วันนี้ได้เห็นกลุ่มพลังทางสังคม ออกมาส่งเสียงต้านไม่เอาบ่อนกาสิโน เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ท่ามกลางเสียงปรามาสจากคนในรัฐบาลว่า เป็นพวกขาประจำกลุ่มเดิมๆ ไม่ใช่เสียงข้างมากของคนทั้งประเทศ
‘ภูมิธรรม เวชยชัย’ อดีตสหายใหญ่ ที่ได้ดิบได้ดีเป็นเสนาบดี นั่งอยู่บนหอคอยงาช้าง มองการออกมาคัดค้านอบายมุกของผู้นำทุกศาสนา กลุ่มหมอ ถูกเหมารวมเป็นพวกขาประจำไปด้วย ทั้งๆ ที่ต่างคนต่างแสดงออกในมิติของมาฆบูชา
แต่ภูมิธรรม จงใจนับเอาเฉพาะคนที่มายืนตากแดดอยู่หน้าสภาว่า ไม่ใช่เสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ ทั้งจับเอา 80,000 เสียง ของผู้แสดงความเห็นในร่างกฎหมายกาสิโน ที่มีผู้เห็นด้วยมากกว่า 80% เป็นตัวประกัน
‘ธนากร คมกฤส’ เลขาธิการมูลนิธิหยุดพนัน ซึ่งเป็นเสมือนไม่ขีดก้านแรก ที่ลุกขึ้นมาคัดค้านกฎหมายกาสิโน จับโกหกคนในรัฐบาลที่อ้างความชอบธรรมจากประชาชน 80,000 เสียง เป็นการ ‘มั่วตัวเลข’
เพราะปกติการเปิดให้ประชาชนแสดงความเห็นร่างกฎหมายตามกลไกรัฐธรรมนูญ มาตรา 77 จะมีผู้มาแสดงความเห็นอยู่ในระดับหลักพัน มีเพียงร่างกฎหมายกาสิโนเท่านั้น ที่มีตัวเลขทะลุถึงแปดหมื่นเสียง ซึ่งในกระบวนการ ‘ไม่ได้จำกัดจำนวนครั้ง’ เอาไว้
ดังนั้น คนๆ หนึ่ง จึงสามารถเข้ามาให้ความเห็นได้หลายครั้ง ประมาณว่า คิดอะไรได้ตอนไหนก็เข้ามาให้ความเห็นในตอนนั้น แต่ถูกนำมารวมเป็นยอดใหม่ด้วยทุกครั้ง
นี่แหล่ะที่เรียกว่า มั่วตัวเลขของแท้
ส่วนที่อ้างผลศึกษาของสภาที่ทำเรื่องนี้ไว้นานตั้งแต่สมัยรัฐบาล ‘ลุงตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั้น เลขาธิการมูลนิธิหยุดพนัน โต้แย้งว่าเป็นการศึกษาเฉพาะฝ่ายการเมือง ที่ตั้งธงไว้ต้องการให้มีบ่อนพนันถูกกฎหมาย ดังนั้นหากจะอ้างผลศึกษา ก็ต้องมาว่ากันใหม่โดยเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วม
ในฐานะเลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ธนากร ขอให้รัฐบาลถอยมา 1-2 ก้าว ก่อนจะเดินหน้าเปิดบ่อนกาสิโน คือ ถอนร่างกฎหมายออกไปก่อน จากนั้น ค่อยตั้งต้นศึกษาใหม่ เมื่อเสร็จแล้วให้จัดทำประชามติสอบถามความเห็นประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการมีบ่อนกาสิโน
แต่หากไม่อยากถอยไปไกล ก็เริ่มที่ทำประชามติกันเลย
สุดท้ายธนากร เห็นด้วยกับการออกมาเคลื่อนไหวตามธรรมชาติของประชาชนแต่ละกลุ่ม เพราะนอกจากจะไม่ถูกรัฐบาลนำไปอ้างว่าเป็นพวกเดียวกันแล้ว ยังจะทำให้เกิดพลังนำไปสู่จุดเปลี่ยนได้ด้วย
แต่เมื่อสายตาคนในรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย มองบ่อนกาสิโน เป็นสถานท่องเที่ยว ที่จะเป็นแหล่งนำเงินเข้าประเทศ ทดแทนการขึ้นภาษีมหาโหดของผู้นำสหรัฐ โดยไม่คำนึงถึงต้นทุนทางสังคม ที่จะส่งผลกระทบตามมานานัปการ
มันจึงไม่ต่างจากเห็นกงจักรเป็นดอกบัว
พรุ่งนี้ ถ้ารัฐบาลเพื่อไทยมั่นใจว่ากาสิโน จะทำให้คนไทยมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ก็ใช้เสียงข้างมาก ‘พลิกแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง’ ของบรรพบุรุษไทย สร้างเมืองบาปขึ้นมาเลยอย่าได้รอช้า
ส่วนประชาชนที่ไม่เห็นด้วย อีกสองปีก็ไปแสดงออกกันในคูหาเลือกตั้ง ช่วยกัน ‘ฝังกลบ’ พรรคการเมืองอบายมุกด้วยสองมือ แล้วค่อยนำแผ่นดินธรรมแผ่นดินทองกลับมาใหม่
ถึงเวลาที่พรรคร่วมรัฐบาลต้องเลือก จะกลัวผู้มีอำนาจเหนือรัฐขับออกจากรัฐนาวาวันนี้ หรือจะถูกประชาชนลงทัณฑ์ผ่านการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็ไปตัดสินใจกันเองได้
ไม่ต้องรอให้ ‘เฮียตือ’ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล พ่อรองประธานฯ ภราดร ปริศนานันทกุล ลุกขึ้นมากระตุกต่อมสำนึกรักเกียรติ รักศักดิ์ศรี รักบ้านเมืองหรอก
ในขณะที่สภาสูง สว.พันธุ์ใหม่ ก็เสนอให้รัฐบาลจัดทำประชามติร่างกฎหมายกาสิโน ส่วนสว.สีน้ำเงิน ก็ออกโรงเสนอให้วุฒิสภา ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นมาศึกษาเรื่องนี้เช่นกัน
จากสัญญาณที่ว่ามา หากคนชื่อ ทักษิณ ชินวัตร ยังอหังการ์ เดินหน้าผลักดันกฎหมายกาสิโน ย่อมมีโอกาสสูงที่จะนำไปสู่จุดเปลี่ยนของการเมืองไทย?!
