สมเด็จพระราชินีนาถมาร์เกรเธอที่ 2 ทำสิ่งที่ทำให้ผู้คนงุนงงตกตะลึงตั้งแต่การตัดสินใจสละราชบัลลังก์ ส่งไม้ส่งต่อให้ ‘รัชทายาท’ ผู้ที่ชื่นชอบดนตรีร็อคและพูดได้ 4 ภาษาที่ไม่ได้เตรียมตัวว่าวันหนึ่งจะต้องเข้ารับตำแหน่ง ‘กษัตริย์’
หลังจากสละราชสมบัติครั้งประวัติศาสตร์ พระราชโอรสของเธอได้ขึ้นครองบัลลังก์เดนมาร์กในฐานะ กษัตริย์เฟรเดอริกที่ 10 และวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับกษัตริย์องค์นี้กัน!
-เจ้าชายสายปาร์ตี้-
คิงเฟรเดอริกที่ 10 ในวัย 55 ปี เข้าพิธีอภิเษกสมรสและเป็นคุณพ่อลูก 4 พระองค์เป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมที่พูดได้ 4 ภาษา ชื่นชอบดนตรีร็อคเป็นชีวิตจิตใจ และครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามว่าเป็น ‘เจ้าชายสายปาร์ตี้’

สมัยวัยเยาว์ในช่วงทศวรรษที่ 1990 คิงเฟรเดอริกเริ่มมีชื่อเสียงจากการเป็น เจ้าชายแห่งการปาร์ตี้ ว่ากันว่าพระองค์เติบโตเต็มที่ในช่วงมหาวิทยาลัย และเข้าเรียนในสาขารัฐศาสตร์ นอกจากนี้ยังได้ใช้เวลาในการศึกษาในสหรัฐฯ ช่วงปี 1992 – 1993 ด้วย
การศึกษาด้านทหารของพระองค์เริ่มต้นในปี 1986 ในกองทหารรักษาพระองค์ของราชินี กระทั่งในปี 1986 พระองค์ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้บัญชาการทหารเรือและผู้พันในกองทัพบกและกองทัพอากาศ
-เตรียมตัวเป็นกษัตริย์-
มารี รอนเด ผู้สื่อข่าวราชวงศ์ของสถานีโทรทัศน์ TV2 ของเดนมาร์ก กล่าวว่า มกุฎราชกุมารในขณะนั้นไม่ได้ ‘เตรียมพร้อม’ สำหรับบทบาทในอนาคตของเขาในฐานะพระมหากษัตริย์เสมอไป
เธอบอกกับสกายนิวส์ว่า เขาพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเองว่าตอนที่เขาอายุ 18 ปี เขาไม่ได้เตรียมพร้อมเลยสำหรับสิ่งที่มาถึงเขา ณ จุดนั้น
“เขาใช้เวลามากมายในการเตรียมตัว เหมือนการทำความคุ้นเคยกับความจริงที่ว่านี่คืองานในชีวิตของเขา และเขาก็ทำงานหนักมากกับเรื่องนั้น” เธอกล่าว

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ คิงเฟรเดอริกทรงรับหน้าที่ต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่สมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอทรงประชวรหนักเมื่อไม่นานมานี้ คิงเฟรเดอริกบอกว่าเขาเป็นเหมือน ‘ผู้พิทักษ์’ ของแม่เขา
รอนเดกล่าวว่า คิงเฟรเดอริกสำเร็จการศึกษาทางทหารมานานแล้วและชื่นชอบดนตรีร็อค พระองค์ไปคอนเสิร์ตและงานเทศกาล รวมถึงสนใจกีฬามากมาย ดังนั้นพระองค์จึงแตกต่างไปจากพระมารดามาก
-ครอบครัว-
กษัตริย์เฟรเดอริกเป็นพระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอและเจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก ซึ่งสิ้นพระชนม์ในปี 2018 กษัตริย์ฟรเดอริกมีเจ้าชายโจอาคิมแห่งเดนมาร์กเป็นพระอนุชา ซึ่งมีอายุน้อยกว่าพระองค์หนึ่งปี
ในปี 2022 สมเด็จพระราชินีมาร์เกรเธอทรงถอนยศพระราชโอรสทั้ง 4 ของเจ้าชายโจอาคิม รวมถึงตัวเจ้าชายโจอาคิมด้วยโดยระบุว่าเป็น ความจำเป็นของสถาบันกษัตริย์ในอนาคต ทว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อลูกๆ ของเจ้าชายเฟรเดอริก ซึ่งทุกคนยังคงรักษาตำแหน่งของตัวเองไว้ และไม่ส่งผลกระทบต่อสายการสืบทอดด้วย

คิงเฟรเดอริกได้พบกับแมรี ที่เกิดในออสเตรเลีย และทำงานสายโฆษณา ทั้งคู่พบรักกันและเข้าพิธีอภิเษกสมรส ในปี 2004 และมีโอรสธิดาทั้งหมด 4 พระองค์ ได้แก่ เจ้าชายคริสเตียน วัย 18 ปี เจ้าหญิงอิซาเบลลา วัย 16 ปี และฝาแฝด เจ้าชายวินเซนต์ และเจ้าหญิงโจเซฟีน วัย 12 ปี
รอนเดเชื่อว่าแมรีจะเป็นราชินีที่แข็งแกร่งมาก เนื่องจากเป็นที่ชัดเจนตลอดหลายปีว่าเธอในฐานะภรรยาให้การสนับสนุนคิงเฟรเดอริกมาตลอด และอยู่เคียงข้างกษัตริย์องค์นี้ เช่นเดียวกับสมเด็จพระราชินีคามิลลา กับบทบาทที่เธอมีต่อกษัตริย์ชาร์ลส์
เมื่อพูดถึงเจ้าชายคริสเตียน ลูกชายคนโต ยังไม่ชัดเจนว่าบทบาทของเขาจะเปลี่ยนไปอย่างไรเมื่อเขาขึ้นเป็นมกุฎราชกุมาร
รอนเดกล่าวเสริมว่า ฉันรู้สึกตื่นเต้นมากกับบทบาทของเจ้าชายคริสเตียน เพราะราชวงศ์บอกว่าเขาจะไม่ได้มีบทบาทอย่างเป็นทางการจนกว่าเขาจะอายุ 21 ปี เพราะต้องการให้เขาให้ความสำคัญกับการศึกษาและตัวเขาเองก็ยังเด็กอยู่