจนสำหรับผู้เข้าร่วมคือ ซัลลิแวนต้องการให้การหารือได้แผนการในการทำลายท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมทั้ง 2 โครงการ และเขากำลังทำตามความปรารถนาของประธานาธิบดี”
รายงานของเฮิรชอ้างว่า มีการเสนอหลายไอเดียก่อนที่สุดท้ายละเลือกภารกิจดำน้ำ แผนอื่นๆ ได้แก่ การใช่เรือดำน้ำโจมตีท่อ หรือใช้อากาศยานทิ้งระเบิดจุดชนวน เป็นต้น
ว่ากันว่า วิลเลียม เบิร์นส ผู้อำนวยการซีไอเอได้มอบอำนาจให้ ‘คณะทำงาน’ ร่างแผนดำน้ำลึกเพื่อปฏิบัติภารกิจ โดยเฮิร์ชเปรียบเทียบความคล้ายคลึงกันของแผนนี้กับปฏิบัติการสอดแนมใต้ทะเลของสหรัฐในช่วงทศวรรษ 1970 ซึ่งดักฟังสายเคเบิงสื่อสารใต้น้ำที่กองทัพเรือรัสเซียใช้
เฮิร์ชระบุว่า เมื่อช่วงต้นปี 2022 กลุ่มซีไอเอบอกกับหน่วยเฉพาะกิจของซัลลิแวนว่า “เรามีวิธีในการระเบิดท่อส่งก๊าซ”
ผู้วางแผนตัดสินใจว่านอร์เวย์จะเป็นฐานปฏิบัติการที่ดี เพราะตามคำบอกเล่าของแหล่งข่าวของเฮิร์ช นอร์เวย์ “เกลียดรัสเซียและกองทัพเรือนอร์เวย์เต็มไปด้วยลูกเรือที่ยอดเยี่ยม และมีนักประดาน้ำที่มีประสบการณ์มาหลายชั่วอายุคนในการสำรวจน้ำมันและก๊าซใต้ทะเลลึก”
รายงานของเฮิร์ชอ้างอีกว่า เดือนมีนาคม สมาชิกของทีมวางแผนของสหรัฐฯ บินไปนอร์เวย์เพื่อหารือกับหน่วยปฏิบัติการลับนอร์เวย์และกองทัพเรือ พวกเขาตัดสินใจวางระเบิดใกล้กับเกาะบอร์นโฮล์มของเดนมาร์ก ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศของนอร์เวย์ระบุเมื่อวันพุธ (8 ก.พ.) ว่า “ข้อกล่าวหาเหล่านี้ไม่จริง”
เฮิร์ชเล่าว่า การวางแผนของสหรัฐฯ ใช้เวลาถึง 9 เดือน “ส่วนใหญ่แล้วปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าจะทำภารกิจหรือไม่ แต่อยู่ที่ว่าจะทำภารกิจให้สำเร็จได้อย่างไรโดยที่ไม่มีเงื่อนงำที่ชัดเจนว่าใครต้องรับผิดชอบ”
เฮิร์ชระบุว่า แผนเริ่มแรกคือการวางระเบิดที่ตั้งเวลาไว้ 48 ชั่วโมง แต่ภายหลังทำเนียบขาวขอให้ใช้วิธีที่สามารถควบคุมเวลาการระเบิดได้มากขึ้น จึงเกิดไอเดียการใช้ทุ่นขึ้นมา โดยทุ่นนี้ถูกปล่อยลงมาจากเครื่องบินสอดแนม P8 ของกองทัพเรือนอร์เวย์เมื่อวันที่ 26 กันยายน ระหว่างการบินปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และระเบิดถูกจุดชนวนในเวลาไม่กี่ชั่วโมงต่อมา
“สัญญาณกระจายไปตามใต้ทะเล เริ่มจากนอร์ดสตรีม 2 แล้วต่อด้วยนอร์ดสตรีม 1 ไม่กี่ชั่วโมงต่อมาระเบิดซีโฟร์พลังทำลายล้างสูงก็ถูกจุดระเบิด และท่อส่งก๊าซ 3 จาก 4 ท่อก็ใช้การไม่ได้อีก ภายในไม่กี่นาทีก๊าวมีเทนที่ยังเหลือตกค้างอยู่ในท่อก็กระจายไปตามผิวน้ำ แล้วโลกก็ได้รู้ว่าบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น”
รัสเซียว่าไง?
ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซียกล่าวหาว่าสหรัฐฯ เกี่ยวข้องโดยตรงกับการระเบิด โดยอ้างถึงแถลงการเมื่อเร็วๆ นี้ของ วิกตอเรีย นูแลนด์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยกิจการการเมือง ซึ่งยกย่องการทำลายท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม ลาฟรอฟบอกว่าคำพูดของเธอเป็น ‘การยอมรับ’“นี่ไม่ใช่แค่การมีส่วนร่วมโดยตรงของสหรัฐฯ ในการระเบิดของท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีมเท่านั้น ตอนนี้นูแลนด์ได้ให้การรับสารภาพแล้ว” ลาฟรอฟให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ของรัสเซีย
เมื่อวันที่ 26 มกราคม นูแลนด์เผยว่า “ฉันรู้สึก และฉันคิดว่าฝ่ายบริหาร (ของไบเดน) รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่รู้ว่าตอนนี้นอร์ดสตรีม 2 เป็น... ก้อนโลหะก้อนใหญ่ที่ก้นทะเลไปแล้ว”
ล่าสุดวานนี้ (8 ก.พ.) มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศขงรัสเซียเผยว่า สหรัฐฯ ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับบทบาทของตัวเองในเหตุระเบิดหลังรายงานของเฮิร์ชถูกเผยแพร่ออกมา ทั้งยังเรียกร้องให้ทำเนียบขาวแสดงความคิดเห็น “ต่อข้อเท็จจริงที่ถูกนำเสนอ”
ทั้งนี้ เฮิร์ชเป็นอดีตนักข่าวของสำนักข่าว New York Times และ New Yorker ที่คว้ารางวัลมากมายจากการนำเสนอข่าวเชิงสืบสวนสอบสวน รวมทั้งข่าวเกี่ยวกับการสังหารประชาชน 500 คนในสงครามเวียดนาม และกรณีฉาวการทรมานนักโทษในเรือนจำอาบูกาอิบเมื่อปี 2004 หลังสหรัฐฯ บุกอิรัก
สหรัฐฯ ว่าไง?
เอดรียน วัตสัน โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ เผยถึงรายงานของเฮิร์ชว่า “นี่คือเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิงและเป็นนิยายดีๆ นี่เอง”ด้านโฆษกซีไอเอเผยไปในยาวทางเดียวกับทำเนียบขาวว่า รายงานของเฮิร์ช “เป็นเรื่องเท็จโดยสิ้นเชิง”