ใครๆ ก็อยากถูกลอตเตอรี่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ แล้วลองนึกภาพคนที่ถูกลอตเตอรี่ที่ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว...แต่ถูกตั้ง 2 ครั้งดูสิ คงเข้าข่ายคำกล่าวที่ว่า ‘บุญหล่นทับ’ ทีเดียว
และมันเกิดขึ้นจริงๆ กับสาวอเมริกันซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ทำงานในร้านสะดวกซื้อ ทว่าเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของเธอกลับไม่มีตอนจบอย่างที่คาดไว้
เรื่องมีอยู่ว่า…
ย้อนกลับไปในปี 1985 เอเวลิน อดัมส์ ถูกลอตเตอรี่มูลค่า 3.9 ล้านดอลลาร์ (ราว 133 ล้านบาท) แต่ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ ในอีก 4 เดือนต่อมาเธอก็ได้แจ็กพอตเพิ่มอีก 1.4 ล้านดอลลาร์ (ราว 47 ล้านบาท)
แน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องคิดว่าเธอโชคดีสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ! เพราะโอกาสถูกลอตเตอรี่ 1 ใบก็ว่ายากแล้ว แต่นี่เธอถูกรางวัลถึง 2 ครั้ง
จากข้อมูลของ The Sun ระบุว่า โอกาสในการถูกรางวัลแจ็กพอตครั้งแรกอยู่ที่ 1 ใน 3.2 ล้าน และโอกาสในการถูกรางวัลครั้งที่ 2 อยู่ที่ 1 ใน 5.2 ล้าน
แต่อดัมส์ไม่ได้โชคดีอย่างที่ใครๆ อิจฉาน่ะสิ เพราะในท้ายที่สุดโชคชะตาของเธอกลับลงเอยด้วยการสูญเสียเงินทั้งหมดและต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านที่เคลื่อนย้ายได้ (trailer park) เนื่องจากการตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาดและเสพติดการพนันอย่างรุนแรง
ก่อนอื่นต้องเล่าว่า เงินรางวัลของอดัมส์จ่ายให้เธอเป็นรายปีจำนวน 218,000 ดอลลาร์ (ราว 7.4 ล้านบาท) โดยเงินรางวัลครั้งแรก อดัมส์หักค่าใช้จ่ายและออมเงินบางส่วนไว้สำหรับค่าเรียนให้ลูกสาวของเธอ จากนั้นส่วนที่เหลือเธอเอาไปดูแลรถ ทั้งยังเอาเงินไปแบ่งใช้กับเพื่อนสนิทด้วย
เมื่อนิสัยการใช้จ่ายของเธอเพิ่มขึ้น อดัมส์จึงตัดสินใจเพิ่มยอดรวมตั๋วล็อตเตอรี่รายสัปดาห์จาก 25 ดอลลาร์ (ราว 860 บาท) เป็น 100 ดอลลาร์ (ราว 3,400 บาท) ต่อสัปดาห์
เมื่อใครหลายๆ คนไม่พอใจที่เธอกลายเป็นเศรษฐีในชั่วพริบตา
หลังจากอดัมส์ถูกรางวัลทั้ง 2 ครั้ง เธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอไม่สามารถไปไหนได้โดยที่ไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งนั่นทำให้เธอสูญเสียความเป็นส่วนตัว เพราะกลายเป็นเศรษฐีชั่วพริบตาภายในปีเดียว
แม้ว่าครอบครัวและเพื่อนหลายคนของอดัมส์จะยินดีกับเธอ แต่คนอื่นๆ กลับไม่พอใจในความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวของเธอ โดยชาวนิวเจอร์ซีย์ได้ระงับแผนการเรียนดนตรีของเธอไว้ และนำเงินบางส่วนของเธอไปซื้อร้านสะดวกซื้อที่เธอเคยทำงานแทน
แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจขายร้านดังกล่าวไปในภายหลัง และนำเงินรางวัลบางส่วนของเธอมาเป็นเงินกู้ ซึ่งส่วนใหญ่เธอไม่เคยได้รับการจ่ายคืนเลย ทว่าเมื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มขึ้น เงินก็เริ่มร่อยหรอและหมดไปในปี 2012 จากการเล่นพนันเป็นประจำที่คาสิโนแอตแลนติกซิตี
“การถูกลอตเตอรี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคาดเดาเสมอไป ถึงแม้ว่าฉันจะได้มันมาในชั่วข้ามคืน แต่สุดท้ายแล้วฉันก็สูญเสียมันไปเหมือนกัน มันเป็นการตกลงมาจากที่สูงที่รุนแรงมาก เรียกได้ว่าตกลงไปถึงจุดที่ต่ำที่สุดเลย” อดัมส์กล่าว
นอกจากนี้ อดัมส์ยังเล่าต่อไปว่าความสัมพันธ์ของเธอเปลี่ยนไปอย่างไรจากความมั่งคั่งของเธอ “ทุกคนต้องการเงินของฉัน”
“ฉันหวังว่าฉันจะมีโอกาสถูกลอตเตอรี่อีกครั้ง ฉันจะรอบคอบกว่านี้ให้มาก ฉันเป็นนักพนันตัวยง ฉันไม่ได้ทิ้งเงินแค่ 1 ล้านดอลลาร์ แต่มันเป็นเงินจำนวนมาก…ฉันทำผิดพลาด ฉันเสียใจกับบางเรื่องที่ทำลงไป แต่ตอนนี้ฉันย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ตอนนี้ฉันจึงได้แต่ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวเท่านั้น” อดัมส์กล่าวทิ้งท้าย
และมันเกิดขึ้นจริงๆ กับสาวอเมริกันซึ่งอาศัยอยู่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ที่ทำงานในร้านสะดวกซื้อ ทว่าเรื่องราวสุดอัศจรรย์ของเธอกลับไม่มีตอนจบอย่างที่คาดไว้
เรื่องมีอยู่ว่า…
ย้อนกลับไปในปี 1985 เอเวลิน อดัมส์ ถูกลอตเตอรี่มูลค่า 3.9 ล้านดอลลาร์ (ราว 133 ล้านบาท) แต่ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นก็คือ ในอีก 4 เดือนต่อมาเธอก็ได้แจ็กพอตเพิ่มอีก 1.4 ล้านดอลลาร์ (ราว 47 ล้านบาท)
แน่นอนว่าใครๆ ก็ต้องคิดว่าเธอโชคดีสุดๆ ไปเลยใช่ไหมล่ะ! เพราะโอกาสถูกลอตเตอรี่ 1 ใบก็ว่ายากแล้ว แต่นี่เธอถูกรางวัลถึง 2 ครั้ง
จากข้อมูลของ The Sun ระบุว่า โอกาสในการถูกรางวัลแจ็กพอตครั้งแรกอยู่ที่ 1 ใน 3.2 ล้าน และโอกาสในการถูกรางวัลครั้งที่ 2 อยู่ที่ 1 ใน 5.2 ล้าน
แต่อดัมส์ไม่ได้โชคดีอย่างที่ใครๆ อิจฉาน่ะสิ เพราะในท้ายที่สุดโชคชะตาของเธอกลับลงเอยด้วยการสูญเสียเงินทั้งหมดและต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านที่เคลื่อนย้ายได้ (trailer park) เนื่องจากการตัดสินใจทางธุรกิจที่ผิดพลาดและเสพติดการพนันอย่างรุนแรง
ก่อนอื่นต้องเล่าว่า เงินรางวัลของอดัมส์จ่ายให้เธอเป็นรายปีจำนวน 218,000 ดอลลาร์ (ราว 7.4 ล้านบาท) โดยเงินรางวัลครั้งแรก อดัมส์หักค่าใช้จ่ายและออมเงินบางส่วนไว้สำหรับค่าเรียนให้ลูกสาวของเธอ จากนั้นส่วนที่เหลือเธอเอาไปดูแลรถ ทั้งยังเอาเงินไปแบ่งใช้กับเพื่อนสนิทด้วย
เมื่อนิสัยการใช้จ่ายของเธอเพิ่มขึ้น อดัมส์จึงตัดสินใจเพิ่มยอดรวมตั๋วล็อตเตอรี่รายสัปดาห์จาก 25 ดอลลาร์ (ราว 860 บาท) เป็น 100 ดอลลาร์ (ราว 3,400 บาท) ต่อสัปดาห์
เมื่อใครหลายๆ คนไม่พอใจที่เธอกลายเป็นเศรษฐีในชั่วพริบตา
หลังจากอดัมส์ถูกรางวัลทั้ง 2 ครั้ง เธอก็รู้สึกราวกับว่าเธอไม่สามารถไปไหนได้โดยที่ไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งนั่นทำให้เธอสูญเสียความเป็นส่วนตัว เพราะกลายเป็นเศรษฐีชั่วพริบตาภายในปีเดียว
แม้ว่าครอบครัวและเพื่อนหลายคนของอดัมส์จะยินดีกับเธอ แต่คนอื่นๆ กลับไม่พอใจในความมั่งคั่งที่เกิดขึ้นแบบไม่ทันตั้งตัวของเธอ โดยชาวนิวเจอร์ซีย์ได้ระงับแผนการเรียนดนตรีของเธอไว้ และนำเงินบางส่วนของเธอไปซื้อร้านสะดวกซื้อที่เธอเคยทำงานแทน
แต่สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจขายร้านดังกล่าวไปในภายหลัง และนำเงินรางวัลบางส่วนของเธอมาเป็นเงินกู้ ซึ่งส่วนใหญ่เธอไม่เคยได้รับการจ่ายคืนเลย ทว่าเมื่อค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มขึ้น เงินก็เริ่มร่อยหรอและหมดไปในปี 2012 จากการเล่นพนันเป็นประจำที่คาสิโนแอตแลนติกซิตี
“การถูกลอตเตอรี่ไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนคาดเดาเสมอไป ถึงแม้ว่าฉันจะได้มันมาในชั่วข้ามคืน แต่สุดท้ายแล้วฉันก็สูญเสียมันไปเหมือนกัน มันเป็นการตกลงมาจากที่สูงที่รุนแรงมาก เรียกได้ว่าตกลงไปถึงจุดที่ต่ำที่สุดเลย” อดัมส์กล่าว
นอกจากนี้ อดัมส์ยังเล่าต่อไปว่าความสัมพันธ์ของเธอเปลี่ยนไปอย่างไรจากความมั่งคั่งของเธอ “ทุกคนต้องการเงินของฉัน”
“ฉันหวังว่าฉันจะมีโอกาสถูกลอตเตอรี่อีกครั้ง ฉันจะรอบคอบกว่านี้ให้มาก ฉันเป็นนักพนันตัวยง ฉันไม่ได้ทิ้งเงินแค่ 1 ล้านดอลลาร์ แต่มันเป็นเงินจำนวนมาก…ฉันทำผิดพลาด ฉันเสียใจกับบางเรื่องที่ทำลงไป แต่ตอนนี้ฉันย้อนเวลากลับไปไม่ได้ ตอนนี้ฉันจึงได้แต่ก้าวไปข้างหน้าทีละก้าวเท่านั้น” อดัมส์กล่าวทิ้งท้าย
