การสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาไม่ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ตาม ถือเป็นจุดเริ่มต้นของประเพณีต่างๆ ในคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิก ไม่ว่าจะเป็นการเผยพระศพของพระสันตะปาปาต่อสาธารณชน การจัดเตรียมพิธีมิสซาบังสุกุล การฝังพระศพของพระองค์ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ตลอดจนการเลือกผู้สืบทอดตำแหน่งพระสันตะปาปาองค์ต่อไป
เมื่อปีที่แล้ว สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสได้แก้ไขพิธีกรรมต่างๆ โดยลดความซับซ้อนของพิธีกรรมศพเพื่อเน้นย้ำถึงบทบาทของพระองค์ในฐานะบิชอป และอนุญาตให้ฝังพระศพนอกวาติกันได้ตามพระประสงค์ของพระองค์
การปฏิรูปดังกล่าวถูกรวมไว้ในหนังสือสีแดงบางๆ ‘Ordo Exsequiarum Romani Pontificis’ ซึ่งเป็นภาษาละติน แปลว่า ‘พิธีกรรมฝังพระศพของพระสันตะปาปาแห่งโรม’
ทำไมถึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงพิธีศพ?

หลังจากพิธีศพของพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 เมื่อปี 2023 พระสันตะปาปาฟรานซิสเปิดเผยว่าพระองค์กำลังทำงานร่วมกับ อาร์ชบิชอป ดิเอโก ราเวลลี ปรมาจารย์ด้านพิธีกรรมของวาติกัน เพื่อยกเครื่องหนังสือพิธีกรรมทั้งหมดให้ ‘เรียบง่าย’ ขึ้น
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมาย ‘เพื่อเน้นย้ำว่างานศพของพระสันตะปาปาเป็นงานของศิษยาภิบาลและสาวกของพระคริสต์ ไม่ใช่งานของบุคคลที่ทรงอำนาจในโลกนี้’
เมื่อพระสันตะปาปาสิ้นพระชนม์ ร่างของพระองค์จะถูกฝังไว้ในโบสถ์ส่วนตัวของพระองค์เพื่อใช้ในพิธีประกาศการสิ้นพระชนม์ โดยมีพระคาร์ดินัลเควิน ฟาร์เรล ซึ่งดำรงตำแหน่งคาเมอร์เลนโก เป็นเจ้าหน้าที่ของวาติกันที่ทำหน้าที่บริหารงานของนครรัฐวาติกันระหว่างการสิ้นพระชนม์ หรือการลาออกของพระสันตะปาปา
การเปลี่ยนแปลงจากอดีตทำให้พิธีกรรมไม่จำเป็นต้องบรรจุร่างของพระสันตะปาปาในโลงศพ 3 ชั้นแบบดั้งเดิมที่ทำจากไม้ไซเปรส ตะกั่ว และไม้โอ๊กอีกต่อไป แต่ในปัจจุบัน ร่างของพระสันตะปาปาจะถูกบรรจุอยู่ในโลงศพไม้ โดยมีโลงศพบุสังกะสีอยู่ข้างใน
ร่างของพระสันตะปาปาจะถูกสวมด้วยชุดพิธีกรรมสีแดง สวมเครื่องประดับศีรษะตามประเพณีของบาทหลวง และผ้าคลุมศีรษะที่ทำจากขนสัตว์ รวมถึงวางผ้าขาวไว้บนใบหน้าของพระสันตะปาปา จากนั้น ราเวลลี ปรมาจารย์ด้านพิธีกรรมทางศาสนา จะเป็นผู้ตัดสินใจว่าผู้ศรัทธาคนอื่นๆ จะสามารถแสดงความเคารพได้เมื่อใด ก่อนที่โลงศพจะถูกย้ายไปยังมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์เพื่อให้ประชาชนได้สักการะ
เมื่อนำร่างของพระสันตะปาปาเข้าไปในมหาวิหาร บทสวดสรรเสริญนักบุญจะถูกขับร้องขึ้น โดยมีคาเมอร์เลนโกเป็นผู้นำขบวน
การเปลี่ยนแปลงอีกประการหนึ่งคือ ร่างของพระสันตะปาปาจะไม่ถูกวางไว้บนแท่นศพอีกต่อไป แต่จะนำโลงศพไม้แบบเรียบง่ายมาวางไว้ตรงข้ามกับม้านั่ง โดยมีเทียนปาสคาลวางอยู่ใกล้ๆ ในคืนก่อนงานพระศพ คาเมอร์เลนโกจะทำหน้าที่ปิดผนึกโลงศพ โดยมีพระคาร์ดินัลอาวุโสท่านอื่นๆ เข้าร่วมด้วย
งานพระศพและพิธีกรรมฝังพระศพ

งานพระศพจะถูกจัดขึ้นโดยคณบดีคณะคาร์ดินัล หรือหากไม่สามารถจัดได้ รองคณบดีหรือพระคาร์ดินัลอาวุโสท่านอื่นจะเป็นผู้ดำเนินการจัดงานพระศพ คณบดีคนปัจจุบันคือ พระคาร์ดินัลจิโอวานนี บัตติสตา เร ชาวอิตาลี วัย 91 ปี ส่วนรองคณบดีคือ พระคาร์ดินัลเลโอนาร์โด ซานดรี ชาวอาร์เจนตินา วัย 81 ปี ในช่วงต้นปีนี้ พระสันตะปาปาฟรานซิสได้ขยายวาระการดำรงตำแหน่งทั้ง 2 วาระจากเดิม 5 ปี แทนที่จะแต่งตั้งใหม่
การปฏิรูปของพระสันตะปาปาฟรานซิสอนุญาตให้ฝังพระศพนอกวาติกัน โดยมีคาเมอร์เลนโกเป็นประธาน มีการประทับตราต่างๆ ลงบนโลงศพ แล้วนำไปฝังไว้ในหลุมฝังศพ
พระสันตะปาปาฟรานซิสเคยตรัสว่าพระองค์ไม่ต้องการฝังพระศพในมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ หรือในถ้ำต่างๆ ของมหาวิหาร ซึ่งเป็นที่ฝังพระสันตะปาปาส่วนใหญ่ แต่ต้องการฝังพระศพในมหาวิหารเซนต์แมรี่เมเจอร์ที่อยู่อีกฟากของเมือง การเลือกของพระองค์สะท้อนให้เห็นถึงการที่พระองค์เคารพบูชาไอคอนของพระแม่มารีที่ประทับอยู่ที่นั่น ซึ่งก็คือ ‘รูปเคารพของพระแม่มารี ‘Salus Populi Romani’
หลังจากเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง พระสันตะปาปาฟรานซิสจะไปที่มหาวิหารเพื่อสวดมนต์ต่อหน้าภาพวาดแบบไบแซนไทน์ที่มีภาพของพระแม่มารีสวมเสื้อคลุมสีน้ำเงินและอุ้มพระกุมารเยซูซึ่งถือหนังสือทองคำประดับอัญมณี
เมื่อพิธีฝังพระศพเสร็จสิ้น คริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิกจะเริ่มการไว้อาลัยอย่างเป็นทางการเป็นเวลา 9 วัน ซึ่งเรียกว่า ‘novemdiales’ และเริ่มการประชุมเลือกสันตะปาปาองค์ใหม่ (conclave)