สำนักข่าว CNN รายงานว่า เมืองอู่ฮั่น เมืองใหญ่ที่สุดทางตอนกลางของจีนถึงกับต้องประกาศกับสาธารณชนให้บริษัทหลายร้อยแห่งในท้องถิ่นชำระหนี้ ความเคลื่อนไหวที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นว่าทางการท้องถิ่นหลายแห่งต้องเชผิญกับสถานการณ์ทางการเงินที่ย่ำแย่ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจ
แถลงการณ์ของกรมการคลังเมืองอู่ฮั่นที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ทางการ Changjiang Daily ระบุว่า บริษัทและกิจการ 259 แห่งเป็นหนี้ทางการเมืองอู่ฮั่นรวมกันมากกว่า 100 ล้านหยวน หรือราว 490.6 ล้านบาท และเรียกร้องให้บริษัทและกิจการเหล่านี้ชำระหนี้โดยเร็วที่สุด โดยลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกันของทางการเมืองอู่ฮั่นมีทั้งรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน หน่วยงานของรัฐ และสถาบันคลังสมอง
กรมการคลังระบุว่าทางการไม่สามารถเรียกเก็บหนี้และเสนอเงินรางวัลให้กับผู้ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับทรัพย์สินทางการเงินของลูกหนี้
ความเคลื่อนไหวของทางการเมืองอู่ฮั่นครั้งนี้นับเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก และเน้นย้ำถึงความท้าทายทางการคลังที่รัฐบาลท้องถิ่นของจีนต้องเผชิญ
นโยบายโควิดต้องเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงสร้างภาระทางงบประมาณแก่หลายเมืองและหลายมณฑล เพราะต้องทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐไปกับการล็อกดาวน์ การตรวจหาเชื้อในวงกว้าง และศูนย์กักตัว ก่อนที่ทางการจีนจะเปลี่ยนนโยบายเมื่อปลายปีที่แล้ว อีกทั้งวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ยังซ้ำเติมปัญหา เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นต้องพึ่งพาภาษีจากการขายที่ดินเป็นหลัก
นักวิเคราะห์คาดว่าหนี้ภาครัฐคงค้างของจีนทะลุ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เกือบ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นหนี้แอบแฝง (hidden debt) ซึ่งเป็นหนี้จากการจัดหาเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีความเสี่ยง
และด้วยความที่งบประมาณมีจำกัด บางเมืองต้องตัดลดสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุจนเกิดการประท้วงมาแล้ว และมีแนวโน้มว่าอาจต้องลดสวัสดิการที่จำเป็นอื่นๆ อีก
การประกาศทวงหนี้ของเมืองอู่ฮั่นเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากทางการท้องถิ่นเมืองคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนานไม่สามารถรวบรวมเงินมาชำระหนี้คืนบรรดาผู้ถือพันธบัตร โดยมณฑลยูนนานเป็นหนึ่งในมณฑลที่เป็นหนี้มากที่สุดของจีน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วหนี้คงค้างต่ออัตรารายได้ทางการคลังของยูนนานสูงกว่า 1,000%
อย่างไรก็ดี อู่ฮั่นและคุนหมิงไม่ใช่เมืองเดียวที่ทางการเปิดเผยปัญหาหนี้สิน มณฑลกุ้ยโจว หนึ่งในมณฑลที่ยากจนที่สุดของจีน ก็เพิ่งยอมรับต่อสาธารณชนว่าไม่สามารถจัดการปัญหาทางการเงินและร้องขอให้ปักกิ่งช่วยเหลือไม่ให้ผิดนัดชำระหนี้
แถลงการณ์ของกรมการคลังเมืองอู่ฮั่นที่เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ทางการ Changjiang Daily ระบุว่า บริษัทและกิจการ 259 แห่งเป็นหนี้ทางการเมืองอู่ฮั่นรวมกันมากกว่า 100 ล้านหยวน หรือราว 490.6 ล้านบาท และเรียกร้องให้บริษัทและกิจการเหล่านี้ชำระหนี้โดยเร็วที่สุด โดยลูกหนี้หรือผู้ค้ำประกันของทางการเมืองอู่ฮั่นมีทั้งรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน หน่วยงานของรัฐ และสถาบันคลังสมอง
กรมการคลังระบุว่าทางการไม่สามารถเรียกเก็บหนี้และเสนอเงินรางวัลให้กับผู้ที่ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับทรัพย์สินทางการเงินของลูกหนี้
ความเคลื่อนไหวของทางการเมืองอู่ฮั่นครั้งนี้นับเป็นเรื่องผิดปกติอย่างมาก และเน้นย้ำถึงความท้าทายทางการคลังที่รัฐบาลท้องถิ่นของจีนต้องเผชิญ
นโยบายโควิดต้องเป็นศูนย์ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิงสร้างภาระทางงบประมาณแก่หลายเมืองและหลายมณฑล เพราะต้องทุ่มเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐไปกับการล็อกดาวน์ การตรวจหาเชื้อในวงกว้าง และศูนย์กักตัว ก่อนที่ทางการจีนจะเปลี่ยนนโยบายเมื่อปลายปีที่แล้ว อีกทั้งวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ยังซ้ำเติมปัญหา เนื่องจากรัฐบาลท้องถิ่นต้องพึ่งพาภาษีจากการขายที่ดินเป็นหลัก
นักวิเคราะห์คาดว่าหนี้ภาครัฐคงค้างของจีนทะลุ 18 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งในจำนวนนี้เกือบ 10 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นหนี้แอบแฝง (hidden debt) ซึ่งเป็นหนี้จากการจัดหาเงินของรัฐบาลท้องถิ่นที่มีความเสี่ยง
และด้วยความที่งบประมาณมีจำกัด บางเมืองต้องตัดลดสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลของผู้สูงอายุจนเกิดการประท้วงมาแล้ว และมีแนวโน้มว่าอาจต้องลดสวัสดิการที่จำเป็นอื่นๆ อีก
การประกาศทวงหนี้ของเมืองอู่ฮั่นเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากทางการท้องถิ่นเมืองคุนหมิง เมืองหลวงของมณฑลยูนานไม่สามารถรวบรวมเงินมาชำระหนี้คืนบรรดาผู้ถือพันธบัตร โดยมณฑลยูนนานเป็นหนึ่งในมณฑลที่เป็นหนี้มากที่สุดของจีน ซึ่งเมื่อปีที่แล้วหนี้คงค้างต่ออัตรารายได้ทางการคลังของยูนนานสูงกว่า 1,000%
อย่างไรก็ดี อู่ฮั่นและคุนหมิงไม่ใช่เมืองเดียวที่ทางการเปิดเผยปัญหาหนี้สิน มณฑลกุ้ยโจว หนึ่งในมณฑลที่ยากจนที่สุดของจีน ก็เพิ่งยอมรับต่อสาธารณชนว่าไม่สามารถจัดการปัญหาทางการเงินและร้องขอให้ปักกิ่งช่วยเหลือไม่ให้ผิดนัดชำระหนี้