ประเทศไทยขึ้นชื่อในเรื่องของ ‘อุบัติเหตุบนท้องถนน’ ค่อนข้างบ่อยเลยทีเดียว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลไม่ต้องพูดถึง ตัวเลขเพิ่มขึ้นเกือบทุกปีและต่ำกว่าสถิติเดิมแค่ในบางปีเท่านั้น จากรายงาน ‘การเสียชีวิตบนท้องถนน’ (Road deaths) ปี 2024 พบว่า ไทยอยู่อันดับ 17 จากทั้งหมด 181 ประเทศ และอยู่อันดับ 1 ของอาเซียน มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งหมดคิดเป็น 32.2 รายต่อประชากร 100,000 คน หรือ 22,428 ราย ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ไม่น่าอภิรมย์เอาเสียเลย

แต่สถิตินี้ไม่ใช่สำหรับ ‘สวีเดน’ หนึ่งในประเทศที่ขึ้นชื่อว่า ‘ถนนปลอดภัยที่สุดในโลก’ ถึงขนาดมีคำกล่าวว่า “ไม่มีถนนใดปลอดภัยเท่าที่สวีเดน” ในปี 2022 สวีเดนได้ชื่อว่ามี ‘ถนนที่ปลอดภัยที่สุดในโลก’ ตัวเลขผู้เสียชีวิตบนท้องถนนอยู่ที่ 21 รายต่อประชากร 1 ล้านคน ขณะที่ในปี 2024 ตัวเลขดังกล่าวคิดเป็น 3.1 รายต่อประชากร 1 แสนคน
แล้วเคล็ดลับของสวีเดนคืออะไร? รัฐบาลสวีเดนมีมาตรการอะไรทำไมถึงไม่ค่อยมีอุบัติเหตุบนท้องถนน?
‘Vision Zero’ ไม่ควรมีใครต้องเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน
นี่คือนโยบายรัฐบาลที่มุ่งลดจำนวนผู้เสียชีวิตและการบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุบนท้องถนน พร้อมทั้งเพิ่มความปลอดภัย และการเดินทางที่เท่าเทียมกันสำหรับทุกคน ถูกนำมาใช้ครั้งแรกในปี 1997
อธิบายให้เข้าใจง่ายๆ Vision Zero เป็นนโยบายที่มุ่งเน้นการออกแบบถนนซึ่งจะคำนึงถึงข้อผิดพลาดของผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นหลัก เช่น :
- ขยายทางเท้าที่กว้างขึ้น
- สร้างเลนจักรยานแยกต่างหาก
- เพิ่มเขตถนนคนเดินในใจกลางเมือง
- เพิ่มทางม้าลายที่ปลอดภัยกว่า 12,600 แห่ง ซึ่งรวมถึงทางม้าลายที่มีไฟกระพริบ และสะพานลอย
- สร้างเลนถนน 2+1 (ถนน 2 เลนสำหรับทิศทางหนึ่ง และถนน 1 เลนเป็นอีกทิศทางหนึ่ง เพื่อให้รถสามารถแซงกันได้อย่างปลอดภัย
- สร้างวงเวียนเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยลดจำนวนอุบัติเหตุ เนื่องจากสำนักงานขนส่งของสวีเดนยืนยันแล้วว่า หากมีวงเวียนบนถนนที่เพิ่มขึ้นนั้นช่วยลดอุบัติเหตุลงอย่างน่าตกตะลึงถึง 40% ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน เป็นต้น
หลังจากสวีเดนำริเริ่มใช้นโยบายดังกล่าวก็พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนอยู่ที่ 7 รายต่อประชากร 100,000 คนในช่วงเวลานั้น ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก แต่ถึงกระนั้นเพราะการจราจรที่หนาแน่นขึ้นกลับทำให้แผน Vision Zero ยังไม่ลดลงตามเป้าที่ตั้งไว้ แม้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จำนวนผู้เสียชีวิตจะลดลงอย่างต่อเนื่องก็ตาม
อย่างไรก็ดี สถิติยังแสดงให้เห็นว่าสวีเดนได้ก้าวไปในระดับหนึ่งในการบรรลุเป้าหมายของ Vision Zero อีกทั้งถนนในสวีเดนก็เป็นหนึ่งในถนนที่ปลอดภัยที่สุดในยุโรปด้วย ทั้งนี้พบว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนในสวีเดนลดลงครึ่งหนึ่งตั้งแต่ปี 2000 นอกจากนี้ หลายประเทศในกลุ่มนอร์ดิก รวมถึงเมื่องต่างๆ ในสหรัฐฯ ก็นำแผน Vision Zero มาใช้ด้วย
ชาวสวีเดนค่อนข้างปฏิบัติตามกฏอย่าง ‘เคร่งครัด’

ชาวสวีเดนขึ้นชื่อในเรื่องของความมุ่งมั่นต่อกฎเกณฑ์ และแน่นอนว่าเรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนก็ไม่ต่างกัน การปฏิบัติตามขีดจำกัดความเร็วอย่างเคร่งครัดนั้นถือเป็นเรื่องปกติของคนที่นี่ ประกอบกับที่สวีเดนมีกล้องจับความเร็วที่มีประสิทธิภาพซึ่งจะช่วยจับผู้ที่ขับรถเร็วเกินกำหนด นั่นจึงทำให้ผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วไม่เกินกำหนดเพราะไม่มีใครอยากโดนใบสั่งฐานขับรถเร็วเกินกำหนด
ไม่ใช่แค่เรื่องของขีดจำกัดความเร็วเท่านั้น แต่การแซงในสวีเดนจะแซงได้ก็ต่อเมื่อเลนที่จะแซงโล่งและปลอดภัยแน่นอนเท่านั้น ไม่ใช่นึกอยากจะแซงก็แซง ซึ่งพฤติกรรมนี้ของผู้ขับขี่ชาวสวีเดนทำให้ลดความเสี่ยงการชนประสานงากัน
ชาวสวีเดนจะไม่ค่อยเร่งรีบเวลาใช้รถใช้ถนน ต่างจากบางประเทศที่ขับรถจ่อท้ายกันอย่างเร่งรีบจนกลายเป็นเรื่องปกติ นั่นก็เพราะว่าผู้ขับขี่รถในสวีเดนได้รับการอบรมให้รู้ถึงประโยชน์ของการรักษาระยะห่างที่เหมาะสมจากรถคันข้างหน้าอยู่เสมอ เช่น ระยะเบรกที่ยาวขึ้นอาจช่วยลดโอกาสการชนท้ายได้อย่างมาก
และนี่ก็คือกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของสวีเดนในด้านความปลอดภัยบนท้องถนน สมกับที่มีคำกล่าวว่า “ไม่มีถนนใดปลอดภัยเท่าที่สวีเดน”