ตลาดหุ้นไทยยังเลือดไหลออกไม่หยุด ดัชนี SET ดิ่งเหวอีก 21.28 จุด ลงไปปิดลึกถึงระดับ 1,377.67 จุด มูลค่าการซื้อขาย กว่า 4.5 หมื่นล้านบาท แต่ยังต้องเจอระเบิดเวลาอีกลูกวันนี้ (20 ธันวาคม 2567) จากกรณี Z.com ปิดบัญชีมาร์จิน คาดนักลงทุนอาจถูก ‘ฟอร์ตเซล’ บังคับเทขายหุ้นจนตลาดเกิด Panic Sell
ราวกลางปีที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) จีเอ็มโอ-แซด คอม(ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ Z.com มีจดหมายแจ้งไปยังบรรดาลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขายหุ้น เพื่อใช้สิทธิบอกเลิกสัญญากู้ยืมเพื่อซื้อหลักทรัพย์แบบมาร์จิน และแจ้งให้ลูกค้าชำระหนี้คงค้างทั้งหมดให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ธันวาคมนี้
หลังจากมีหนังสือดังกล่าว บรรดานักลงทุนที่เป็นลูกค้าของ ‘แซดคอม’ พยายามขอผ่อนผันเจรจาขอประนอมหนี้ หลายครั้งแต่ไม่ประสบความสำเร็จ โดยยังคงยืนยันว่าจะปิดบัญชีมาร์จินของบรรดาลูกค้าทั้งหมดตามกำหนดเดิมคือวันนี้
ทำให้เกิดความกังว่า หากภาวะตลาดหุ้นยังคงอยู่ในโหมด ‘ขาลง’ ต่อเนื่องอีกในวันนี้ บริษัทอาจจะใช้สิทธิบังคับชำระหนี้ ซึ่งจะทำให้ ‘ถูกบังคับขาย’ (Force Sell) หุ้นที่ติดบัญชีมาร์จินทั้งหมดออกมา ซึ่งจะยิ่งทำให้ภาวะตลาดหุ้นทรุดหนักลงอย่างรุนแรง
มีความพยายามที่จะแก้ปัญหา โดยกลุ่มลูกค้าของ ‘แซดคอม’ มีการร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปถึง รองนายกฯและรมว.คลัง ‘พิชัย ชุณหวชิร’ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสถานทูตญี่ปุ่น เนื่องจากบริษัทมีผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นคนสัญชาติญี่ปุ่น โดยระบุว่าปัญหาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ และทำให้เกิดความเสียหายต่อตลาดทุนของไทยอย่างประเมินค่ามิได้
คงต้องยอมรับว่าตลาดหุ้นไทยในเวลานี้ มีความ ‘เปราะบาง’ อย่างมาก เพราะเพิ่งเผชิญกับแรงขายอย่างหนักที่เกิดกับ 3 หุ้นของกลุ่มเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพี คือ CPAXT CPALL และ CPF จนฉุดให้ดัชนีหุ้นไทยทรุดต่อเนื่องมาตลอดสัปดาห์
ทั้งหมดเป็นผลมาจาก นักลงทุนกังวลกับธุรกรรมที่ไม่ปกติของบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) CPAXT เจ้าของแม็คโครและโลตัส ยักษ์ใหญ่ด้านค้าส่ง-ค้าปลีกของไทยซึ่งประกาศทุ่มเงิน 7,970 ล้านบาท เข้าไปลงทุนในโครงการ **‘แฮปปี้แทท’**Happitat ที่เป็นส่วนหนึ่งในอภิมหาโปรเจค ‘เดอะ ฟอเรสเทียส์’ The Forestias ของ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC ที่ก่อตั้งและบริหารโดย ‘ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์’ ลูกสาวคนเล็กของ ‘เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์’ อภิมหาเศรษฐี เบอร์ต้นๆ ของไทย และเป็นเจ้าของอาณาจักรเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี)
กรณีล่าสุดที่เกิดกับ แซดคอม จึงทำให้เกิดความวิตกว่า อาจจะยิ่ง ‘ซ้ำเติม’ ให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก ถึงแม้ล่าสุด แซดคอม จะมีคำชี้แจงซึ่งระบุว่าปัจจุบันบริษัทมียอดหนี้รวมของบัญชีมาร์จินอยู่ที่ประมาณ 800 ล้านบาท แต่ก็ยังคงเป็นปริศนาว่ามีความเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการลดวงเงินบัญชีลูกหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นลงไปถึง 5,079.66 ล้านบาท หรือ 86.39% เมื่อเทียบกับยอด ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2567 ที่ 5,879.66 ล้านบาท
คาดว่าสาเหตุที่ทำให้ ‘แซดคอม’ ตัดสินใจยุติธุรกรรมปล่อยมาร์จินในการซื้อขายหุ้น เนื่องจากที่ผ่านมาผลประกอบการในประเทศไทย แม้จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจาก 1,040.07 ล้านบาทในปี 2565 เป็น 1,115.56 ล้านบาทในปี 2566 แต่บริษัทมีรายจ่ายสูงถึงกว่า 1,500 ล้านบาทต่อปี ส่งผลให้ขาดทุนต่อเนื่อง 2 ปี รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
ในขณะที่ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. นั้น Z.com มีรายได้รวมอยู่ที่ 527.64 ล้านบาท ลดลงจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 647.68 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสำหรับงวดดังกล่าวอยู่ที่ 1,006.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเทียบช่วงเดียวกันในปีก่อนที่ 361.67 ล้านบาท
คงต้องรอลุ้นกันว่า ภาวะตลาดหุ้นไทยในวันนี้ จะเกิดแรงกระแทกจากกรณีของ แซดคอม มากน้อยขนาดไหน